xs
xsm
sm
md
lg

จากร้อนสู่เย็น “น้ำเต้าหู้ปั่นบ้านฉัน” Signature น้ำเต้าหู้ยุคใหม่

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เดิมทีน้ำเต้าหู้ที่หลายคนรู้จักจะเป็นน้ำเต้าหู้แบบร้อนรวมถึงเมนูอื่นๆ ซึ่งผู้ที่บริโภคส่วนมากนั้นจะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ ทำให้ร้านน้ำเต้าหู้บ้านฉันเกิดไอเดียที่จะดึงดูดลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นและอื่นๆ ด้วยการดัดแปลงน้ำเต้าหู้ร้อนให้กลายเป็นเมนูเครื่องดื่มในรูปแบบของการปั่นหรือเย็นนั่นเอง โดยการตัดสินใจลงมือทำสามารถดึงดูดลูกค้าได้หลากหลายกลุ่มมากขึ้น ปัจจุบันมีร้านน้ำเต้าหู้บ้านฉันเป็นสาขาที่ 2 ไปแล้ว

นายชยพล ช่วงไชยกิจ เจ้าของธุรกิจขายน้ำเต้าหู้ปั่น แบรนด์ น้ำเต้าหู้บ้านฉัน

นายชยพล ช่วงไชยกิจ เจ้าของธุรกิจขายน้ำเต้าหู้ปั่น แบรนด์ น้ำเต้าหู้บ้านฉัน เล่าว่า จุดเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์และเริ่มต้นธุรกิจนั้นเริ่มต้นจากที่ตนมีอาชีพขายน้ำเต้าหู้แบบร้อน รวมถึง เต้าฮวย เต้าทึง น้ำขิง มันต้มขิง และถั่วเขียวต้มน้ำตาล ในเวลาช่วงบ่ายของทุกวันตนต้องเข็นรถจากบ้านออกมาขาย โดยอาศัยพื้นที่บนฟุตบาทข้างถนนบริเวณเขตเทศบาลตลาดท่าม่วง ซึ่งตนได้ทำการขายน้ำเต้าหู้มาได้ประมาณ 10 กว่าปี จนวันหนึ่งประมาณต้นปีที่ผ่านมา มีประกาศติดว่ามีห้องว่างให้เช่าบริเวณที่ขายน้ำเต้าหู้ ตนเลยตัดสินใจเช่าเพื่อเปิดเป็นหน้าร้านเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเข็นรถไปกลับทุกทุกวัน และไม่ต้องทนแดดทนฝนเหมือนที่ผ่านๆ มา



ทั้งนี้ตนต้องวิตกกังวลและคิดหนักในเรื่องของค่าเช่าบ้านในสภาวะที่เศรษฐกิจย่ำแย่ในขณะนี้ จึงทำให้ตนตัดสินใจรีบเช่าห้องเอาไว้ เนื่องจากพื้นที่จอดรถเข็นที่เคยมาขายประจำเป็นพื้นที่สาธารณะ ไม่มีความแน่นอนในอนาคต ซึ่งการเปิดหน้าร้านจึงเป็นทางเดียวที่ตนคิดได้ในตอนนั้น หลังจากนั้นตนจึงได้ตระหนักคิดอยู่หลายวันในการที่จะพัฒนาน้ำเต้าหู้อย่างไรให้สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นได้ เพื่อที่จะได้มีค่าเช่าบ้าน



นอกจากนี้ปกติแล้วคนจะกินน้ำเต้าหู้ในตอนเช้าและตอนเย็น ทำอย่างไรให้สามารถขายน้ำเต้าหู้ได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งส่วนมากแล้วคนที่เข้ามาซื้อน้ำเต้าหู้นั้นจะมีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานไม่นิยมกินน้ำเต้าหู้กัน ตนจึงมีความคิดว่าคงอาจเป็นเพราะน้ำเต้าหู้เป็นเครื่องดื่มเก่าแก่โบราณไม่ทันสมัยบวกกับสภาพอากาศบ้านเราร้อนเลยทำให้น้ำเต้าหู้ร้อนไม่ได้รับความนิยมมากนักในความคิดของตน ทั้งนี้ตนจึงเกิดไอเดียแปลกใหม่ลองทำน้ำเต้าหู้ให้ทันยุคสมัยโดยมีเอกลักษณ์ มีสีสันน่ากิน มีจุดเด่นและจุดขายที่แปลกตาจากน้ำเต้าหู้ร้อนธรรมดาจึงกลายมาเป็นน้ำเต้าหู้ปั่นจากร้อนกลายเป็นเย็น



ทั้งนี้การที่จะทำให้น้ำเต้าหู้ร้อนมาเป็นน้ำเต้าหู้ปั่นที่กินแล้วอร่อยไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะรสชาติคงผิดเพี้ยนและแปลกไปมาก ทำให้ตนเริ่มลองผิดลองถูกอยู่ประมาณ 2-3 เดือน โชคดีจากจุดที่เป็นได้ยากแต่ก็ไม่ยากเกินที่จะลงมือทำ เพราะตนได้ใช้ประสบการณ์จากการที่ตนนั้นคลุกคลีอยู่กับน้ำเต้าหู้มากว่า 10 ปี ทำให้ตนสามารถดัดแปลงและปรับสูตรน้ำเต้าหู้จนลงตัวได้บวกกับเครื่องเคียงที่มีอยู่เพิ่มเป็นท็อปปิ้งให้เมนูน้ำเต้าหู้ปั่นน่ากินมากยิ่งขึ้น หลังจากคิดค้นสูตรได้แล้วนั้นตนเริ่มทำให้คนรอบข้าง ญาติ พี่น้องและเพื่อนๆ ได้ลองกิน ผลปรากฏว่าพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าน้ำเต้าหู้ปั่นของตนนั้นอร่อยไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดร้านขายน้ำเต้าหู้ปั่น



นอกจากนี้ในวันที่เปิดร้านขายวันแรกมีทั้งขายบ้าง แจกบ้าง ความคิดในตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่าต้องการให้มีคนเข้ามากินน้ำเต้าหู้ปั่นของทางร้านให้มากที่สุด ตนต้องการฟังเสียงตอบรับจากลูกค้าเพื่อที่จะได้นำมาพัฒนาเมนูต่อไป จากวันแรกที่ลองทำนั้นทำให้ได้รับผลตอบรับจากลูกค้าที่บอกต่อปากต่อปากจนสามารถทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นเท่าตัว เหตุนี้เองจึงเป็นฉนวนให้เกิดความคิดถึงการสร้างเอกลักษณ์ให้แก่ร้านโดยทางร้านมีชื่อว่า “น้ำเต้าหู้บ้านฉัน” โดยมีการออกแบบโลโก้เป็นรูปถั่ว 2 ตัว มีความหมายว่า “ความสุขและดีใจที่ได้กินน้ำนมถั่วเหลืองบ้านฉัน” ซึ่งเป็นจินตนาการที่ทางร้านได้คิดค้นขึ้นมา



หลังจากที่เปิดร้านมาได้สักพักทำให้คนรู้จักเพิ่มมากขึ้น เริ่มมีลูกค้าให้ความสนใจและได้มีลูกค้ามากินน้ำเต้าหู้ปั่นที่ร้านและถ่ายรูปโพสต์ลงโซเชียล ทำให้ข้อมูลร้านนั้นเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันทางร้านมีเมนูน้ำเต้าหู้ปั่นหลากหลายเมนู เช่น น้ำเต้าหู้ปั่นทรงเครื่อง น้ำเต้าหู้ปั่นงาดำ น้ำเต้าหู้ปั่นถั่ว 5 สี น้ำเต้าหู้ปั่นชาเชียว น้ำเต้าหู้ปั่นโกโก้ น้ำเต้าหู้ปั่นชาไทยและอื่นๆ ซึ่งเมนูที่เป็นซิกเนอเจอร์ของทางร้านคือเมนู น้ำเต้าหู้ปั่นถั่ว 5 สี และน้ำเต้าหู้ปั่นงาดำ ทั้งสองเมนูนี้เป็นเมนูยอดฮิตและขายดี ส่วนเมนูน้องใหม่ที่เพิ่งคลอดนั้นก็คือเมนู เต้าทึงปั่น เป็นเมนูที่มีความสดชื่นในตัว ทางร้านมีท็อปปิ้งให้เลือกถึง 15-16 อย่าง ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามใจชอบ



ทั้งนี้น้ำเต้าหู้ปั่นมีราคาอยู่ที่แกล้ว 20 บาท น้ำเต้าหู้ปั่นทรงเครื่องแก้วละ 25 บาท น้ำเต้าหู้ปั่นชาไทย ชาเขียวและงาดำ แก้วละ 25 บาท น้ำเต้าหู้ปั่นงาดำในเครื่อง 30 บาท และน้ำเต้าหู้ปั่นถั่ว 5 สี ราคาแก้วละ 30 บาท ปัจจุบันทางแบรนด์มีทั้งหมด 2 สาขา ได้แก่ สาขาท่าม่วงและสาขาเมืองกาญจน์ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งในอนาคตจะมีสาขาที่ 3 และ 4 ตามมาอย่างแน่นอนรวมถึงการทำแฟรนไชส์เพื่อต่อยอดธุรกิจอีกด้วย


อย่างไรก็ตาม น้ำเต้าหู้บ้านฉัน มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ยังคงความเป็นน้ำเต้าหู้ดั้งเดิมแต่ดัดแปลงให้สามารถเป็นน้ำเต้าหู้ที่สามารถกินได้ตลอดทั้งวัน รวมถึงสามารถกินได้ทุกเพศทุกวัยเพราะน้ำเต้าหู้มีประโยชน์ มีวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย

ติดต่อเพิ่มเติม

Facebook : น้ำเต้าหู้บ้านฉัน
Tel. 089 964 0174
















* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *



กำลังโหลดความคิดเห็น