ด้วยการลงศึกษาดูงานโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” ในพื้นที่ตำบลโก่งธนู อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ในพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยพัฒนากรทั่วประเทศของกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทย นำมาสู่การถอดแบบและขยายผลสู่แผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ต่อยอดการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนระดับฐานราก สร้างความรักความสามัคคีในครอบครัว มีอาหารปลอดภัยไว้บริโภค มุ่งมั่นลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และสร้างความยั่งยืนตามแนวทางของ SDGs ในเรื่องการขจัดความหิวโหย
ทั้งนี้ การขยายผลสู่แผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ของกรมการพัฒนาชุมชน ได้ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับหลังจากการร่วมปลูกผักสวนครัว กล่าวคือ จะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่าย 50 บาท/วัน/ครัวเรือน เป้าหมายของโครงการคือ 12 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศจะต้องสามารถลดค่าใช้จ่ายได้กว่า 200,000 ล้านบาท/ปี
โดยศูนย์รายงานข้อมูลปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัว เพื่อความมั่นคงทางอาหาร ระบุรายชื่อ 5 จังหวัดต้นแบบที่เปลี่ยนพื้นที่ในบ้านและชุมชนให้เป็นแปลงผักสวนครัวสีเขียวเต็มพื้นที่ 100% ประกอบด้วย จังหวัดพัทลุง พิษณุโลก ตาก ร้อยเอ็ด และอุบลราชธานี และภาพรวม ณ ปัจจุบันมีครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัวแล้ว 10,679,737 ครัวเรือน จากจำนวนเป้าหมาย 11,811,124 ครัวเรือน คิดเป็น 90.42% (ข้อมูล ณ วันที่ 28 พฤษภาคม 2563)
ครอบครัวชาว พช. ร่วมกับหน่วยงานภาคีทุกภาคส่วน โหมโรงปลุกกระแสปลูกทุกอย่างที่กิน และกินทุกอย่างที่ปลูก จนเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมและยังคงเดินหน้าขยายพื้นที่ความสำเร็จให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ในประเทศไทย กรมการพัฒนาชุมชนจึงอยากเชิญชวนคนไทยทุกครัวเรือนร่วมปลูกผักสวนครัว เริ่มต้นจากพื้นที่ว่างเล็กๆ ภายในบ้าน พร้อมชวนลูกหลานให้รู้จักทักษะชีวิตผ่านการปลูกผัก ฝึกฝนการอดทนรอคอย การเสียสละ สร้างรอยยิ้มให้เกิดขึ้นในครอบครัว ขยายสู่สังคมแห่งการแบ่งปัน และทำให้เรามีอาหารปลอดภัยไว้กินระยะยาว ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในสังคมแห่งการเรียนรู้ แชร์ภาพกิจกรรมความสุขแล้วส่งต่อมาที่กลุ่มเฟซบุ๊ก “ปลูกพืช ปลูกผัก ปลูกรัก กับ พช.”