“หรั่ง พระนคร” อดีตนักโทษยาเสพติด ที่ผ่านการเข้าออกคุก มามากกว่า 7 ครั้ง ใช้เวลาในการเข้าออกคุกนานถึง 14-15 ปี โดยติดคุกครั้งแรกตอนอายุ 15 ปี และการเข้าออกคุกหลายครั้ง ทำให้เขาเข้าอก เข้าใจนักโทษดีว่า ทุกคนที่ผ่านการติดคุกมาต้องการอะไร
หลังจากที่ได้โอกาสจากสังคม โดยมูลนิธิคริสเตียน ทำให้เขาได้ชีวิตใหม่ และอยากจะมอบชีวิตใหม่กับคนผ่านห้องขังเช่นเดียวกับเขา โดยการเป็นวิทยากรถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิตให้ความรู้ ข้อคิด เพื่อชักจูงนักโทษยาเสพติดเหล่านี้ให้ออกมาจากเส้นทางชีวิตสีเทาให้ได้เหมือนกับตัวเขา
จากอดีตนักโทษยาเสพติด
“หรั่ง พระนคร” หรือ “อัครินทร์ ปูรี” อดีตนักโทษ ที่ปัจจุบันผันตัวเองเป็นเจ้าของผลงานกีต้าร์แฮนด์เมดภายใต้แบรนด์ “Be Light Guitar” ความพิเศษกีต้าร์ ของ “หรั่ง พระนคร” ไม่ได้แค่ เป็นกีต้าร์ ที่มีเรื่องราวของคนคุกเท่านั้น แต่ความพิเศษ อยู่ที่ความตั้งใจและฝีมือการทำกีต้าร์ที่เขาได้รังสรรค์อย่างตั้งใจ เพื่อให้ได้กีต้าร์ที่ดีที่สุด สำหรับลูกค้าที่ยอมควักเงินหลายหมื่นบาท เพื่อซื้อกีต้าร์ของเขา
อัครินทร์ (หรั่ง) เล่าว่า จุดเริ่มต้นของการทำกีต้าร์แฮนเมดในครั้งนี้ เกิดขึ้นมาจากในขณะที่ผมมาอยู่มูลนิธิมีพี่คนหนึ่งชื่อ “คุณแหลม” เขาก็เป็นช่างทำกีต้าร์แฮนด์เมด เวลาที่เขามาที่มูลนิธิเขาเห็นผม ก็อยากจะให้โอกาสผมในฐานะที่ผมเคยเป็นอดีตนักโทษ ได้สร้างอาชีพ คือผมไม่มีความรู้เลย ผมรู้แค่ว่ามันคือกีต้าร์พอเขาหยิบกีต้าร์ขึ้นมาอธิบายขั้นตอนในการทำ ในใจผมปฏิเสธไปแล้วว่าไม่เอา แต่เหมือนแกมองแววตาผมออกแกก็พยายามบอกผมว่าลองดู “ลองดูไม่ได้ไม่เป็นไรแต่ต้องลองทำดูก่อน”
สิ่งหนึ่งที่ผมตัดสินใจเรียนเลย คือผมเป็นคนชอบงานศิลปะก็เลยตัดสินใจไปเรียนกับแก ในช่วง 6 เดือนแรกนี่เรียนยากมาก ตอนที่ได้เริ่มทำเป็นอาชีพก็คือ ผมใช้เวลา 7 ปี 6 เดือน มันทำให้เราได้มองสองมือตัวเองว่ากีต้าร์ตัวแรกของเรา เฮ้ย! เราทำแล้วมีคนยอมรับและมีคนซื้อเรา มันเลยทำให้เราเกิดความภาคภูมิใจ เพราะสองมือเราไม่เคยทำสิ่งดีๆ เลย หลังจากนั้นมาเราก็เลยอยากทำเป็นอาชีพ
ได้รับโอกาสจากสังคม อยากตอบแทนสังคม
ทั้งนี้ หลังจาก 4 ปี ผมตัดสินใจออกจากมูลนิธิ ผมมาเจออาจารย์ท่านหนึ่งชื่อ “คุณวิรุฬ ทรงบัณฑิต” หรือครูนิด แกทำกีต้าร์เป็นอาชีพ แล้วก็มารู้ว่าแกเป็นอาจารย์ของพี่แหลมอีกทีหนึ่งเราก็มีโอกาสพูดคุยกัน เขาก็พยายามผลักดันบอก “หรั่ง” มันทำเป็นอาชีพได้ ผมก็เลยตัดสินใจไปอยู่ชอปของเขาเป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน เขาก็ให้สถานที่ผมไปเรียนรู้อยู่กับเขาจนสามารถทำกีต้าร์เลี้ยงดูตัวเองได้จริง
หลังจากวันนั้นผมได้มาเปิดชอปเป็นของตัวเอง ซึ่งกว่าจะมีชอปที่ผมอยู่ทุกวันนี้ ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ยากมากถ้ามูลนิธิฯ ไม่ให้โอกาสผมก็คงไม่มีชอปทำงานเหมือนอย่างทุกวันนี้ และหลังจากนั้น ผมได้ออกงานของมูลนิธิ และได้เป็นวิทยากรถ่ายทอดประสบการณ์ของตัวเอง และให้ความรู้ชักจูงนักโทษให้หันมาเดินในเส้นทางที่ถูกต้อง โดยผมได้ไปเป็นวิทยากรอยู่หลายเรือนจำเกือบทั่วประเทศ
จนกระทั่งวันหนึ่งเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เช่นกัน เมื่อมีสื่อสัมภาษณ์ ทำให้มีคนรู้จักผมมากขึ้น ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้มีคนรู้จักกีต้าร์ แบรนด์ Be Light Guitar มากขึ้นตามไปด้วย และด้วยเรื่องราวของผมอดีตนักโทษกลับใจ ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หลายคนอยากสนับสนุนกีต้าร์ของผมด้วย รวมถึงคนที่มีชื่อเสียง ดาราศิลปิน ก็มาเป็นลูกค้า แต่หลังจากนั้น พอซื้อไปชื่นชอบเกิดการบอกแบบปากต่อปาก ทำให้ผมมีวันนี้
สำหรับกีต้าร์แฮนด์เมด ผมทำมานานเกือบ 8 ปี และได้เปิดสอนให้กับคนที่สนใจ มาเรียนแต่ตอนนี้ผมไม่ได้เปิดสอนแล้ว เพราะมีออเดอร์ยาวไปถึง ปี 2565 ซึ่งการทำกีต้าร์แฮนด์เมดเป็นงานละเอียดที่ต้องใช้เวลา ผมใช้เวลาสำหรับการทำกีต้าร์ 1 ตัว ประมาณ 1 เดือน และช่วงนี้มีออเดอร์เข้ามาที่รอส่งประมาณเกือบ 20 ตัว ผมต้องทำให้ได้ 3 ตัว ภายในระยะเวลา 2 เดือน เพื่อทำให้ลูกค้าที่เขาตั้งใจรอจะได้ไม่ต้องรอนานมาก ไม่ใช่แค่ลูกค้าที่ยอมรอนาน แต่ยังได้เก็บเงินมัดจำบางส่วนของลูกค้ามา ก็เลยอยากทำให้เร็วที่สุด
ความสำเร็จ คือ มีคนยอมรองานนานถึง 2ปี
ส่วนราคากีต้าร์ “คุณหรั่ง” บอกว่า เนื่องจากเราเลือกใช้ไม้ 100% บวกกับเป็นงานฝีมือ ราคาค่อนข้างสูง โดยผมคิดราคาเริ่มต้นที่ 35,000 บาท ซึ่งกำลังจะปรับราคาขึ้นเป็น 45,000 บาท เพราะวัสดุไม้ที่เลือกมาใช้ราคาเพิ่มขึ้น ความสำเร็จในวันนี้ ของผม คือมีคนยอมรับในชิ้นงานของผม คนออเดอร์เข้ามาและยอมจะรอถึง 2 ปี ถ้าถามผมเอง ถ้าจะต้องสั่งอะไรและต้องรอสินค้านานขนาดนี้ผมคงไม่รอ ผมจึงค่อนข้างภาคภูมิใจในอาชีพนี้มาก
ทั้งนี้ อาชีพช่างทำกีต้าร์ น่าสนใจ อย่างไร สำหรับผมมันคือ ศิลปะชั้นสูง ถ้ากีต้าร์สวยมาก แต่เสียงไม่ดีลูกค้าก็คงไม่ซื้อ แต่ถ้ากีต้าร์ไม่สวยเสียงดีมาก ลูกค้ายังซื้อ แต่ถ้าจะให้ประสบความสำเร็จ คือ ต้องทำกีตาร์ให้สวยและเสียงดีด้วย ตรงนี้ ผมว่าผมประสบความสำเร็จที่ลูกค้าชอบที่สวยและเสียงดี ผมเรียนการทำกีต้าร์มา 8 ปี ทุกวันนี้ ผมก็ยังไม่หยุดเรียน เพราะผมรักและหลงไหลมัน ถ้าเรารักก็อยากจะทำมันออกมาให้ดีที่สุด ดังนั้น ผมจะมีความสุขทุกครั้งที่ผมทำกีต้าร์ตัวนั้น ออกมาสำเร็จ ไม่ว่าจะมีคนจะซื้อหรือไม่ซื้อก็ตาม
ฝากถึงนักโทษ ถ้ามีโอกาสอย่าหวนกลับไปอีก
สุดท้าย “หรั่ง พระนคร” ได้ฝากข้อคิดสำหรับคนที่อยู่ในคุก ถ้าคุณพ้นโทษมาแล้วเนี่ย เวลาคุณจะทำสิ่งใดหรือจะทำผิดซ้ำอีก ให้คุณนึกถึงความลำบากที่คุณเคยอยู่ในเรือนจำ คุณจะได้ไม่ต้องทำสิ่งนั้น และกลับมาอยู่ที่เดิม ได้โอกาสออกมาแล้วจงรักษามันไว้ให้ดี ส่วนคนทั่วไปที่กำลังเดินเส้นทางแบบนี้ ผมยังไม่เห็นใครสักคนหนึ่งเป็นนักเลงประสบความสำเร็จ สุดท้ายไม่ตายก็ติดคุก เชื่อผมครับทำสิ่งที่ดีอาจจะช้าหน่อยแต่มีคนยอมรับแน่นอน
“ผมยังยากฝากถึงสังคม ผมไม่เคยพูด ว่าให้สังคมเราช่วยนักโทษทุกคนที่อยู่ในเรือนจำ แต่ผมขอโอกาสให้กับคนที่เขาพร้อมจะพิสูจน์ตัวเอง มีนักโทษมากมายที่ออกมาและพร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเอง ให้โอกาสกับเขาได้พิสูจน์ อยากให้สังคมให้โอกาสเขาอย่าเพิ่งปิดกั้นเขา เพราะสุดท้าย ถ้าเขาเดินในทางที่ถูกต้อง เป็นหนทางช่วยลูกหลานของคุณในอนาคต ให้ไม่ต้องเจอกับยาเสพติดได้”
สนใจ FB: หรั่ง พระนคร
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า"SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด * * *
SMEs manager