“ร้านข้าวนึ่ง” ตอบโจทย์คนไม่ถนัดงานครัว ตัวช่วยดีๆ เมื่อต้องอยู่บ้านสู้โควิด

“ร้านข้าวนึ่ง” นับเป็นอีกหนึ่งธุรกิจค้าขายขาขึ้น ในช่วงที่ภาครัฐขอความร่วมมือประชาชนให้ร่วมมือกันอยู่บ้าน เพื่อช่วยหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 แต่การอยู่บ้านเพียงอย่างเดียวนั้น เมื่อพูดแล้วฟังดูเหมือนง่าย แต่ในความเป็นจริงแล้วก็นับเป็นเรื่องยากของใครหลายคน โดยเฉพาะกลุ่มแม่บ้านยุคใหม่ ที่บางคนไม่ถนัดเรื่องงานครัว แม้แต่การหุงข้าวก็เห็นจะเป็นเรื่องยาก และอาจจะเสียวัตถุดิบไปโดยเปล่าประโยชน์ “ร้านข้าวนึ่ง” จึงเป็นอีกหนึ่งทางออกสำหรับคนที่ไม่ถนัดงานครัว

“ร้านข้าวนึ่งคุณโรส” ของ นางสาวสายชล จันทร์รัตนา ร้านขายข้าวนึ่งนานาชนิด บริเวณหน้า ซ. 136 หมู่บ้านพฤกษา 3 อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ที่ได้กลายมาเป็นตัวช่วยของคนที่ไม่ถนัดงานครัวในยุคนี้ นางสาวสายชล กล่าวว่า ได้เปิดร้านขายข้าวนึ่งมาแล้วประมาณ 3 ปี โดยจะขายข้าวนึ่งนานาชนิด อาทิ หอมมะลิ 2 ถ้วย 7 บาท , ข้าวขาวธรรมดา 3 ถ้วย 7 บาท , ข้าวไรซ์เบอรี่ ถ้วยละ 5 บาท , ข้าวกล้อง 2 ถ้วย 7 บาท ซึ่งมีทั้งลูกค้าประจำและลูกค้าขาจรแวะเวียนมาซื้อตลอดทั้งวัน ในหนึ่งวันขายวันละ 30 ซึ้ง หนึ่งซึ่งนึ่งข้าวได้ 38 ถ้วย ก็จะตกวันละประมาณพันกว่าถ้วย

ในเรื่องสูตรนึ่งข้าวมัดใจลูกค้านั้นก็คือ การขายข้าวนึ่งที่สะอาดและมีคุณภาพ โดยเน้นในเรื่องการทำความสะอาดเมล็ดข้าวเป็นอย่างดี เพื่อไม่ให้เวลาที่ลูกค้าซื้อไปแล้วไปเจอเศษเปลือกข้าวหรือเศษอื่นๆ ซึ่งนั้นก็จะทำให้ลูกค้าไม่ไว้วางใจเรา สำหนับการนึ่งข้าวนั้น จะใส่น้ำในประมาณ ข้าว 1 ส่วน น้ำ 1 ส่วน ต้องตวงน้ำดีๆ หากใส่น้ำเยอะไปข้าวจะแฉะและเมล็ดข้าวก็จะไม่เรียงกันสวยงาม หากเมล็ดข้าวเรียงกันสวยงามก็จะทำให้ดูน่ากินมากยิ่งขึ้น จากนั้นต้มน้ำให้เดือด พอน้ำเดือดก็นำข้าวที่เตรียมไว้ไปนึ่งในซึ้งนึ่ง การใช้ไฟก็จะใช้ไฟกลางๆ แต่ค่อนไปทางแรงนิดหน่อย เพื่อให้ไอน้ำขึ้นมาอย่างสม่ำเสมอ ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วกลับมาตรวจดู ถ้าเมล็ดข้าวฟูแล้วสุขก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยพร้อมขาย และอีกหนึ่งเคล็ดลับของทางร้านคือตะเลือกข้าวกลางปี เพราะหากใช้ข้าวใหม่แม้จะมีกลิ่นหอมแต่ข้าวก็แฉะได้ง่าย

สำหรับในช่วงนี้ ที่ทางรัฐขอความร่วมมือประชาชนให้ร่วมมือกันอยู่บ้าน เพื่อช่วยหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ก็มียอดเพิ่มมากขึ้น จากปกติขายได้วันละ 30 ซึ้ง ปัจจุบันนี้ก็ขายได้ประมาณวันละ 30 – 33 ซึ้ง แต่ก็ต้องทำใจในเรื่องต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในช่วงนี้ จากช่วงปกติราคาข้าวสารกระสอบละ 1,000 บาท ปัจจุบันราคาขยับขึ้นมาอยู่กระสอบละ 1,200 บาท ในเรื่องลูกค้า ก็มีลูกค้าหน้าใหม่ๆ มาซื้อเพิ่มขึ้น อาจจะเป็นเพราะว่า คนที่หยุดอยู่บ้านบางคนไม่ถนัดเรื่องงานครัว การมาซื้อกับข้าวสำเร็จใกล้บ้านก็นับเป็นอีกหนึ่งทางออกที่ดีกว่าการกินอาหารสำเร็จรูป และแม้รัฐจะพยายามย้ำว่าห้ามออกจากบ้าน แต่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ทั้งหมด เพราะยังไงคนก็ต้องออกมาจับจ่ายซื้อของเพื่อเลี้ยงปากท้อง เพียงแต่ว่าเราจะออกไปใกล้ไกล และมีความระมัดระวังในการป้องกันเชื้อโรค รับผิดชอบต่อสังคมมากน้อยแค่ไหน ถึงเป็นการตอบโจทย์นี้ได้ดีที่สุด

“ร้านขายข้าวนึ่ง” จึงเป็นอีกหนึ่งทางออกของคนที่ไม่ถนัดงานครัว และเพื่อเลี้ยงปากท้องในยามที่ต้องร่วมมือกับภาครัฐ ในวันที่ทุกๆ คนต่างหวังและเฝ้ารอให้โรคร้ายนี้หายไปโดยไว