เส้นทางชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่สำหรับ “อัจฉรา รสพูน” ชีวิตเธอไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ กำพร้า พ่อกับแม่ตั้งแต่วัยเด็ก และถูกทิ้งให้ต้องอยู่กับ ปู่ และย่า และฐานะที่ยากจน และปู่กับย่าป่วยไม่สบาย ทำให้เธอต้องหยุดการเรียนไว้แค่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ต้องออกมาหางานทำเพื่อส่งเงินให้กับ ปู่ กับย่า ที่จังหวัดสุรินทร์
ทั้งนี้ จากการเรียนจบเพียงแค่ ม.3 ทำให้ไม่มีอาชีพให้เลือกมากนัก แต่ทุกคนก็ต้องมีความฝัน เธอฝันอยากจะเป็นช่างแต่งหน้า แต่ความฝันเหมือนอยู่ไกลเพราะการเป็นช่างแต่งหน้าได้ เธอจะต้องใช้เงินเพื่อไปเรียนและซื้ออุปกรณ์ แต่วันหนึ่งโชคก็เข้าข้างเธอ เพราะได้มีโอกาสรู้จักมูลนิธิศุภนิมิตร องค์กรคริสเตียนเพื่อพัฒนาและสาธารณกุศล เพื่อผู้ยากไร้ มอบโอกาสให้กับเธออีกครั้ง โดยมอบทุนให้เธอได้เรียนแต่งหน้า ทำให้ความฝันของเธอเป็นจริง
“อัจฉรา” เล่าว่า การได้ทุนจากมูลนิธิฯ ในครั้งนี้ เกิดขึ้นมาจากได้เจอการรับสมัครขอทุนของมูลนิธิฯทางอินเตอร์เน็ต และได้ลองสมัครดู และทางมูลนิธิฯ ติดต่อเข้ามา และได้มอบทุนให้เธอเรียนแต่งหน้า หลังจากเรียนจบได้ทำงาน โดยรับแต่งหน้าเจ้าสาว และแต่งหน้าให้กับลูกค้าที่มางานปาร์ตี้ เพราะงานที่ถนัดคือการแต่งหน้าแนวแฟนซี
ทั้งนี้ จากความถนัดด้านการแต่งหน้าแนวแฟนซี ทำให้รูปแบบการแต่งหน้าเจ้าสาวของเธอออกจะยังคงเน้นการแต่งหน้าแนวฟอร์แบบฝรั่ง มากว่าการแต่งหน้าเจ้าสาวแบบเอเชีย หรือ ที่ช่างแต่งหน้าเรียกว่าการแต่งหน้าแนวเกา ความพิเศษของแนวฟอร์ คือ จะดูเป็นธรรมชาติมากกว่า และ ก็เป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยม สำหรับคนที่ไม่ต้องการแต่งหน้าออกเป็นธรรมชาติ เน้นดวงตาที่เข้ม คล้ายกับการแต่งหน้าแนวแฟนซีที่ตัวเองถนัด
สำหรับลูกค้าตอนนี้ไม่ได้มีมากนัก เดือนหนึ่งมีรายได้เพียง 1-2 หมื่นบาท เนื่องจากยัง ไม่มีชื่อเสียง และยังเป็นช่างแต่งหน้าอิสระ ไม่มีสังกัด ลูกค้าที่ใช้บริการก็จะเป็นการบอกกันแบบปากต่อปาก เป็นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการแต่งหน้าแนวแฟนซี เพื่อไปร่วมงานปาร์ตี้ ส่วนลูกค้าเจ้าสาวงานแต่งก็ยังมีไม่มาก โดยราคาค่าบริการเริ่มต้น 1,000 บาท 1,500 บาท และถ้าเป็นเจ้าสาวราคา 5,000 บาท
สนใจ โทร. 09-6790-9873