เมื่อแผงผักในตลาดเล็กไม่ได้ไปต่อ เขาจึงหาหนทางสร้างธุรกิจรูปแบบใหม่ โดยเดินทางจากกรุงเทพมหานครมาแอ่วเมืองเหนืออย่างจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อมาต่อยอดธุรกิจผลิตเครื่องเทศให้สามารถเติบโตและพัฒนาธุรกิจ ซึ่งธุรกิจดังกล่าวคือ “นิธิฟู้ดส์” บริษัทที่ผลิตเครื่องเทศต่างๆ พร้อมกับให้บริการคิดสูตรอาหารต่างๆ ให้แก่ลูกค้า ปัจจุบันดำเนินธุรกิจมาได้ถึง 21 ปี
นายสมิต ทวีเลิศนิธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิธิฟู้ดส์ จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2541 ซึ่งในตอนนั้นพ่อกับแม่ได้มีอาชีพนำหอมหัวใหญ่ไปขายตามแผงผักขนาด 4x4 เมตร ในตลาดแถวปากคลองตลาด แต่ด้วยความที่หอมหัวใหญ่ถูกนำมาจากจังหวัดเชียงใหม่เป็นส่วนใหญ่ ทำให้ในช่วงปี 2531-2532 บรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดไท จึงไม่ต้องเข้ามาซื้อหอมหัวใหญ่ในใจกลางเมือง เพราะสามารถซื้อได้ตามพื้นที่อื่นๆ ได้เช่น รังสิต คลองหลวง ฯลฯ ทำให้ธุรกิจค้าขายหดลง เมื่อการค้าขายไม่เติบโตพ่อของตนจึงได้ตัดสินใจย้ายถิ่นฐานไปที่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อมาทำธุรกิจแบบใหม่ นั่นคือ บรรจุหอมหัวใหญ่ขายสู่ตลาดโดยนำมาจากเกษตรกรในพื้นที่และรอบๆ ซึ่งหอมหัวใหญ่จะมีตามฤดูกาล คือ ช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี หลังจากนั้นก็จะไม่มีให้ทำต่อ จึงได้หันมาแปรรูปลำไยอบแห้งในช่วงเดือนกรกฎาคม
ทั้งนี้ในช่วงต้นปีก็จะบรรจุหอมหัวใหญ่ขาย ส่วนช่วงปลายปีก็จะทำลำไยอบแห้งขาย หลังจากนั้นก็ได้มีญาติมาให้คำปรึกษาเรื่องธุรกิจ เนื่องจากที่บริษัทมีเตาอบเพื่อทำอาหารแปรรูปเป็นทุนเดิม ญาติจึงได้แนะนำให้ลองทำแปรรูปเกษตรแบบอื่นดูบ้าง ซึ่งในพื้นที่ภาคเหนือจะมีการปลูกพืชจำพวก กระเทียม พริกไทย พริก เป็นจำนวนมาก หลังว่างจากการทำลำไย จึงได้หันมาทำกระเทียมอบและป่นเป็นผงนำส่งสู่ระบบอุตสาหกรรมเพื่อจะได้งานปรุงรส งานอุตสาหกรรมที่ต้องใช้เครื่องเทศแปรรูปต่างๆ ทำแบบนี้ไปได้ระยะหนึ่งก็ได้หยุดทำเนื่องจากเกิดความเสี่ยงของปัญหาหลายอย่างตามมา ซึ่งการทำลำไยในช่วงนั้นก็ได้หยุดลงเช่นกันแต่โรงงานไม่ได้ปิดตัวไป
หลังจากนั้นได้มีลูกค้าบางส่วนเข้ามาขอให้ทางบริษัทผลิตเครื่องเทศในรูปแบบของกระเทียมเจียว ซึ่งโรงงานที่ผลิตกระเทียมเจียวนั้นมีจำนวนมากในประเทศไทย แต่บริษัทก็ลองดูสักครั้งถือว่าเป็นการเริ่มต้นใหม่ โดยใช้พื้นที่ด้านหลังของโรงงานที่มี่อยู่จัดตั้งพื้นที่ขึ้นมาใหม่ในชื่อของ “นิธิฟู้ดส์” โดยจะผลิตในส่วนของ กระเทียมผง พริกไทยป่น กระเทียมเจียว ซึ่งกระเทียมเจียวเป็นสินค้าตัวใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำ โดยรับมาจากเกษตรกร ส่วนกระบวนการทำนั้นก็จะทำการแยกทั้งน้ำมันและกระเทียม จากนั้นส่งขายเข้าสู่ร้านอาหาร รวมถึงทำเครื่องปรุงต่างๆ ซึ่งมีการเริ่มลงทุนไปกว่า 140 ล้านบาท ยอดขายปีละ 380 ล้านบาท การผลิต 2,500 ตัน พนักงานทั้งหมด 130 คน พื้นที่ทั้งหมด 4,600 ตารางเมตร ถือว่าเป็นกิจการขนาดเล็กที่ต่อยอดสู่กิจการขนาดกลาง
นอกจากนี้ยังควบคุมเรื่องความปลอดภัยและความสะอาดของอาหารและเครื่องเทศต่างๆ ที่ได้ผลิต ส่วนการจัดเก็บสินค้าจำเป็นต้องมีคลังสินค้าเนื่องจากสินค้าแต่ละประเภทมีตามฤดูกาลจึงจำเป็นต้องสต็อกเก็บไว้เพื่อสามารถผลิตสินค้าได้ตลอดทั้งปี โดยมีการนำนักวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยดูแลตั้งแต่เรื่องการตรวจเชื้อ เรื่องคุณภาพ รวมถึงเป็นการดำเนินงานกับทางภาคการเกษตร สิ่งที่ทำให้ลูกค้าไว้วางใจได้คือ ทางบริษัทมีนโยบายและคำขวัญประจำนั่นคือมาตรฐานของอาหาร 3 ปลอดภัย ได้แก่ 1.อาหารปลอดภัย โดยมีมาตรฐาน FSSC2200 ISO22000 HACCP GMP ฮาลาล 2.คนปลอดภัย ISO14001 มาตรฐานเกษตรยั่งยืน และ 3.สิ่งแวดล้อมปลอดภัย OHSAS18001 และมาตรฐานแรงงานไทย
นิธิฟู้ดส์เริ่มจากธุรกิจครอบครัว เพื่อผลิตสินค้าเครื่องเทศอบแห้งให้อุตสาหกรรมอาหารของประเทศไทย ตั้งใจผลิตอาหารด้วยคุณภาพและความปลอดภัย เป็นผู้ผลิตเครื่องเทศลำดับต้นๆ ของประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน HACCP และพัฒนาสู่มาตรฐานความปลอดภัยอาหารระดับสูง FFSC22000 รวมถึงได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ถึงสองครั้งเมื่อปี 2554 เพื่อการผลิตเครื่องปรุงรสและปี 2560 เพื่อให้บริการวิจัยพัฒนารสชาติอาหาร โดยจัดตั้ง “สถาบันวิจัยรสชาติอาหาร” ขึ้นเพื่อช่วยธุรกิจขนาดเล็กมีการวิจัยพัฒนาได้ง่ายขึ้น
สำหรับงานบริการวิจัยพัฒนารสชาตินั้น นิธิฟู้ดส์ มีกลุ่มงานที่เป็นอุตสาหกรรม ได้แก่ อาหารสำเร็จรูป, เนื้อสัตว์แปรรูป, ขนมขบเคี้ยว, ร้านอาหาร, เบเกอรี่,ครัวกลาง และเครื่องดื่ม ส่วนประเภทการให้บริการ ได้แก่ วิจัยรสชาติอาหาร, ขออนุญาต อ.ย., ผลิตผงปรุงรส, ออกแบบฉลาก, ผลิตซอสปรุงรส, ลดต้นทุนกระบวนการบรรจุและปกป้องสูตรอาหารให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการในส่วนงานวิจัยดังกล่าว ทั้งนี้นิธิฟู้ดส์ได้พยายามทำการตลาดโดยการใช้กระเทียมไทย หอมไทย พริกของไทย มาใช้เพราะว่าอยากส่งเสริมการเกษตรของประเทศไทยให้ได้รับความสนใจในกลุ่มงานต่างๆ
นอกจากนี้สำหรับการบริการวิจัยพัฒนารสชาติอาหาร เมื่อลูกค้าต้องการที่จะใช้บริการกับทางบริษัท จะมีค่าใช้จ่ายเพียง 3,000 บาทในราคาเริ่มต้นสำหรับลูกค้าที่ต้องการให้คิดสูตรให้ แต่ต้องให้ทางบริษัทเป็นผู้ผลิตให้ด้วย ซึ่งงานวิจัยดังกล่าวที่ลูกค้าต้องการจะมีการส่งตัวอย่างให้ลูกค้าดู 2 ครั้ง ถ้าหากลูกค้าไม่พอใจทางทีมงานก็จะคืนเงินจำนวนนั้นๆ ให้กลับคืน ทั้งนี้ในราคา 3,000 บาทนี้สามารถปรับสูตรได้ 2 ครั้ง ถ้าหากต้องการปรับเกินจากนี้จะมีค่าปรับครั้งละ 1,500 บาท ส่วนในราคา 5,000 บาท จะเป็นการคิดสูตรที่ทางบริษัทไม่เคยทำมาก่อน เช่น ลูกค้าต้องการสูตรแกงเลียงที่แปลกใหม่ ทางทีมงานก็จะทำงานวิจัยออกมาให้แต่ในราคาที่กำหนด นอกจากนี้การเก็บความลับสูตรอาหารต่างๆ ที่ทำให้ลูกค้าจะมีเพียงผู้วิจัยเท่านั้นที่สามารถรับรู้ได้
อีกทั้งเรื่องการส่งออก นิธิฟู้ดส์ ได้มีการทำแบรนด์ให้แก่ลูกค้าต่างชาติ เช่น อเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นการออกแบบลวดลายให้ลดความเป็นไทยลงเนื่องจาก คนต่างชาติอาจจะไม่เข้าใจในความเป็นไทยนัก จึงจำเป็นต้องออกแบบมาให้ดูเป็นโมเดิร์น ทันสมัย ต่างชาติสามารถจับต้องได้โดยที่ยังคงความเป็นไทยอยู่บ้าง เพื่อตอบโจทย์แก่กลุ่มลูกค้าต่างชาติ
นิธิฟู้ดส์เป็นองค์กรที่ได้นำเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในการทำธุรกิจ ซึ่งได้รับรางวัลต่างๆ อีกด้วย และได้มีการส่งออก “ผงข้าวผัด” ไปยัง 12 ประเทศ ประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศที่กินข้าวผัดเป็นจำนวนมาก ถือว่าเป็นอาหารอันดับต้นๆ ของผู้บริโภค ซึ่งนิธิฟู้ดส์ก็ได้เล็งเห็นความสำคัญตรงนี้ โดยการ ศึกษาและผลิตผงทำข้าวผัดในรสชาติต่างๆ และน่าสนใจ ขึ้นมา งานวิจัยชิ้นนี้ต่อยอดจากการเป็นเครื่องเทศสู่การเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้า โดยการที่เอาเครื่องเทศมาปรับปรุงให้เป็นผงข้าวผัดที่เกิดการลงตัว
อย่างไรก็ตามนิธิฟู้ดส์ยังได้รับการสนับสนุนจาก กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ที่เล็งเห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารที่มีความสำคัญต่อประเทศเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถเพิ่มมูลค่าให้แก่ภาคเกษตรและสร้างความยั่งยืนในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก โดยในอดีตไทยเป็นผู้ส่งออกอุตสาหกรรมอาหารรายสำคัญ แต่ปัจจุบันเกิดการแข่งขันที่สูงขึ้น รูปแบบอาหาร การบริโภค มีแนวโน้มเปลี่ยนไปทำให้ต้องปรับตัวเข้าสู่ยุคปัจจุบันให้ได้
สำหรับนิธิฟู้ดส์มีประสบการณ์ด้านการผลิตเครื่องเทศ เครื่องปรุงรสคุณภาพสูงสำหรับอุตสาหกรรมมานานกว่า 20 ปี ด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี และบุคลากรที่ปรึกษาที่มีความรู้ ความสามารถ เป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมทั้งรายเล็กและรายใหญ่ให้สามารถพัฒนาสินค้าและรสชาติใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
ติดต่อเพิ่มเติม
โทร. 053 481 484
Facebook : @nithifoods
Line : @nithifoods
Website : www.nithifoods.co.th
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า"SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
