xs
xsm
sm
md
lg

ม.ธรรมศาสตร์ จับมือแบงก์กรุงเทพ เปิดตัว “Startup Ecosystem@TU”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

รองศาสตราจารย์เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ดัน Startup ใช้นวัตกรรมสร้าง Ecosystem เอื้อต่อการพบปะระหว่างผู้ประกอบการ อาจารย์นักวิจัย และนักศึกษา หวังเป็นแหล่งสร้างนวัตกรรม บ่มเพาะธุรกิจ พร้อมเรียนรู้นอกห้องเรียนของนักศึกษา เปิดตัว “Startup Ecosystem @TU" พื้นที่บ่มเพาะ และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนสตาร์ทอัพระหว่างประเทศ


รองศาสตราจารย์เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงการสร้างระบบนิเวศ เพื่อส่งเสริม Startup ว่า เป็นกลยุทธ์สำคัญในการดึงธุรกิจเข้ามาเชื่อมต่อกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อสร้างสรรค์และพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ทั้งในระดับการเรียนการสอน การฝึกงานหรือการตั้งธุรกิจจริง สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนธรรมศาสตร์ให้เป็นมหาวิทยาลัยแห่งผู้ประกอบการ โดยสตาร์ทอัพที่รับการบ่มเพาะไม่จำเป็นต้องเป็นบัณฑิตของธรรมศาสตร์เท่านั้น แต่เป็นกลุ่มที่ใช้ไลเซนส์สิทธิบัตร นวัตกรรมที่อาจารย์ธรรมศาสตร์คิดค้นขึ้นด้วย

ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีเครือข่ายพันธมิตร เช่น ธนาคารกรุงเทพ ที่ร่วมสนับสนุน Startup Ecosystem@TU โดยขณะนี้ได้มีโครงการใหม่ร่วมกันเรียกว่า Startup Exchange Program คือการส่งสตาร์ทอัพไทยไปแลกเปลี่ยนกับเครือข่ายพันธมิตรในต่างประเทศ เริ่มจากสิงคโปร์ซึ่งมีการพัฒนาเครือข่ายฐานผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก จะช่วยให้ Startup ของเราขยายตลาดได้อย่างรวดเร็ว

“การมีฐานผู้ใช้จำนวนมากเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สตาร์ทอัพประสบความสำเร็จในอนาคต จึงอยากเชิญชวนให้สตาร์ทอัพไทยเข้าร่วมและใช้ประโยชน์จากโครงการ Startup Exchange Program ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และธนาคารกรุงเทพริเริ่มขึ้นในครั้งนี้” อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กล่าว
นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)




ด้านนายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างธรรมศาสตร์ กับธนาคารกรุงเทพ สอดคล้องกับแผนการส่งเสริม Startup ของธนาคารกรุงเทพ โดยธนาคารมีโครงการ InnoHub เป็นแหล่งบ่มเพาะ ทั้งนี้ ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จะทำให้สตาร์ทอัพสามารถใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อพัฒนาธุรกิจได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังมี Co-working Space ที่รองรับบริษัทสตาร์ทอัพ จำนวน 10 บริษัท และกำลังสร้างพื้นที่เพิ่มเติมเป็น Deep Tech ณ สำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภายใต้การสนับสนุนของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) โดยคาดว่าในระยะแรกจะมีนักศึกษาเข้าร่วมฝึกงานในบริษัทสตาร์ทอัพที่เข้ามาตั้งในพื้นที่บ่มเพาะของมหาวิทยาลัยจำนวน 50 คน และจะใช้โมเดลนี้เป็นต้นแบบในการขยายไปสู่คณะต่างๆ ในมหาวิทยาลัยที่ต้องการสร้างแหล่งบ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพ

ศาสตราจารย์ ดร.อาณัติ ลีมัคเดช ผู้อำนวยการศูนย์ทรัพย์สินทางปัญญาและบ่มเพาะวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า หนึ่งในโครงการที่ธรรมศาสตร์สนับสนุนสตาร์ทอัพ คือโครงการแลกเปลี่ยน หรือ Startup Exchange โดยจะคัดเลือกสตาร์ทอัพในพื้นที่มหาวิทยาลัย บริษัทละ 2 คน เพื่อไปทำงานในพื้นที่บ่มเพาะต่างประเทศ ประโยชน์ที่จะได้รับ คือ การเรียนรู้วิธีการทำงานของสตาร์ทอัพในต่างประเทศ โอกาสและสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ เนื่องจากปัญหาของสตาร์ทอัพไทย คือ ขนาดตลาดภายในประเทศที่เล็กเกินไป ส่วนสตาร์ทอัพอยู่ในประเทศก็จะเรียนรู้จากสตาร์ทอัพต่างประเทศที่เข้ามาทำงานในพื้นที่

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะมีคณะกรรมการคัดเลือกสตาร์ทอัพที่สนใจเข้าใช้บริการพื้นที่บ่มเพาะในมหาวิทยาลัย สอบถามรายละเอียดได้ที่ ศูนย์ทรัพย์สินทางปัญญาและบ่มเพาะวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โทร. 0-2564-4441-79 ต่อ 1664-1665 หรือเว็บไซต์ http://tuipi.tu.ac.th/



* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *









กำลังโหลดความคิดเห็น