ขึ้นชื่อว่าแกงไตปลาแห้ง ความเผ็ด ความเค็มของเนื้อปลาพื้นบ้านที่นำมาทำจะโดดเด่นมาก ทำให้สาวภาคกลางแต่มีเชื้อใต้ผสม คิดดัดแปลงให้รสชาติกลมกล่อมด้วยการนำ “ปลาซาบะ” มาใช้แทนปลาโอ ลดกลิ่นคาว แต่จะมีความมันเข้าไปแทนที่ ก่อเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ “แกงไตปลาแห้ง (ปลาซาบะ)” แห่ง จ.เพชรบุรี
เป็นการผสมผสานระหว่างปลาซาบะในเมนูอาหารญี่ปุ่น กับเครื่องแกงใต้รสจัดจ้าน ออกมาเป็น แกงไตปลาแห้ง (ปลาซาบะ) ผลงานของ 'ศจีรัตน์ เศวตภูมิพัฒน์' เจ้าของธุรกิจแกงไตปลาแห้ง ที่เธอได้ไอเดียมาจากความชอบส่วนตัวล้วนๆ จากการที่เป็นผู้ที่ชื่นชอบการับประทานอาหารญี่ปุ่น จึงคิดนำปลาซาบะมาทำเป็นแกงไตปลาแห้ง เนื่องจากรู้สึกว่าการใช้ปลาโอ จะมีกลิ่นคาวมากและเนื้อแข็ง ทำให้รสสัมผัสยังไม่ค่อนละมุนนัก จึงลองนำปลาซาบะมาใช้แทน ด้วยความที่เนื้อปลามีความนุ่ม หอม มัน ไม่คาวมากนัก ซึ่งเธอใช้เวลาลองผิดลองถูกประมาณ 2 เดือน ก็เป็นผลสำเร็จ
“ในช่วงแรกที่เราลองทำเป็นรูปแบบโฮมเมด แจกให้เพื่อนรับประทาน ก็ได้รับการตอบรับดี จึงคิดทำเป็นธุรกิจจริงจังมีการออกแบบสติ๊กเกอร์แบรนด์ โลโก้ สร้างความจดจำ ก็พบว่าขายได้จริง และภูมิใจมาก แม้ครั้งแรกจะขายได้เพียง 400 บาทเท่านั้น เพราะไม่คิดว่าการที่ลองทำอาหารขายแล้วคนจะชื่นชอบ ทั้งๆ ที่ ก่อนหน้านี้เราเป็นนักธุรกิจในแวดวงเฟอร์นิเจอร์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวงการอาหารเลย”
แต่ไม่น่าแปลกใจที่การขาย “แกงไตปลาแห้ง (ปลาซาบะ)” จะติดตลาดในเวลาอันรวดเร็ว เพราะเธอเลือกใช้ช่องทางออนไลน์ ด้วยการไลฟ์สด (Live) ให้เห็นกรรมวิธีการผลิต สดใหม่ เลือกใช้วัตถุดิบสดสะอาด ลูกค้าเห็นทุกขั้นตอนเกิดความมั่นใจ และสั่งซื้อทันที
จากยอดขายหลักร้อย พุ่งไปถึงหลักแสนในปัจจุบัน จากออเดอร์ที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ต้องสร้างโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน มีอย. และจดสิทธิบัตรเรียบร้อย เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวที่ทำแกงไตปลาแห้งจากปลาซาบะ รสชาติกลมกล่อมไม่ต้องปรุงเพิ่มเมื่อนำไปใช้เป็นเครื่องแกงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแกงกะทิ คั่วกลิ้ง แกงขี้เหล็ก แกงกระดูกหมู ขายในราคากระปุกละ 100 บาท ขนาด 180 กรัม สามารถเก็บในช่องแช่แข็งนาน 6 เดือน แช่เย็นธรรมดา ได้ 2 เดือน ผลิตตามออเดอร์ จะไม่สต็อกสินค้าไว้ เพราะต้องการให้ลูกค้าได้รับประทานสินค้าสดใหม่
นอกจากนี้ยังแตกไลน์เป็น “น้ำแกงส้ม” เพราะเมนูแกงส้มเธอก็ชื่นชอบเช่นกัน แต่กลับไม่ค่อยเจอรสชาติที่ถูกปาก จึงลองทำน้ำแกงส้มขึ้น เนื่องจากวัตถุดิบก็ใกล้เคียงกับแกงไตปลาแห้ง เน้นความเข้มข้น เพียงนำไปผสมน้ำตามสัดส่วนที่กำหนด ปราศจากสารกันบูด ขายขวดละ 80 บาท ขนาด 500 มล. ปัจจุบันมีจำหน่ายที่ร้านเจ๊เล้ง แถมยังติดอันดับสินค้าขายดีอีกด้วย และเตรียมวางขายที่ร้านโกลเด้นเพลส และไร่กำนันจุล
ส่วนแผนต่อไปเธอเตรียมทำ “น้ำแกงเลียง” เพิ่มเติมเน้นรสชาติกลมกล่อม ตอบโจทย์ความสะดวกในการทำอาหารของคนยุคนี้ ซึ่งทุกเมนูล้วนทำมาจากใจ ส่งผลให้ยอดขายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยังได้รับการสนับสนุนด้านสินเชื่อจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SME Development Bank โดยได้นำมาปรับปรุงโรงงานให้ได้มาตรฐาน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และที่ผ่านมาเธอยังทำขนมไทย เพื่อจำหน่ายด้วย เรียกว่าครบครันทั้งเรื่องอาหารคาวหวานเลยทีเดียว
นอกจากนี้เธอตั้งใจไว้ว่า จะนำรายได้ส่วนหนึ่งกลับคืนสู่แผ่นดิน ด้วยการบริจาคเงินให้กับมูลนิธิเด็กกำพร้า และมูลนิธิต่างๆ รวมถึงได้มีโอกาสเข้าไปสอนอาชีพให้กับนักโทษในเรือนจำด้วย ซึ่งถือเป็นความตั้งใจหนึ่งในเส้นทางดำเนินธุรกิจของเธอ
***สนใจติดต่อที่อยู่ 2/3 ม.4 ต.โพไร่หวาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี โทร. 099-1919166, 089-873-3313 หรือที่ Facebook : นันท์นิชา ขนมไทย***