บริษัทฟินเทคในเอเชียระดมทุนได้กว่า 800 ล้านดอลลาร์ตลอดเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จาก 33 ดีลที่มีการเปิดเผย ซึ่งรวมถึงการออก ICO ของบริษัทสองแห่ง และก่อนหน้านี้ยังมีรายงานว่า บริษัทฟินเทคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่มีแผนโกอินเตอร์
ประเทศที่มีการระดมทุนมากที่สุดคืออินเดีย (47.5%) ตามด้วยสิงคโปร์ (20%) และจีน (12.5%)
ธุรกิจสินเชื่อเป็นส่วนที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุด โดย 23% ของบริษัทในเอเชียที่ระดมทุนในเดือนพฤษภาคมเป็นบริษัทสินเชื่อ รองลงมาคือบริษัทด้านอินชัวร์เทค (18%), บล็อกเชน (13%) และแคปิตอล มาร์เก็ต เทค (8%)
ข้อมูลจากเว็บไซต์ MEDICI ยังระบุว่า เงินทุนที่ระดมได้ตลอดเดือนพฤษภาคมราว 858 ล้านดอลลาร์นั้น 28% อัดฉีดให้บริษัทอินชัวร์เทค (ราว 239 ล้านดอลลาร์) ตามด้วยบริษัทสินเชื่อ 22% (191 ล้านดอลลาร์) และบริษัทด้านการชำระเงิน 16% (133 ล้านดอลลาร์)
ขณะเดียวกัน เมื่อไม่นานนี้ยังมีรายงานชื่อว่า “อาเซียน ฟินเทค เซ็นซัส” จากอีวาย ซึ่งเป็นบริษัทตรวจสอบบัญชีระดับโลกจากอังกฤษ ที่ระบุว่า บริษัทฟินเทคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำนวนถึง 87% มีแผนขยายตัวสู่ต่างแดน
รายงานชิ้นนี้สำรวจความคิดเห็นผู้บริหารในสำนักงานใหญ่ของบริษัทฟินเทค 170 แห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ครอบคลุม 16 ส่วนย่อยสำคัญ อาทิ การชำระเงิน บล็อกเชน การโอนเงิน การวิเคราะห์ข้อมูล และ robo advisory หรือบริการวางแผนทางการเงินอัตโนมัติ
ผลสำรวจพบว่า บริษัทฟินเทค 61% ในภูมิภาคนี้มีแผนสร้างรายได้ตามเป้าหมายระยะสั้นภายใน 12 เดือน และ 46% คาดว่า จะมีอัตราเติบโตของรายได้รวม 60%
77% ของบริษัทในการสำรวจเชื่อว่า สามารถแข่งขันในต่างประเทศได้ และ 87% มีแผนขยายออกนอกประเทศภายใน 12 เดือน ซึ่งนอกจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาคแล้ว เป้าหมายยอดนิยมยังได้แก่ อเมริกา อังกฤษ และจีน และคู่แข่งสำคัญที่สุดในสายตาบริษัทเหล่านี้คือ ผู้ให้บริการทางการเงินดั้งเดิม (33%) และบริษัทฟินเทคด้วยกัน (32%)
ลิ่ว นัม-ซุน หุ้นส่วนผู้จัดการตลาดอาเซียนของเอินส์ท แอนด์ ยัง แอดไวซอรี บอกว่า ฟินเทคขณะนี้เฟื่องฟูทั่วโลก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเชิญชวนทั้งผู้เล่นและนักลงทุนในธุรกิจนี้ด้วยเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ประชากรที่มีความรู้ความสามารถด้านดิจิตอล ความสามารถในการเข้าถึงอุปกรณ์เคลื่อนที่และอินเทอร์เน็ต รวมทั้งตลาดผู้บริโภคและธุรกิจขนาดกลางและเล็กที่ยังไม่ได้รับการบริการ
เขายังบอกอีกว่า จากประสบการณ์การดำเนินการฮับฟินเทคทั่วโลก ทำให้พบว่า เคล็ดลับความสำเร็จสำหรับบริษัทฟินเทคคือ การเข้าถึงลูกค้า เทคโนโลยี ตลอดทั้งการเข้าใจและปฏิบัติตามกฎระเบียบ
อย่างไรก็ตาม การระดมทุนยังเป็นปัญหาของบริษัทฟินเทค ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในขั้นตอนเริ่มแรกของการพัฒนา โดย 60% ของบริษัทที่ตอบแบบสำรวจคาดว่า การระดมทุนรอบต่อไปจะมีมูลค่ามากกว่า 1 ล้านดอลลาร์
ทว่า บริษัท 2 ใน 3 บอกว่า มีเวลาไม่ถึงปีในการวางแผนหรือเพิ่มทุนเพื่อการขยายตัว และ 45% ต้องหาทุนเอง นอกจากนั้น แม้ 76% เห็นด้วยว่า มีช่องทางระดมทุนเพียงพอ แต่ 52% ยังมีปัญหาในการหาทุน
อุตสาหกรรมนี้ยังต้องการคนเก่งและการสนับสนุนจากภาครัฐ โดย 60% เผยว่า ขาดแคลนคนเก่งในด้านสตาร์ทอัพหรือฟินเทคสาขาที่ตนดำเนินการอยู่ ส่วนที่ยังขาดแคลนบุคลากรมีทักษะคือเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ การจัดการผลิตภัณฑ์ การขายและการตลาด บริษัทฟินเทคส่วนใหญ่ยังต้องพึ่งพิงความสัมพันธ์ส่วนตัวและคำแนะนำในการว่าจ้างคนเก่ง
บริษัทที่ตอบแบบสำรวจเชื่อว่า รัฐบาลสามารถสนับสนุนการเติบโตของฟินเทค โดยสองสิ่งที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดคือการเพิ่มมาตรการจูงใจด้านภาษีสำหรับนักลงทุนที่สนับสนุนทุนการลงทุนในขั้นเริ่มแรก (78%) และการปฏิรูปนโยบายเพื่ออำนวยความสะดวกในการว่าจ้างพนักงาน (78%)


