โรคภูมิแพ้ผิวหนัง โรคที่ต้องปวดแสบปวดร้อน คันคะเยอ มีผื่นแดง แห้งเป็นขุยรู้หรือไม่อาการเหล่านี้อาจมาจากการใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวที่มีสารเคมีปนเปื้อนทานยาเท่าไรก็ไม่หาย ลองมาเรียนรู้วิธีคิดและวิธีเปลี่ยนการดูแลผิวหนังและร่างกายให้พ้นภัยจากสารเคมีด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นธรรมชาติและสามารถใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เพื่อสุขภาพร่างกายที่ไร้สารเคมีจากเชฟทำอาหารสู่การสร้างผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจากวัตถุดิบธรรมชาติ
นางวิตราภรณ์ พิมพลา (ปอน)เจ้าของแบรนด์ Znya Organics (เซนย่า ออร์แกนิกส์)เล่าถึงที่มาของเซนย่า ออร์แกนิกส์ว่า จุดเริ่มต้นของการทำแบรนด์นี้ขึ้นมาสืบเนื่องมาจากเคยป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนังเมื่อ 12ปีที่แล้วตอนอยู่ประเทศ สหรัฐอเมริกา หมอบอกว่าแพ้อาหารที่ทานประจำ หมอก็รักษาด้วยการทายาก่อนในช่วงแรกพอไม่หายก็ให้ทานยาอีก ซึ่งต้องทานยาทุกวันตลอด 2 ปีและต้องเพิ่มจำนวนยาที่ทานเ พราะอาการไม่ดีขึ้นเลย ในระหว่างนั้นก็ทำสกินเทสไปด้วยซึ่งทำแบบนี้อยู่ประจำแต่ก็ไม่หาย พอไปหาหมออีกครั้ง หมอบอกว่าถ้า 2ปีอาการยังไม่หายไปหมอจะให้ฉีดยาซึ่งการฉีดยารักษานั้นต้องฉีดถึง 5 ปีและในระหว่างนี้จะไม่สามารถมีบุตรได้เนื่องจากเป็นอันตรายต่อเด็ก
“เราก็ไม่อยากฉีดเพราะอายุก็มากขึ้นเรื่อยๆถ้ารักษาไปอีก 5 ปี แล้วต้องพักร่างกายอีกสักระยะอายุก็เพิ่มขึ้นการที่จะมีครรภ์ในช่วงอายุมากๆ ก็มีผลเสี่ยงตามมาอีกซึ่งเราไม่อยากใช้ชีวิตแบบนั้นจนกระทั่งมีโอกาสได้กลับมาบ้านที่ประเทศไทยก็เจอญาติมาถามอาการป่วยเป็นปกติที่เจอกันซึ่งทุกคนในบ้านจะรู้ว่าเราป่วยเป็นโรคนี้อยู่แล้ว เราก็ตอบไปว่ายังไม่หายทางญาติก็เลยแนะนำว่าให้ลองเลิกใช้สบู่อาบน้ำ โดยได้ไปอ่านบทความมาพบว่า ในสบู่อาบน้ำมีสารเคมีเยอะมากให้ลองเลิกใช้ดู พอได้ฟังอย่างนั้นเราก็แปลกใจทำไมต้องเลิกใช้แต่ก็ลองทำดูเลิกใช้สบู่อาบน้ำโดยเวลาอาบน้ำอาบแค่น้ำเปล่าและใช้ใยบวบขัดผิวเท่านั้นบวกกับการทานยาไปด้วย เราก็สังเกตอาการว่าเป็นอย่างไร ปรากฏว่าอาการดีขึ้นเราเลยลองเลิกทานยาและสังเกตก็ไม่คันตามผิวหนังหลังจากนั้นเราก็เลิกใช้สบู่อาบน้ำไปเลย และพวกครีมทาผิวต่างๆที่ใช้เป็นประจำก็เลิกใช้ไปด้วย”
หลังจากที่เธอเลิกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวที่มีสารเคมีก็หันมาใช้ที่เป็นแบบธรรมชาติออร์แกนิกส์ ที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีใดๆ อาการแพ้ก็ค่อยๆ หายไปสำหรับผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกส์ที่ใช้จะซื้อที่อเมริกา เพราะอาศัยอยู่ที่นั่นแต่พอได้กลับมาอยู่ที่ประเทศไทยเราก็ไม่สามารถสั่งซื้อหรือฝากเพื่อนซื้อมาได้ตลอดเนื่องจากราคาค่อนข้างสูงและจะต้องใช้ไปตลอดคงไม่ไหวจึงนึกขึ้นได้ว่าถ้าเราทำใช้เอง จะเป็นยังไงหลังจากนั้นก็ลองทำใช้เองก่อนโดยเริ่มจากการทำสบู่จากธรรมชาติโดยไม่มีสารเคมีใดๆพอทำแล้วเอามาใช้ ผลที่ได้คือไม่แพ้ ไม่คัน สามารถใช้ได้ เราก็ทำใช้เองตลอดใช้เองสักระยะหนึ่งก็มีความคิดว่า แล้วคนที่เป็นเหมือนเราเขาจะเป็นยังไงก็เลยลองทำไปขายดูโดยการออกบูธของงานต่างๆพอนำไปขายซึ่งตอนนั้นก็ยงไม่มีคนรู้จักเท่าไหร่ สักพักมีคนมาถามเป็นชาวต่างชาติถามว่า สินค้าเป็นออร์แกนิกส์ ปลอดภัยจริงหรือ พอเธอได้ยินเช่นนั้นก็คิดได้ว่าต้องทำให้มันถูกต้องตามมาตรฐานการค้าหลังจากนั้นจึงนำผลิตภัณฑืเข้าสู่กระบวนการผลิตที่ถูกต้องจนกลายมาเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ เซนย่า ออร์แกนิกส์ ถึงทุกวันนี้
“เซนย่า ออร์แกนิกส์” เป็นแบรนด์ที่ผลิตผลิตภัณฑ์ที่ดูแลผิวโดยเฉพาะระยะเวลาในการทำมาทั้งหมดจนถึงปัจจุบันก็ 5 ปีแล้ว โดยมีวิธีการทำการตลาด คือความปลอดภัยของสุขภาพ ซึ่งผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวันล้วนมีสารเคมีปนเปื้อน แม้กระทั่งในอาหารที่รับประทานเพราะฉะนั้นการตลาดที่ทำคือความปลอดภัยของสุขภาพร่างกาย ทั้งตัวเองและคนในครอบครัวสารเคมีที่เข้าสู่ร่างกายอาจจะไม่เกิดผลในทันใดแต่ถ้าสะสมไปเรื่อยๆอาจจะมีผลข้างเคียงในระยะยาวก็เป็นได้
โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเน้นที่คนไทยมากกว่าต่างชาติเพราะคนไทยยังไม่ค่อยรู้จักผลิตภัณฑ์ที่เป็นธรรมชาติมากนักถึงแม้ว่าจะมีคนใช้อยู่แต่ก็อาจเป็นไปได้ว่าในผลิตภัณฑ์ที่บอกว่าเป็นออร์แกนิกส์นั้นอาจจะมีสารปนเปื้อนแทรกแซงอยู่ก็ได้เพราะฉะนั้นจึงอยากจะเน้นคนไทยเป็นหลักเพราะไม่อยากให้คนอื่นต้องมาเป็นเหมือนตัวเอง ขณะนี้จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ คือความปลอดภัย ปลอดสารเคมี ดีต่อสุขภาพผิว โดยผลิตภัณฑ์มีหลากหลายไม่ว่าจะเป็น สบู่แชมพูสระผม น้ำมันปาล์ม ลิปปาล์ม ยาสีฟัน และอีกมากมาย ล้วนแต่เป็นธรรมชาติทั้งหมด
การวางแผนธุรกิจในอนาคตเธอเตรียมพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นธรรมชาติปลอดภัยต่อร่างกายอย่างต่อเนื่อง หวังให้คนอื่นได้ดูแลตัวเองให้ปลอดจากสารเคมีถ้าทำไปแล้วได้ผลตอบรับที่ดีรายได้จะตามมาทีหลังเองซึ่งรายได้ที่ทำธุรกิจนี้มารายได้ก็สูงพอสมควรและค่าเฉลี่ยก็เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวรวมถึงการขายสินค้าก็จะมีทั้งออนไลน์และตามห้างสรรพสินค้าต่างๆที่เราประสานงานติดต่อการวางจำหน่าย
ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย เซนย่าออร์แกนิกส์ สามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดขึ้นไป ปลอดภัยการันตีจากผู้สร้างแบรนด์และประสบการณ์ที่เจอมากับตัวเอง “ใครที่อยากดูแลตัวเองและคนในครอบครัวก็ลองเปลี่ยนวิธีคิดและมองไปในอนาคตว่าของที่เรานำเข้าร่างกายนั้นจะส่งผลดีผลเสียมากน้อยแค่ไหนไม่อยากให้คนอื่นต้องมาป่วยแบบเราเพราะฉะนั้นเลือกใช้สินค้าที่ปลอดสารเคมีจะดีกว่า” คุณปอนกล่าวทิ้งท้าย
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมhttps://www.facebook.com/ZnyaOrganics/" CLASS="innerlink" TARGET="_blank">Znya Organics
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *