กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยยอดจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่เดือน พ.ค.เพิ่ม ชี้เอกชนยังคงมั่นใจเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวเผยตลอด 5 เดือน ของปี 61 มียอดจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ รวมกว่า 31,000 ราย โต 5%
นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึง ยอดการจดทะเบียนธุรกิจและการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประจำเดือน พฤษภาคม 2561 ว่าจำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศในเดือนพฤษภาคม 2561 จำนวน 5,865 ราย เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2561 จำนวน 5,120 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 745 ราย คิดเป็นร้อยละ 15 และเมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2560 จำนวน 5,832 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 33 ราย คิดเป็นร้อยละ 1 โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 538 ราย คิดเป็น ร้อยละ 9 รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 345 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 163 ราย คิดเป็นร้อยละ 3
ทั้งนี้ มาจากผลพวงภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวอย่างชัดเจนจากภาคการส่งออก และภาคการท่องเที่ยว ในขณะที่การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนมีโอกาสเติบโตจากผลของมาตรการและโครงการต่างๆ ของภาครัฐ อาทิ มาตรการดูแลผู้มีรายได้น้อยผ่านโครงการไทยนิยมยั่งยืน รวมทั้งการเร่งกระบวนการก่อสร้างโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และ พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รวมถึงภาครัฐ ยังให้ความสำคัญในการส่งเสริมธุรกิจ SMEs เพื่อใช้เป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยการส่งเสริม SMEs ไทยให้ก้าวสู่ยุค 4.0 ผ่านมาตรการด้านการเงิน เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ให้มีศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น คาดว่าจากมาตรการดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยผลักดันให้การจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ไม่น้อยกว่า 80,000 ราย ส่งผลให้ตลอดระยะเวลา 5 เดือนที่ผ่านมามีการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัท จำนวน 31,034 ราย เพิ่มขึ้น จำนวน 1,617 ราย คิดเป็นร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
สำหรับธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนพฤษภาคม มีจำนวน 1,014 ราย เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2561 จำนวน 795 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 219 ราย คิดเป็นร้อยละ 28 และเมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2560 จำนวน 1,074 ราย ลดลงจำนวน 60 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 โดยประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 101 ราย คิดเป็นร้อยละ 10 รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 62 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 41 ราย คิดเป็นร้อยละ 4 ตามลำดับ ซึ่งมูลค่าทุนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ ในเดือนพฤษภาคม 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 4,432 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2561 จำนวน 7,893 ล้านบาท ลดลงจำนวน 3,461 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 44 และเมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2560 จำนวน 10,432 ล้านบาท ลดลงจำนวน 6,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 58