พาณิชย์นำร่อง 3 จังหวัด จัดงาน “Smart Startup 2018” เน้นเชิงรุกปั้นสตาร์ทอัพสู่นักรบเศรษฐกิจพันธุ์ใหม่ เชื่อมนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ พร้อมก้าวสู่การเป็น Smart Enterprise สนองนโยบายไทยแลนด์ 4.0
นายสกนธ์ วรัญญูวัฒนา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงได้เล็งเห็นความสำคัญของสตาร์ทอัพ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ที่หันมาทำธุรกิจ โดยกลุ่มคนเหล่านี้จะมีความคิดสร้างสรรค์ มีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจไทย
ดังนั้น ทางกระทรวงจึงมีนโยบายส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพมีความเข้มแข็งและเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยในปีนี้จะเน้นการทำงานแบบเชิงรุกและมอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าดำเนินการด้านการพัฒนาให้ผู้ประกอบการกลุ่มเครือข่ายนักธุรกิจรุ่นใหม่ เช่น YEC, MOC Biz Club, Young FTI ให้มีความพร้อมในการทำธุรกิจเชิงรุกมากขึ้น ควบคู่กับการกระตุ้นและเสริมสร้างแนวคิดให้เอสเอ็มอีนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพขยายโอกาสทางธุรกิจต่อยอดให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดได้ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล
“กลุ่มสตาร์ทอัพถือเป็นนักรบทางเศรษฐกิจพันธุ์ใหม่ที่เห็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์หรือบริการต่างๆ โดยที่ผ่านมาในปี 2560 มีสตาร์ทอัพในประเทศไทยประมาณ 1,500 ราย และคาดว่าในปี 2562 จะมีสตาร์ทอัพ 3,000 ราย มูลค่าการระดมทุนอยู่ที่ 86.62 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ยังไม่สูงนักหากเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยที่ผ่านมาสตาร์ทอัพส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซ แต่ขณะเดียวกันธุรกิจภาคบริการและการผลิตก็มีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคบริการในแง่การดูแลผู้สูงอายุและระบบขนส่งลอจิสติกส์ที่แนวโน้มมีเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน” นายสกนธ์กล่าว
ทั้งนี้ การจัดกิจกรรม “Smart Startup 2018” จะเน้นการทำงานเชิงรุก จัดกิจกรรม “Smart Startup 2018” พัฒนาเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SME) และสตาร์ทอัพ (Startup) จำนวน 3 ครั้ง ที่จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 8-10 มิถุนายน 2561 จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 13-15 กรกฎาคม 2561 และจังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 24-26 สิงหาคม 25161 นี้
“การจัดงาน Smart Startup 2018 จะเป็นเวทีสำคัญในการเชื่อมต่อและสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกับสตาร์ทอัพของไทยให้มีการต่อยอดธุรกิจร่วมกัน รวมถึงการเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้กับสตาร์ทอัพได้เข้าใจปัญหาการดำเนินธุรกิจของลูกค้าเอสเอ็มอี ขณะที่ธุรกิจเอสเอ็มอีได้เพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจและวิธีการหารายได้ใหม่ๆ จากเทคโนโลยีและบริการ ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจประเทศสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการเดินหน้าประเทศไทยสู่ไทยแลนด์ 4.0” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์กล่าวทิ้งท้าย
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *
SMEs manager
