กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสถาบันอาหาร เตรียมจัดงาน Thailand : Taste of Street Food 4.0, MAKEOVER Chance to the Future "สร้างโอกาสทางธุรกิจสู่อนาคต" ร่วมกับภาครัฐและเอกชน สานพลังประชารัฐ จัดอบรมผู้ประกอบการ ต่อยอดสู่การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพื่อส่งออกได้ในอนาคต พร้อมหนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เตรียมพร้อมสู่ยุค 4.0
นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กิจกรรม Thailand : Taste of Street Food 4.0, MAKEOVER Chance to the Future "สร้างโอกาสทางธุรกิจสู่อนาคต" จัดขึ้นเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการธุรกิจบริการอาหารขนาดเล็กให้มีศักยภาพปรับตัวสู่การแปรรูประดับอุตสาหกรรมต่อไปในอนาคต หรือพร้อมปรับตัวสู่เศรษฐกิจฐานบริการที่เข้มแข็งขึ้น รวมทั้งให้โอกาสผู้สนใจที่จะเข้ามาเริ่มต้นธุรกิจ (start up) ได้มาศึกษาช่องทางและพบปะผู้เชี่ยวชาญที่จะให้คำแนะนำในการเริ่มต้นธุรกิจ ทั้งสร้างความเชื่อมั่นภาพลักษณ์ครัวไทยครัวคุณภาพปลอดภัยทุกระดับ
จากข้อมูลในปี 2560 มูลค่าจำหน่ายของธุรกิจบริการอาหารในประเทศไทย ประเมินโดย Euro monitor International มีมูลค่า 836,856 ล้านบาท เมื่อพิจารณามูลค่าจำหน่ายของแต่ละประเภท พบว่า Street Food มีสัดส่วนถึง 32.43% หรือราว 2.7 แสนล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 4.3 และยังเติบโตต่อเนื่องโดยคาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 3.4 แสนล้านบาทในปี 2564 คิดเป็นอัตราขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 5.3 ต่อปี รองลงมาเป็นธุรกิจคาเฟ่/บาร์ 29.31% ภัตตาคาร/ร้านอาหาร 20.43% ฟาสต์ฟูด 14.74% ดีลิเวอรี/ซื้อกลับบ้าน 3.07% และศูนย์อาหารบริการตนเอง 0.03% ตามลำดับ
มีผู้ประกอบการดำเนินธุรกิจร้านอาหารริมทางประมาณ 103,000 ร้าน มีสัดส่วนร้อยละ 69 ของร้านอาหารทั้งหมด เติบโตเฉลี่ยร้อยละ 5.4 ต่อปี และมีร้านอาหารริมทางเครือข่ายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์คิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 13 ของร้านอาหารริมทางทั้งหมด โดยมีมูลค่าราว 3.7 หมื่นล้านบาท ขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 4.7 ต่อปี ได้แก่ "ไก่ย่างห้าดาว" และ "ไก่ทอดห้าดาว" ครองส่วนแบ่งตลาดรวมกัน 35% รองลงมาคือ "ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว" 19% ที่เหลือเป็นรายย่อยอื่นๆ จำนวนมาก
นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า สถาบันอาหาร ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจในเรื่องการสนับสนุน และส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหาร และธุรกิจบริการให้เติบโตอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการผลักดันให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมอาหารก้าวสู่ยุค 4.0 จึงริเริ่มจัดงานดังกล่าวขึ้นเพื่อให้ผู้ประกอบการอาหารริมทางทั่วประเทศ ผู้ประกอบการธุรกิจอาหารและธุรกิจเชื่อมโยง ผู้สนใจเข้าสู่ธุรกิจอาหาร และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมชมงาน
ด้านแนวคิดการจัดงานประกอบด้วย 1) Chance to the Future สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ สร้างรายได้ 2)The Show of Innovation นวัตกรรมทางธุรกิจ (สังคมไร้เงินสด) การชำระค่าอาหารผ่าน QR Code, การสั่งซื้ออาหารผ่าน Application, Logistic ระบบจัดส่งอาหารด้วยความรวดเร็ว และนวัตกรรมด้านบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหาร 3) Big Brother "สานพลังประชารัฐ" พบหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนขนาดใหญ่ที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจอาหารพร้อมให้การสนับสนุน เสริมความรู้ และ 4) Business Solution ร่วมหาแนวทางในการดำเนินธุรกิจที่เหมาะสมกับผู้ประกอบการรายใหม่ หรือรายเดิม
ทั้งนี้ รูปแบบการจัดงานประกอบด้วย 1) จัดกิจกรรมยกระดับและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอาหารริมทางด้วยการอบรมและการให้องค์ความรู้ในการดำเนินธุรกิจแก่ผู้ประกอบการอาหารริมทางจำนวน 100 ราย ในหัวข้อต่างๆ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในวันที่ 25-26 เม.ย. 2561 ณ ศูนย์การเรียนรู้อาหารไทย ประกอบด้วย หลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิต และการให้บริการตามมาตรฐานความปลอดภัย เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการผลิตอาหาร การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการขาย แนวทางการขยายธุรกิจ Street Food 100 ล้าน การเข้าถึงแหล่งเงินทุน และการเตรียมความพร้อมสู่ยุค 4.0 พร้อมชมศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมอาหาร Industry Transformation Center รวมทั้งงานบริการด้านอื่นๆ ของสถาบันอาหารเพื่อการต่อยอดสู่ภาคอุตสาหกรรมในอนาคต
2) พื้นที่จัดแสดงศักยภาพร้านอาหารริมทาง จัดแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ดังนี้ โซน Street Food สู่อุตสาหกรรม จัดแสดงศักยภาพของผู้ประกอบการที่มีการพัฒนาต่อยอดจากอาหารริมทางมาสู่รูปแบบของการผลิตในเชิงอุตสาหกรรม เช่น ไก่ย่างห้าดาว ชายสี่หมี่เกี๊ยว หมูปิ้งเฮียนพ ไส้กรอกแม่ไก่ โซนล้านไลก? ร้อยล้าน การออกร้านจำหน่ายอาหารที่มีชื่อเสียงจากโซเชียลผ่านการกดไลก์จากคนดูจำนวนมาก โซนจำลองร้านอาหารริมทางย่านการค้าสำคัญ ได้แก่ เยาวราช, วังหลัง-ท่าพระจันทร์, เจริญกรุง-บางรัก, บางลำพู-ข้าวสาร โซน OTOP ริมทาง ตัวอย่างอาหารริมทางจากทั่วประเทศที่ได้รับการรับรองความอร่อยจากกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย
โซน Food Truck ที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ และมีกลุ่ม Start Up จำนวนมาก โซน Food Exhibition เรื่องราวความเป็นมาของอาหาร Street Food ที่ได้รับความนิยม และติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก โซนนิทรรศการและการจัดแสดงชุดรถเข็นต้นแบบ ที่ผลิตและออกแบบตามข้อกำหนดและถูกสุขลักษณะเรื่องวัสดุประกอบรถเข็น ตำแหน่งการจัดวางอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย โซนนิทรรศการแนวโน้มบรรจุภัณฑ์อาหารสำหรับ Street Food ที่ทันสมัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โซนนิทรรศการของหน่วยงานร่วมดำเนินงาน และผู้สนับสนุนการจัดงานอย่างเป็นทางการ เช่น กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) เป็นต้น โดยมีอีกหลายหน่วยงานร่วมให้การสนับสนุนการจัดงานครั้งนี้ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร องค์การสุรา กรมสรรพสามิต สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) บริษัท ไทยร่วมใจน้ำมันพืช จำกัด และบริษัท อาจจิตต์อินเตอร์เนชั่นแนล เพ็พเพอร์แอนด์สไปซ์ จำกัด
ส่วนในวันศุกร์ที่ 27 เมษายนนี้ เวลา 18.00 น. จะจัดให้มีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ ณ บริเวณสวนหลวงพระราม 8 เชิงสะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี โดยจะจัดแสดงนิทรรศการตัวอย่าง Street Food สู่อุตสาหกรรม แนวโน้มบรรจุภัณฑ์ในอนาคต และผลิตภัณฑ์อาหารริมทางที่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ เช่น ขนมหม้อแกงกรอบ ขนมจีนน้ำยาปูฟรีซดราย น้ำซอสผัดไทยทิพย์สมัย ทั้งนี้จะจัดเลี้ยงในรูปแบบ Family Dinner เป็นการนำเมนูอาหาร Street Food มาปรุงโดยเชฟ ชุมพล แจ้งไพร โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 300 ท่าน ประกอบด้วย คณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ แขกผู้มีเกียรติจากภาครัฐและเอกชน ผู้มีชื่อเสียงในแวดวงการท่องเที่ยว อาหาร โรงแรม สายการบิน สถาบันการศึกษา และสื่อมวลชน
จัดระหว่างวันที่ 27-29 เม.ย. 2561 เริ่ม 11.00-22.00 น. บริเวณพื้นที่ใต้สะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี พบกองทัพร้านอาหารริมทางเลื่องชื่อกว่า 100 ร้าน จำลองบรรยากาศย่านการค้าดั้งเดิม พร้อมโชว์ชุดรถเข็นต้นแบบที่ถูกสุขลักษณะ หวังกระตุ้นตลาดร้านอาหารริมทาง หรือ Street Food ของไทย ได้รับการยกระดับความปลอดภัย คุณภาพ มาตรฐานการผลิตและการบริการ
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *