"วาฟเฟิล"ที่มีรูปร่างหน้าตา คล้ายกับอวัยะเพศของผู้ชาย หรือ "วาฟเฟิล กะจู๋" มีให้เห็นกันแล้วในประเทศไทย หลังจากที่ฮือฮากันมาสักระยะ สำหรับวาฟเฟิล กะจู๋ ที่ไต้หวัน และอีกหลายประเทศ โดยเจ้าของร้านสาวสวย "เกตน์นิตา ประเสริฐสมบูรณ์" เปิดร้านวาฟเฟิล ที่ชื่อว่า "พ่อหั้ยมา" ที่ตลาดอินดี้ มาร์เก็ต ดาวคะนอง
“เกตน์นิตา” เล่าว่า เธอได้เปิดร้านวาฟเฟิล อยู่ที่ตลาดอินดี้ ใช้ชื่อร้านว่า “พ่อ.หั้ย..มา” และชื่อนี้ ก็คงมาจากรูปร่างหน้าของวาฟเฟิล ที่หลายคน จะพูดถึงอวัยวะเพศของเด็กผู้ชายว่าพ่อให้มา แฟนคิดไม่ออกว่าชื่อร้านอะไร ก็เลยตั้งชื่อนี้เสียเลย และสอดคล้องกับหน้าตาของวาฟเฟิลของเราด้วย ส่วนที่มาของการมาเปิดร้านวาฟเฟิล มาจาก เราสองคนอยากจะมีธุรกิจเล็ก ที่นอกเหนือจากงานประจำที่ทำอยู่ ตอนนั้น ดูอยู่หลายอย่าง และได้ไปเห็นวาฟเฟิลแบบนี้ ทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งในต่างประเทศมีเครื่องทำวาฟเฟิลแบบนี้ขาย ตัดสินใจซื้อทางออนไลน์ และมาเปิดร้านเล็ก ลงทุนรวมทุกอย่างประมาณ 4 หมื่นกว่าบาท ตอนนี้เกือบจะคืนทุนแล้ว
“ในช่วงแรก ไม่คิดว่าจะได้รับการตอบรับดีขนาดนี้ เพราะช่วงที่ทำไม่รู้ว่า ลูกค้าจะกล้าซื้อมากน้อยแค่ไหน แต่พอมาทำขายจริง กระแสตอบรับดีมาก มีคนพูดถึง และนำไปแชร์ต่อๆ กัน จนเป็นที่รู้จัก และมีสือมาสัมภาษณ์ มาถึงวันนี้ มีลูกค้าเพิ่มขึ้นทุกวัน จากวันแรกขายได้ 40 กว่าชิ้น พอมาวันนี้ ขายได้วันหนึ่งมากกว่า 100 ชิ้น กลุ่มลูกค้าที่ซื้อ จะเป็นผู้หญิง มากกว่า ผู้ชาย ซึ่งลูกค้าผู้หญิงอาจจะชอบเล่นเฟซบุ๊ก ก็เลยซื้อถ่ายรูปอวดเพื่อนๆ และทุกคนไม่ได้รู้สึกเขินอายแต่อย่างใด ก็เลยเกิดการบอกกันแบบปากต่อปาก"
สำหรับลูกค้า นับจากวันเปิดร้าน วันนี้ ผ่านมาประมาณ 1 เดือน ต้องยอมรับว่า ผลตอบรับดีเกินคาด ซึ่งคงมาจากรูปร่างของวาฟเฟิล บางคนเคยเห็นจากต่างประเทศ พอมีขายในประเทศไทยซื้อถ่ายรูปอวดเพื่อนๆ ในขณะนี้ บางอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อน พอเห็นรู้สึกตื้นเต้น ซื้อถ่ายรูปอวดเพื่อนในเฟซบุ๊กเช่นกัน เรียกว่าทุกคนที่มาซื้อก็จะถ่ายรูป ช่วยโปรโมทร้านเราอีกทางหนึ่ง ทำให้คนรู้จักเราในเวลาอันรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้มองข้ามเรื่องของรสชาติ และคุณภาพของขนม เพราะรูปร่างหน้าตาดึงลูกค้าในช่วงแรก แต่ถ้ายั่งยื่นขนมต้องดีและอร่อยด้วย
โดยวาฟเฟิลของร้าน "พ่อหั้ยมา" จะไม่ทำทิ้งไว้ ลูกค้าสั่งเขาถึงจะทำให้ใหม่ๆ เพราะวาฟเฟิลจะอร่อยต้องกินร้อนๆ และจุดเด่นของร้านนี้ อีกอย่างหนึ่ง คือ แป้งเมื่อแป้งเย็นจะไม่เหนียว แป้งจะยังคงนุ่มอยู่ และนำไปเข้าเตาไมโคเวฟรสชาติอร่อยเหมือนเดิม ส่วนรสชาติจะมีรสเดียว ข้างในเป็นไส้กรอก ชีส กินกับ ท็อปปิ้ง อย่างช็อกโกแลต สตอเบอรี่ บลูเบอรี่ หรือ กินเป็นของคาวจะมีซอสพริก มะเขือเทศ ฯลฯ ราคาชิ้นละ 39 บาท
"เกตน์นิตา" เล่าว่า ที่เธอตัดสินใจมาเปิดร้าน เพราะส่วนตัวไม่ชอบการทำงานออฟฟิต ก่อนหน้านี้ก็เข้าๆ ออกๆ เป็นฟรีแลนด์บ้าง แต่ยังไม่เคยค้าขายอย่างจริงจัง ทั้งที่ตัวเองเป็นคนชอบขาย ครั้งนี้ ตัดสินใจมาค้าขาย ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีรายได้มากขนาดนี้ เพียงแค่พอมีกินมีใช้ในแต่ละวัน แต่โชคดีที่ขายได้ มากกว่าที่คิด รายได้ที่ผ่านมา 1 เดือน ประมาณ 40,000 บาท ซึ่งมากกว่า การทำงานออฟฟิต
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นสินค้าตามกระแส วันหนึ่งต้องมีคู่แข่ง หรือ ความนิยมลดลงไป เชื่อว่า ถ้าลูกค้าติดใจในรสชาติน่าจะยังคง ซื้อของเรากินอยู่ หรือไม่ เราก็ต้องดูของกินอื่นๆ ที่น่าสนใจ เปลี่ยนไปตามกระแสก็เป็นได้ แต่ตอนนี้ขอทำตรงนี้ให้ดีที่สุดก่อน
สนใจ โทร. 06-1878-1799
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *