กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมประกาศรายชื่อ พร้อมมอบรางวัลเอสเอ็มอีอัจฉริยะ (Intelligent SMEs) ต้นแบบผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ จำนวน 125 รายจากทั่วประเทศ กระตุ้นผู้ประกอบการเร่งพัฒนาธุรกิจเชิงนวัตกรรม ก้าวสู่การเป็นเอสเอ็มอียุค Industry 4.0 สอดรับกับนโยบายรัฐบาล
ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงของระบบอุตสาหกรรมทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ในการเตรียมความพร้อมของการเข้าสู่โลกยุคประเทศไทย 4.0 เพื่อการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของประเทศนั้น วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่การเป็น SMEs 4.0 ที่เน้นการนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาช่วยในการพัฒนาการผลิต การค้า การขาย รวมถึงปรับเปลี่ยนรูปแบบการประกอบธุรกิจให้เป็นดิจิตอลทั้งระบบ ตั้งแต่เริ่มกระบวนการคิด การวางแผน การออกแบบ การผลิต การจัดการ การตลาด การรับจ่ายเงิน การขนส่ง หรือการบริการ เพื่อก่อให้เกิดนวัตกรรมทางการค้า ให้สามารถผลิตสินค้านวัตกรรมและนำไปแข่งขันในเวทีสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่จะผลักดันประเทศไทยสามารถขยับสู่การเป็นประเทศรายได้สูงได้ภายในปี 2579
สำหรับการสนับสนุน และส่งเสริม SMEs ให้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปสู่ SMEs 4.0 รัฐบาลได้ตั้งวงเงินจำนวน 2 หมื่นล้านบาท เพื่อให้ SMEs โดยเฉพาะกลุ่มที่มีศักยภาพที่ต้องการขยายการลงทุน กลุ่มที่มีแนวคิดในการพัฒนานวัตกรรม หรือการนำผลงานวิจัยมาต่อยอดในกระบวนการผลิตและให้บริการ ตลอดจนการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีของ SMEs เดิมเข้าสู่กลุ่ม S-Curve สามารถเข้าถึงแหล่งทุน โดยเกณฑ์การสนับสนุนสินเชื่อจะต้องมีเงื่อนไขที่ผ่อนปรน และเปิดโอกาสการเข้าถึงแหล่งทุนต้นทุนต่ำที่มากกว่าปกติ เป็นจุดกระตุ้นให้สถาบันการเงินกลับมาช่วยสนับสนุนเงินทุนแก่ SMEs ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว โดยอาศัยความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมตามแนวประชารัฐในการพิจารณากรอบการอนุมัติสินเชื่อและการควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้
ในปีนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (กสอ.) ได้สนับสนุนและพัฒนาผู้ประกอบการตามแผนยุทธศาสตร์ ภายใต้โครงการสร้างและส่งเสริมเอสเอ็มอีอัจฉริยะ หรือ Intelligent SMEs เพื่อเป็นการสร้าง SMEs รุ่นใหม่ให้แก่วงการ SMEs ไทย รวมถึงการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ SMEs ทั่วไปในการประกอบธุรกิจให้ประสบความสำเร็จตั้งแต่ต้นปี จนกระทั่งได้ SMEs ต้นแบบที่ประสบความสำเร็จจำนวน 125 ราย และได้คัดเลือกสุดยอด SMEs อัจฉริยะ (The Best of Intelligent SMEs) ของทั้ง 5 สาขา ดังนี้
1. สาขานวัตกรรม (Innovation) : บริษัท ไทย เด็นทอล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเตียงหมอฟันจากพลังงานลม
2. สาขาการผลิต (Productivity) : บริษัท เอ็ม.วาย.อาร์ คอสเมติคส์ โซลูชั่น จำกัด เป็นผู้ผลิตและทำแบรนด์เครื่องสำอาง
3. สาขาการจัดการ (Management) : บริษัท อินเตอร์โปรไฟล์ จำกัด เป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกด้วยกระบวนการรีด, ฉีด, เป่า
4. สาขาส่งออก Internationalization : บริษัท เมดิฟูดส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากข้าว
5. สาขาดิจิตอลและอีคอมเมิร์ซ Digital & E-Commerce : บริษัท อีพี เดคคอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอุปกรณ์ม่าน
โดยผู้ประกอบการต้นแบบทั้ง 125 รายนี้ก็จะได้รับการประชาสัมพันธ์ธุรกิจผ่านสื่อต่างๆ รวมถึงมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ในความดูแลของกระทรวงอุตสาหกรรม เช่น การฝึกอบรม สัมมนา การให้คำปรึกษา แนะนำเชิงลึก และยังได้สิทธิพิเศษในการออกบูทแสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมอีกด้วย
อย่างไรก็ดี กสอ.ยังจะเดินหน้าพัฒนา SMEs อย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมให้เกิดเป็นต้นแบบของ SMEs อัจฉริยะสู่การเปลี่ยนถ่ายเป็น SMEs 4.0 มากยิ่งขึ้น ผ่านการดำเนินโครงการต่างๆ โดยได้ตั้งงบประมาณกว่า 830 ล้านบาทเพื่อรองรับการพัฒนา SMEs ในทุกระดับ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้นำไปใช้ในการปรับปรุงการดำเนินธุรกิจ และนำพาประเทศสู่ฐานะผู้นำทางด้านเศรษฐกิจในอนาคต ดร.พสุกล่าวปิดท้าย
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *