บสย.เผยผลการดำเนินงานค้ำประกันสินเชื่อเอสเอ็มอีช่วง 6 เดือนของปี มูลค่า 29,591 ล้านบาท อนุมัติหนังสือค้ำประกันสินเชื่อ 47,204 ฉบับ ลูกค้ารายใหม่ 39,771 ราย ตามเป้าที่วางไว้ เผยยุทธศาสตร์ครึ่งปีหลังขานรับนโยบายรัฐบาลหนุน SMEs เข้าถึงแหล่งทุน ถึงเป้า 86,000 ล้านบาท
นายนิธิศ มนุญพร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานค้ำประกันสินเชื่อของ บสย.ในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2560 (ม.ค.-มิ.ย.) ณ 30 มิถุนายน 2560 มียอดค้ำประกันสินเชื่อ จำนวน 29,591 ล้านบาท อนุมัติหนังสือค้ำประกันสินเชื่อจำนวน 47,204 ฉบับ และมีลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้น 39,771 ราย
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานล่าสุดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมียอดค้ำประกันสินเชื่อเพิ่มขึ้นเป็น 33,890 ล้านบาท การอนุมัติหนังสือค้ำประกันสินเชื่อเพิ่มขึ้นเป็น 54,234 ฉบับ และมีลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 47,102 ราย
โดยเป็นผลมาจากมาตรการให้การสนับสนุนจากรัฐบาล และจากกระทรวงการคลังในช่วงที่ผ่านมาที่ให้การสนับสนุนโครงการค้ำประกันสินเชื่อรายย่อย (Micro) ก่อให้เกิดการเข้าถึงสินเชื่อได้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของ บสย. ในปี 2560 คือการขยายฐานลูกค้า SMEs ทุกกลุ่มเพิ่มการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
นายนิธิศเผยด้วยว่า เป้าหมายการเพิ่มขึ้นของจำนวนลูกค้าใหม่ในปี 2560 ตั้งไว้ที่ 67,419 ราย ซึ่งขณะนี้สามารถเพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่ได้แล้ว 47,102 ราย ขณะเดียวกัน บสย.ตั้งเป้าจำนวนการออกหนังสือค้ำประกันสินเชื่อ (LG) 88,518 ฉบับ โดยสามารถให้ความช่วยเหลือค้ำประกันสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ไปแล้ว 54,234 ฉบับ คิดเป็นจำนวนการอนุมัติหนังสือค้ำประกันเพิ่มขึ้นถึง 163% และจำนวนลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้น 243% เป็นไปตามยุทธศาสตร์ บสย. คือการขยายฐานลูกค้า SMEs ทุกกลุ่มเพิ่มการเข้าถึงแหล่งทุน
ทั้งนี้ กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลัง บสย.ยังมุ่งมั่นภารกิจด้านการค้ำประกันสินเชื่อโดยมุ่งสนับสนุนผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อให้มากที่สุด ทั้งในด้านจำนวนเงินและจำนวนราย วางเป้าหมายจำนวน 86,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ บสย.จะให้การสนับสนุน และผลักดันโครงการค้ำประกันสินเชื่อรายย่อยต่อไป ซึ่งขณะนี้มีธนาคารเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้น 6 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารทิสโก้ ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งได้ร่วมโครงการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคเกษตรรายเล็กๆ รวมถึงล่าสุด ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว โดยได้ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือผู้ประกอบการกลุ่มมุสลิมรายย่อยในพื้นที่ภาคใต้มากขึ้น
ส่วนความคืบหน้าการแก้ไขหลักเกณฑ์ผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อเอสเอ็มอีทวีทุน ระยะที่ 6 หรือ PGS6 บสย.จะรับผิดชอบภาระการค้ำประกันที่เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ให้ธนาคารเพิ่มขึ้นเป็นไม่เกิน 30% จากปัจจุบัน 23% คาดสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมากขึ้น 20,000-30,000 ราย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดหลักเกณฑ์ของกระทรวงการคลัง คาดต้องใช้งบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลหลักพันล้านบาท เตรียมจะเสนอ ครม.พิจารณาวันที่ 1 สิงหาคม 2560 และสามารถเริ่มดำเนินการภายในเดือนสิงหาคมทันที
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *