ความเปราะบางของถ่านไม้ เมื่อนำมาผสานเข้ากับเรซิ่นที่มีความแข็งแรงคงทน ก็ก่อเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ขึ้นอยู่กับไอเดียสร้างสรรค์ของนักคิด หนึ่งในนั้นคือ “นภดล สังวาลเพ็ชร” เจ้าของผลิตภัณฑ์แบรนด์ CHAR CO- (ชาโคล) ที่นำถ่านมาผสานเรซิ่น สู่ผลงานสร้างสรรค์ จนคว้ารางวัลด้านการออกแบบดีเด่นมาครอง
ความคุ้นชินกับถ่านมาตั้งแต่เด็กของ “นภดล สังวาลเพ็ชร” ทำให้เมื่อคิดจะรังสรรค์ผลงานสักชิ้นก็ไม่อาจมองข้ามถ่านไม้ไปได้ โดยผู้เป็นลุงเปิดโรงเผาถ่านมานาน กระทั่งความนิยมในการใช้งานเริ่มลดน้อยลงหันมาใช้เตาแก๊ส เตาไฟฟ้าแทน ซึ่งปัจจุบันเด็กรุ่นใหม่บางคนอาจจะไม่รู้จักถ่านด้วยซ้ำ เขาจึงเกิดไอเดียนำถ่านมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใกล้ตัวมากขึ้น ด้วยการศึกษาคุณสมบัติของถ่านอย่างจริงจัง พบว่า คุณสมบัติเด่น คือ การดูดกลิ่น ดูดซับความชื้น ซึ่งโดยทั่วไปผู้คนมักนำถ่านทั้งก้อนมาตั้งวางไว้ เขาจึงคิดว่าหากใส่ไอเดียการออกแบบเข้าไป น่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับการตกแต่งบ้านได้
ขณะเดียวกันข้อเสียของถ่านก็มีเช่นกัน คือ ความเปราะบาง ดังนั้นต้องหาวัสดุอื่นเสริมความแข็งแรง ซึ่งเขามองไปที่ 'เรซิ่น' ที่จะช่วยอุดความเปราะบางเหล่านี้ได้ จึงได้ร่วมกับเพื่อน “ศิรศักดิ์ ลิ้มพัฒธนกุล” และ “วรภัทร เมืองรวมญาติ” พัฒนาผลิตภัณฑ์
ผลงานชิ้นแรกเขาขึ้นรูปเป็นแจกัน โดยนำเอาถ่านมาฝานเป็นแผ่น นำไปขึ้นรูปพร้อมเรซิ่น จากนั้นใช้เทคนิคการเจีย และกลึง พร้อมงานแกะสลักเข้ามาช่วย ซึ่งครอบครัวที่ จ.เพชรบุรี ก็มีธุรกิจโรงกลึงอยู่ก่อนแล้ว ทำให้ขั้นตอนดังกล่าวเป็นเรื่องง่ายไปโดยปริยาย กระทั่งรังสรรค์ออกมาเป็น “แจกัน” ได้สำเร็จ ซึ่งเขามองว่า แจกันเป็นสิ่งที่สามารถตั้งโชว์ในบ้านได้โดยไม่เคอะเขิน เน้นแจกันสีเรียบ รูปทรงมาตรฐาน แต่คงไว้ซึ่งความคลาสสิค ซึ่งผลงานดังกล่าวเขาใช้เวลาลองผิดลองถูกมาประมาณ 1 ปี และทำขายจริงจังมาแล้ว 1 ปีเช่นกัน
เมื่อเป็นผลงานที่ใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไป พร้อมผสานเทคนิคการนำถ่านกับเรซิ่นมาหลอมรวมเข้าด้วยกันจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ทำให้สินค้าแบรนด์ 'Char Co-' คว้ารางวัลด้านการออกแบบมาครอง ได้แก่ รางวัล Popular Vote การประกวดผลิตภัณฑ์หัตถกรรมเชิงสร้างสรรค์ครั้งที่ 5 ประจำปี 2559 (Innovative Craft Award 2016) จัดโดยศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) และรางวัลชนะเลิศ ประเภทการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ (Resource Efficiency) กลุ่มที่ 2 กลุ่มวิสาหกิจชุมชนและประชาชนทั่วไป ในการประกวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเกษตรที่ไม่ใช่อาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Thailand Green Design Awards 2017 จัดโดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
นอกจากผลงานชิ้นแรกที่ทำออกมาเป็นแจกันแล้ว พวกเขายังรังสรรค์ผลงานอื่นๆ ตามมา ได้แก่ โคมไฟ ที่รองแก้ว นาฬิกาแขวน นาฬิกาตั้งโต๊ะ แจกันทรงดินสอ และของตกแต่งผนัง ซึ่งล่าสุดมีการนำถ่านทั้งก้อนมาเชื่อมต่อกันด้วยเรซิ่น วางตำแหน่งลดหลั่นกันไป กลายเป็นของตกแต่งผนังไม่ซ้ำใคร ซึ่งนอกจากจะมีลวดลายสวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้ว ยังสามารถช่วยดูดซับกลิ่นอับและซับความชื้นได้อีกด้วย กลายเป็นผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ และใช้เป็นวัสดุสำหรับงานตกแต่งภายในอาคารได้อย่างลงตัว
ส่วนความกังวลในเรื่องของถ่านจะเปรอะเปื้อนมือผู้ใช้งานนั้น คุณนภดล บอกว่า หมดกังวลไปได้เลยเพราะมีการ 'ล้างน้ำ' ซึ่งสิ่งที่เปื้อนมือนั้นเป็นแค่ฝุ่นสีดำที่มากับเนื้อไม้ ซึ่งจะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับประเภทของไม้ที่เลือกใช้ ซึ่งทาง Char Co เลือกใช้ไม้โกงกางมาเผาเป็นถ่าน สำหรับผลงานดังกล่าวมีกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งคนไทยจะนิยมซื้อจานรองแก้ว และนาฬิกาแขวน ส่วนแจกันจะเป็นกลุ่มลูกค้าโรงแรม และรีสอร์ต โดยราคาเริ่มต้นที่ 175-3,500 บาท ความยากอยู่ในส่วนของขั้นตอนการกลึง โดยเฉพาะแจกัน ส่วนจานรองแก้ว จะสามารถผลิตได้วันละประมาณ 30ชิ้น/คน
อนาคตเขาเตรียมออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมา โดยยังเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทของตกแต่งบ้าน และงานตกแต่งภายในต่างๆ ด้วยการคิดหาวัสดุอื่นมาแตกไลน์เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น การนำโลหะใส่เข้าไปในชิ้นงาน เป็นต้น หวังขยายตลาดเพิ่มไปยังต่างประเทศให้กว้างขวางมากขึ้น
***สนใจติดต่อ Facebook: www.facebook.com/mangrovecharco และ Instagram : charco_studio***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
