“หิน” “ไม้” และ “หญ้า” วัตถุดิบจากธรรมชาติเหล่านี้ ถูกหยิบมาใช้เป็นวัสดุหลักสร้างสรรค์นาฬิกาข้อมือ โดยใส่ดีไซน์เรียบหรูเข้าไป สร้างเสน่ห์แก่ผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี ฝีมือของคนรุ่นใหม่ แบรนด์“FORREST” ที่ผสมผสานความแตกต่างเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว จนผลงานมีโอกาสไปอวดโฉมบนเวทีการค้าแฟชั่นระดับโลก
“เราไม่ได้มองว่า มีช่องว่างในตลาด แล้วค่อยทำสินค้า แต่เราเชื่อว่า ทุกตลาด มีโอกาสอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องทำสินค้าให้คุณภาพดีและมีความเป็นตัวของตัวเอง ถ้าทำได้ ก็มีโอกาสแจ้งเกิดเสมอ” นี่เป็นคำพูดของ “ชวิศ เชษฐชัยยันต์” เจ้าของธุรกิจ และผู้ก่อตั้งนาฬิกาข้อมือ “FORREST” สะท้อนถึงแนวคิดการทำธุรกิจ ที่มุ่งจะทำสินค้าของตัวเองให้ดีที่สุดเป็นอันดับแรก มากกว่าที่จะเห็นโอกาสของตลาด แล้วค่อยกระโดดลงไปทำ
หนุ่มวัย 28 ปี จบด้านออกแบบ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) มุ่งมั่นจะมีธุรกิจของตัวเองตั้งแต่เรียนจบ ก่อนหน้านี้เคยเปิดร้านกาแฟ จนเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ร่วมกับเพื่อนสนิท “จุฑามาศ ภัคกิตติรัฐ” ทำธุรกิจนาฬิกาข้อมือจากวัสดุธรรมชาติ แบรนด์“FORREST”
เขาเล่าว่า จุดเริ่มต้นเกิดจากชื่นชอบในนาฬิกาข้อมือ ยิ่งกว่านั้นคือ รักในความสวยงามของธรรมชาติ ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจจะทำนาฬิกาข้อมือจากวัสดุธรรมชาติ ภายใต้โจทย์ ต้องเป็นวัสดุที่ท้าทายทั้งด้านการผลิตและการออกแบบ เพื่อจะให้เกิดความแตกต่าง และที่สำคัญ เมื่อทำเสร็จออกมาแล้ว ต้องสวยงามน่าใช้งานด้วย
“การหยิบวัสดุจากธรรมชาติมาทำนาฬิกาไม่ใช่เรื่องใหม่ อย่างไม้ หรือหินอ่อน ก็เคยมีแบรนด์อื่นนำมาใช้แล้ว แต่สิ่งที่เราต้อง คือ เลือกใช้วัสดุธรรมชาติที่แตกต่าง และยากที่จะทำได้ อย่าง “มอสส์” (moss) ซึ่งเป็นพืชขนาดเล็ก มีความเบาบางมาก ยากที่จะนำมาทำเป็นพื้นหน้าปัดนาฬิกา เพราะติดข้อจำกัดด้านกลไกนาฬิกา เราก็ต้องหากระบวนการทำให้ได้ ด้วยการนำมอสส์มาอัดจนแน่นแล้วอบแห้ง หรือวัตถุดิบไม้ และหิน เราก็เลือกชนิดที่หายาก มีลวดลายสวยแปลกตา เวลาได้ไม้ หรือหินมาแล้ว ผมจะวงกลมตำแหน่งที่ต้องการให้ตัดมาทำหน้าปัดไว้เลย เพื่อให้เมื่อออกมาเป็นนาฬิกาแล้ว จะได้ลายที่เป็นสวยงาม ไม่ซ้ำใคร” ชวิศ ระบุ
ด้านการออกแบบนั้น เขาบอกว่า เน้นเป็นสไตล์เรียบง่ายแต่ดูดี ส่วนการผลิต หลังออกแบบแล้ว ว่าจ้างโรงงานผลิตและประกอบนาฬิกาในเมืองไทยทำตามแบบที่ต้องการ โดยตัวอุปกรณ์ “เครื่องนาฬิกา” ใช้ของ “Miyota” จากประเทศญี่ปุ่น ส่วนวัสดุธรรมชาติ ทั้งไม้ หิน และหญ้ามอสส์ ใช้ควบคู่กันทั้งวัตถุดิบในประเทศ และนำเข้า
เจ้าของธุรกิจหนุ่มเผยด้วยว่า ใช้เวลาประมาณ 1 ปีกับเงินลงทุนหลายแสนบาท ในการบุกเบิกนาฬิกาแบรนด์ “FORREST” เริ่มออกสู่ตลาดเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว เบื้องต้นขายผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ซึ่งไม่ได้ทำตลาดหวือหวาแต่อย่างใดมากนัก อาศัยซื้อโฆษณาบนออนไลน์บ้างเล็กน้อย แต่เนื่องจากดีไซน์ที่สวยงามประกอบกับใช้วัสดุที่แตกต่างจากท้องตลาดทั่วไป ช่วยให้เกิดการแชร์ทางออนไลน์ และบอกปากต่อปาก ช่วยให้นาฬิกาได้รับความสนใจมากขึ้นตามลำดับ
หลังจากนั้น เริ่มขยับส่งออกไปต่างประเทศ อาศัยออกงานแสดงสินค้าต่างๆ โดยได้รับออเดอร์จากหลายชาติ เช่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลี มาเลเซีย และสิงคโปร์ เป็นต้น ปัจจุบันมียอดผลิต ประมาณหลักพันเรือนต่อเดือน สัดส่วนลูกค้าชาวต่างชาติประมาณ 55% และคนไทย ประมาณ 45%
“กลุ่มผู้ซื้อหลักของเรา จะเป็นคนรุ่นใหม่ ชอบความเป็น indy นิดๆ อายุตั้งแต่ 18ปีไปจนถึงวัยทำงาน มีลักษณะชอบงานดีไซน์ กับกลุ่มคนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และชื่นชอบในวัสดุธรรมชาติ แต่ก็ยังต้องการสินค้าที่สวยงามเหมาะต่อการใช้งานควบคู่ไปด้วย” หนุ่มวัย 28 ปี กล่าว
นาฬิกา “FORREST” นับถึงปัจจุบัน มีด้วยกัน 2 คอลเลคชั่น รวมกันกว่า 20 แบบ ทั้งเพื่อสุภาพบุรุษ และสุภาพสตรี ตัวเรือนจะทำด้วยสแตนเลส สายหนังแท้ ราคามีตั้งแต่ 2,100-3,300 บาท นอกจากนั้นยังมีสินค้าใหม่ เช่น นาฬิกาแขวน และกระเป๋าจากวัสดุธรรมชาติ ขายผ่านผ่านช่องทาง ได้แก่ ออนไลน์ ฝากขายตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ เช่น สยามพารากอน สยามดิสคัฟเวอรี่ เดอะมอลล์ เป็นต้น และในเร็วๆ นี้ กำลังเปิดหน้าร้านของตัวเองที่ “SHOW DC” ย่านถนนพระราม9
นอกจากนั้น เนื่องจากได้เข้าร่วมโครงการ Thai Access to International Market Competition ซึ่งสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาดและขนาดย่อม (สสว.) และองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (Hong Kong Trade Development Council หรือ HKTDC) จัดประกวดผลงานดีไซน์ของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ผ่านวิดีโอคลิป โดยนาฬิกา “FORREST” ได้รับรางวัลชนะเลิศ จึงได้รับการสนับสนุนให้ไปร่วมในงานแสดงสินค้าของขวัญระดับโลก ณ ฮ่องกง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เช่น งาน HKTDC Hong Kong Houseware Fair และ HKTDC Hong Kong Gifts&Premium Fair 2017 เป็นต้น นับเป็นโอกาสครั้งสำคัญจะขยายตลาดให้กว้างยิ่งขึ้น
“แผนของเราในปีหน้า(พ.ศ.2560) มุ่งจะพัฒนาแบรนด์ ทั้งในส่วนตัวผลิตภัณฑ์ ให้มีดีไซน์เยี่ยมควบคู่กับใช้วัสดุธรรมชาติคุณภาพดี แล้วนำเสนออย่างน่าสนใจ ควบคู่กับการเสริมความแข็งแรงด้านการตลาด เช่น การเพิ่มจุดขาย ทำคลิปโฆษณาผ่านออนไลน์ รวมถึง การได้รับโอกาสจาก สสว. ไปออกแฟร์ระดับโลก ก็เป็นอีกช่องทางที่จะสร้างแบรนด์และขยายฐานลูกค้า” ชวิศ กล่าว
ด้วยความสามารถเชิงออกแบบ และเลือกหยิบวัสดุธรรมชาติที่แปลกใหม่ ทั้งไม้ หิน และหญ้า มาสร้างจุดเด่น ช่วยให้แบรนด์“FORREST” แจ้งเกิดสำเร็จ และพร้อมแล้วที่ก้าวต่อไปสู่ตลาดโลกแล้ว
wwwforreststore.com , fb: forreststoreth
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *