ธปท.เผยไตรมาส 3/2559 ระบบธนาคารพาณิชย์ยังมีเสถียรภาพ เงินสำรองและเงินกองทุนอยู่ในระดับสูง ด้านสินเชื่อสินเชื่อ SME ขยายตัวจากร้อยละ 2.9 เป็น 3.2 หนี้เสียมียอดคงค้าง 393.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.9 พันล้านบาท
นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยผลการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 3 ปี 2559 ว่าระบบธนาคารพาณิชย์มีเสถียรภาพ มีเงินสำรองและเงินกองทุนในระดับสูง สามารถรองรับการขยายตัวของสินเชื่อในระยะต่อไป อย่างไรก็ดี ภาวะที่เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปและยังจำกัดเฉพาะบางภาคส่วน ส่งผลให้สินเชื่อขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงและคุณภาพสินเชื่อโดยรวมด้อยลงต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของระบบธนาคารพาณิชย์ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ภาวะเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป กอปรกับการชำระคืนหนี้ของสินเชื่อธุรกิจซึ่งส่วนหนึ่งหันไประดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้ภายใต้ภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ ส่งผลให้สินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ร้อยละ 2.4 จากระยะเดียวกันปีก่อน
สินเชื่อธุรกิจ (ร้อยละ 67.6 ของสินเชื่อรวม) ขยายตัวร้อยละ 1.1 เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ชะลอลงจากร้อยละ 2 ในไตรมาสก่อนจากภาคธุรกิจการเงิน (การคืนหนี้ของธุรกิจโฮลดิ้งเพื่อซื้อกิจการค้าปลีกขนาดใหญ่ ซึ่งส่วนหนึ่งระดมทุนด้วยการออกหุ้นแทน) และสินเชื่อภาครัฐ สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ (ไม่รวมธุรกิจการเงิน) หดตัวน้อยลงที่ร้อยละ 2 โดยยังหดตัวในภาคอุตสาหกรรม ขณะที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นในภาคบริการและพาณิชย์เป็นสำคัญ สำหรับสินเชื่อ SME (ไม่รวมธุรกิจการเงิน) ขยายตัวร้อยละ 3.2 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.9 ในไตรมาสก่อน จากภาคบริการเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นผลจากดีลซื้อคืนหุ้นของบริษัทในธุรกิจสื่อสาร
สินเชื่ออุปโภคบริโภค (ร้อยละ 32.4 ของสินเชื่อรวม) ขยายตัวที่ร้อยละ 5.2 ชะลอลงต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนที่ร้อยละ 6 โดยเป็นการชะลอลงจากสินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อบัตรเครดิต ซึ่งขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ร้อยละ 7.7 2.7 และ 6 ตามลำดับ ขณะที่สินเชื่อรถยนต์ขยายตัวเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 1.9 ตามยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ปรับดีขึ้น
คุณภาพสินเชื่อด้อยลงต่อเนื่อง ทั้งในสินเชื่อธุรกิจโดยเฉพาะสินเชื่อธุรกิจ SME และสินเชื่ออุปโภคบริโภค โดยสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan : NPL) มียอดคงค้าง 393.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 19.9 พันล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วน Gross NPL ต่อสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 2.89 จากร้อยละ 2.72 ขณะที่สินเชื่อจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ (Special Mention Loan : SM) มียอดคงค้าง 324 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 26 พันล้านบาท ทำให้สัดส่วน SM ต่อสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ ร้อยละ 2.38 จากร้อยละ 2.17 ทั้งนี้ ธนาคารพาณิชย์มีการกันสำรองเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับคุณภาพสินเชื่อที่อาจด้อยลง โดยเงินสำรองของระบบธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้น 21 พันล้านบาท เป็น 513.2 พันล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วนเงินสำรองที่มีต่อเงินสำรองพึงกันเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ร้อยละ 161.6 จากไตรมาสก่อนที่ร้อยละ 161.3
ในไตรมาส 3 ปี 2559 ระบบธนาคารพาณิชย์มีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจากการบริหารต้นทุน เงินฝาก โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน 97.1 พันล้านบาท หดตัวที่ร้อยละ 9.8 จากระยะเดียวกันปีก่อน เนื่องจากผลของฐานรายได้จากการขายเงินลงทุนและเงินปันผลที่สูงในระยะเดียวกันปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิเท่ากับ 49.8 พันล้านบาท ลดลงเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน สำหรับอัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin : NIM) ทรงตัวที่ร้อยละ 2.6 และอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Return on Asset : ROA) ลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ร้อยละ 1.1 จากร้อยละ 1.2 ในไตรมาสก่อน
ภาพรวมฐานะทางการเงินของระบบธนาคารพาณิชย์มีเสถียรภาพ โดยมีเงินกองทุนทั้งสิ้น 2,372.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากการจัดสรรกำไร และมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS ratio) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 18.5
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *