การขายอาหารผ่านช่องทางออนไลน์ไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป เพราะทุกคนสามารถสร้างธุรกิจเล็กโดยไม่ต้องลงทุน หรือมีหน้าร้าน และที่สำคัญประสบความสำเร็จภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว เช่นเดียวกับผู้หญิงคนนี้ “นัยนา ก่ำจำปี” ซึ่งเธอใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงที่ว่างจากงานประจำ สร้างอาชีพเสริมที่ทำรายได้แบบไม่ธรรมดา กับ ธุรกิจ “ร้านส้มตำดีลิเวอรี” ชื่อว่า “ตำ ตำ ตำ”
“นัยนา” เล่าว่า ปัจจุบันยังคงทำงานประจำในตำแหน่งเลขาฯ ให้กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง และที่มาของ “ตำ ตำ ตำ” เกิดขึ้นมาจากหลังจากที่ลูกทั้ง 3 คนเติบโตและเข้าโรงเรียนแล้ว พี่เลี้ยง ซึ่งมาช่วยดูแลน้อง หลังจากทำงานบ้านเสร็จก็จะว่างไม่มีอะไรทำ กลัวว่าเขาจะเบื่อ และหนีกลับบ้านไปเสียก่อน ก็เลยคิดหาอะไรให้ทำ และก็มาจบลงที่การทำส้มตำขาย และจะขายยังไงเพื่อไม่ให้กระทบการดูแลบ้านและเลี้ยงเด็กหลังเลิกเรียน และส่วนตัวก็ไม่ต้องการที่จะลงทุนสูง หรือยุ่งยากในการดูแลกิจการ จึงได้เป็นที่มาของ “ส้มตำดีลิเวอรี”
โดยเมนูเด่น 5 รายการ ได้แก่ ส้มตำต้นอ่อนทานตะวัน ประกอบด้วย ตำไทย ตำปูปลาร้า ส่วนเมนูอื่น ได้แก่ ตำป่า ตำข้าวโพดไข่เค็ม และที่เลือกต้นอ่อนทานตะวัน เพราะมองว่าปัจจุบันคนรักสุขภาพมากขึ้น และต้นอ่อนเป็นผักที่ปลูกแบบออร์แกนิกที่สามารถหาซื้อได้ไม่ยาก และเมื่อนำมาผสมกับน้ำทำส้มตำที่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้านก็ลงตัวไปด้วยกันได้ดี เราก็เลยเลือกต้นอ่อนมาใช้แทนเส้นมะละกอ แต่ถ้าลูกค้าต้องการมะละกอก็สามารถทำให้ได้เช่นกัน
“นัยนา” เล่าว่า เมนูส้มตำของเธอจะเป็นตำสูตรอีสานแท้ เพราะตนเป็นคนอีสานโดยแท้ เกิดที่จังหวัดสกลนคร ซึ่งการตำส้มตำกินในครอบครัวจึงเป็นเรื่องปกติที่ทำกันเป็นประจำ ถือว่าเป็นเมนูหลักของคนอีสานทั่วไปอยู่แล้ว ดังนั้น พอทำส้มตำต้นอ่อนทานตะวันก็จะอิงรสชาติแบบอีสานที่คุ้นเคยโดยไม่ได้มีการปรับแต่อย่างใด แต่สิ่งที่เราใส่ใจเป็นพิเศษ และใช้เวลาในการศึกษาวัตถุดิบถึง 6 เดือนก่อนตัดสินใจทำส้มตำขายในครั้งนี้กลับเป็นเรื่องของวัตถุดิบ
สำหรับวัตถุดิบที่เลือกมาแต่ละชนิดเลือกที่ดีที่สุด เช่น ต้นอ่อนทานตะวัน ซึ่งมีทั้งสายพันธุ์ที่มีกลิ่นเหม็นเขียว หรือขมเวลากินสด แต่ก็มีสายพันธุ์ที่ไม่มีกลิ่นและไม่ขม เราก็เลือกตรงนั้นมาทำ โดยดีลกับผู้ปลูกให้ทำต้นอ่อนอย่างที่เราต้องการ หรือปลาร้า ใช้ปลาร้าที่เป็นปลากระดี่ที่ต้มมาแล้ว และต้องสะอาด ส่วนปูไม่ใช้ปูเค็ม ปูดอง แต่เลือกใช้ “ปูนา” ต้มสด ส่วนหนึ่งช่วยชาวบ้านที่ทำปูนาขายด้วย เขาจะได้มีรายได้ มะนาวก็เลือกที่สดโดยดูจากขั้วที่ยังติดอยู่ ขนมจีนใช้ขนมจีนเส้นสด เพื่อจะได้ของที่สดใหม่ทุกวัน เป็นต้น
ส่วนหนึ่งที่ “คุณแดง” ใส่ใจเรื่องคุณภาพวัตถุดิบอย่างมาก เธอมีเหตุผลหลายประการ อันดับแรกรสชาติ เพราะของที่สดใหม่ก็ส่งให้รสชาติ เมื่อผสมกับน้ำส้มตำที่เป็นสูตรเฉพาะดีไปด้วย และที่สำคัญ ราคาของเราค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับส้มตำที่ขายทั่วไป คือกล่องละ 85 บาท ลูกค้าก็ควรที่จะได้สิ่งที่ดีที่สุด และรู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป และสุดท้ายก็กลับมาเป็นลูกค้าของเธออีก
“ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 5 เดือนที่ขายส้มตำ ต้องยอมรับว่าช่องทางแนะนำลูกค้าได้ดีที่สุดคือ การบอกกันแบบปากต่อปาก แม้ว่าวันนี้จะมีใช้โซเชียลมีเดียมาเป็นตัวช่วยในการเข้าถึงลูกค้าได้รวดเร็วและมากขึ้น ด้วยการซื้อโฆษณา หรือวิธีการอื่นใด เพื่อให้ลูกค้าได้รู้จัก แต่ถ้ารสชาติของส้มตำของเราไม่อร่อยจริง สุดท้ายเขาก็ซื้อครั้งเดียว การบอกต่อก็คงจะเป็นไปในทางลบเสียมากกว่า”
“วันนี้เราบอกกับทุกคนได้เลยว่า ความสำเร็จของเรามาจากรสชาติส้มตำของเราจริงๆ ซึ่งมั่นใจในคุณภาพ และรสชาติ จึงอยากให้ทุกคนได้ชิม แม้ว่าจะไม่ซื้อก็ตาม บางคนซื้อแค่ 1-2 กล่อง และให้เราไปส่งให้เราก็ยินดี เพียงแค่ขอให้เขาได้ชิม เชื่อว่าเขาจะกลับมาเป็นลูกค้าประจำ”
ถ้าถามถึงรายได้ “คุณแดง” บอกว่า ในช่วงแรกตั้งใจว่าจะทำโปรโมชัน 3 เดือนให้ลองชิมฟรี แต่ทำแค่ไม่ถึงเดือนคนที่เคยลองชิมก็มาขอให้เราทำขาย ปัจจุบัน มีรายได้จากการขายส้มตำ บางเดือนสามารถขายได้ถึงหลักแสนบาท จำนวนการสั่งซื้อต่อวันอย่างน้อย 30-40 กล่อง จนถึงมากที่สุดหลักร้อยกล่องต่อวัน กลุ่มลูกค้าจะเป็นพนักงานออฟฟิศในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งการส่งส้มตำมีรถเล็กของเราเอง มีพนักงานขับรถไปส่งของให้ตามจุดต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยสั่ง 5 กล่อง คิดค่าส่ง 50 บาท แต่ถ้าต้องขึ้นทางด่วน คิดค่าส่ง 100 บาท
สำหรับหน้าตาของ “ส้มตำดีลิเวอรี” ของคุณแดงนั้น เธอจะแยกส่วนผสมทุกอย่างออกจากกัน แล้วไปให้ลูกค้าคลุกเคล้ากันเอง บางคนไม่เรียกส้มตำ แต่เรียก ยำผัก แต่ถ้าได้ชิมจะรู้ว่ามันคือส้มตำจริงๆ ในกล่องจะมีหลักที่เหมือนกัน คือ เส้นขนมจีน ต้นอ่อน ปลากรอบ มีน้ำส้มตำแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่ว่าสั่งเมนูส้มตำอะไร ตำป่า จะมีเส้นขนมจีน มะเขือเทศ ผักดอง หน่อไม้ เหมือนกับตำป่าที่ขายทั่วไป ตัวน้ำส้มตำคุณแดงเธอจะลงมือทำเอง และตวงวัดเหมือนกันทุกครั้ง เพื่อให้รสชาติส้มตำเหมือนกันทุกครั้งที่ลูกค้าสั่ง รวมถึงวัตถุดิบอื่นก็ใช้การชั่งตวงวัดเหมือนกัน
สนใจ โทร. 08-9023-3988, www.facebook.com/ตำ ตำ ตำ
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *