เร่งเดินหน้าโครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อ “สตาร์ทอัพ-นวัตกรรม” วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท หนุนเข้าถึงแหล่งทุน บสย. ขานรับมติ เร่งหารือสถาบันการเงินทำข้อตกลงร่วมโครงการภายใน 1 เดือน เชื่ออุ้มผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งทุนกว่า 5 พันราย เฉลี่ยรายละ 2 ล้านบาท ก่อเงินสะพัด 40,000 ล้านบาท
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากมติเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2559 เห็นชอบให้กระทรวงการคลัง โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ดำเนินโครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการใหม่และนวัตกรรม (Start-up & Innovation) เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในกลุ่มผู้ประกอบการใหม่ (Start-up) และ SMEs ในกลุ่มที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยี (Innovation & Technology) สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้มากขึ้นผ่านกลไกการค้ำประกันของ บสย. ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่สถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการกลุ่มเป้าหมายแล้ว ยังสร้างแรงจูงใจให้สถาบันการเงินใช้บริการค้ำประกันสินเชื่อกับ บสย. มากขึ้น
สำหรับ โครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการใหม่และนวัตกรรม (Start-up & Innovation) มีวงเงินค้ำประกันสินเชื่อรวม 10,000 ล้านบาท และมีระยะเวลาค้ำประกันสินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 10 ปี โดยกำหนดวงเงินค้ำประกันสินเชื่อสูงสุดต่อราย SMEs ประเภทบุคคลธรรมดาไม่เกิน 1 ล้านบาท และกำหนดวงเงินค้ำประกันสินเชื่อสูงสุดต่อราย SMEs ประเภทนิติบุคคลสำหรับกลุ่ม Start-up และกลุ่ม Innovation & Technology ไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อราย และ 20 ล้านบาทต่อราย ตามลำดับ โดย บสย. คิดค่าธรรมเนียมค้ำประกันในอัตราร้อยละ 1-2 ต่อปี ของวงเงินค้ำประกันสินเชื่อ และรัฐบาลรับภาระจ่ายค่าธรรมเนียมแทนผู้ประกอบการในปีแรก
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถยื่นขอค้ำประกันสินเชื่อได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561 หรือจนกว่าจะเต็มวงเงิน แล้วแต่อย่างหนึ่งอย่างใดจะถึงก่อน
“โครงการดังกล่าวจะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่าน การลงทุน และการบริโภคของผู้ประกอบการ นอกจากนี้ คาดว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ประกอบการกลุ่มเป้าหมายเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ประมาณ 10,000 ล้านบาท (1 เท่าของวงเงินค้ำประกัน) ซึ่งจะมีส่วนช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่ SMEs ในกลุ่ม Start-up และ Innovation & Technology ในประเทศไทย เพื่อให้เป็นหน่วยธุรกิจที่แข็งแกร่งและเป็นรากฐานอันมั่นคงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต่อไป” นายกฤษฎาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า
ด้านนายนิธิศ มนุญพร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า บสย. พร้อมรับมติอนุมัติโครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการใหม่ และนวัตกรรม (Startup & Innovation) เพื่อช่วยผู้ประกอบการใหม่ โดยขั้นตอนจากนี้ บสย. จะเร่งดำเนินการเพื่อสานต่อนโยบายของภาครัฐ โดยนำเสนอเรื่องดังกล่าวต่อคณะกรรมการ บสย. รวมถึงเร่งหารือกับสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อร่วมกันปล่อยสินเชื่อ และค้ำประกันสินเชื่อให้กับกลุ่มผู้ประกอบการใหม่ และกลุ่มนวัตกรรม ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือนนับจากนี้
สำหรับวงเงินค้ำประกันต่อราย กรณีผู้ประกอบการใหม่ที่เป็นบุคคลธรรมดา จะได้รับการค้ำประกันไม่เกินรายละ 1 ล้านบาท ส่วนผู้ประกอบการใหม่ที่เป็นนิติบุคคลจะได้รับการค้ำประกันไม่เกินรายละ 5 ล้านบาท ขณะที่ผู้ประกอบการกลุ่มนวัตกรรม เทคโนโลยี ซึ่งผ่านการรับรองจากธนาคาร จะได้รับการค้ำประกันวงเงินสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท แต่หากผ่านการพิจารณาคุณสมบัติจากหน่วยงานรัฐ อาทิ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ฯลฯ จะได้รับการค้ำประกันวงเงินสูงสุดไม่เกิน 20 ล้านบาท โดยระยะเวลาค้ำประกันไม่เกิน 10 ปี ค่าธรรมเนียม 1-2% ต่อปี โดยรัฐบาลเป็นผู้รับภาระจ่ายแทน SMEs ในปีแรก
นายนิธิศ กล่าวว่า โครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการใหม่ และนวัตกรรม ที่เพิ่งได้รับการอนุมัติจาก ครม. ในครั้งนี้ บสย. คาดว่าจะช่วยให้กลุ่มผู้ประกอบการใหม่ และกลุ่มนวัตกรรม สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้มากขึ้นประมาณ 5,000 ราย เฉลี่ยรายละ 2 ล้านบาท ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินจำนวน 10,000 ล้านบาท และก่อให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจประมาณ 40,000 ล้านบาท
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *