xs
xsm
sm
md
lg

Tops ลุยเฟ้นสุดยอดของดีทั่วไทย อุ้มพาขายในห้างฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

น.ส.เมทินี พิศุทธิ์สินธพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายจัดซื้อกลุ่มสินค้าอาหารสด และ บริหารจัดซื้อบริษัทเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล ผู้บริหารเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์  และ  Tops
“Tops” ชูนโยบายสนับสนุนพาสุดยอดสินค้าดีเด่นประจำชุมชนเข้ามาขายผ่านช่องทางต่างๆ ในเครือ ระบุปัจจุบัน คัดแล้วจาก 28 จังหวัด ตั้งเป้าครึ่งปีหลังพาเข้าเพิ่มอีก 6 จังหวัด แจงช่วยเติมศักยภาพ พร้อมปรับเงื่อนไขจ่ายเงินด่วนใน 7 วัน ช่วยผู้ผลิตเสริมสภาพคล่อง คาดในปี 2559 สร้างรายได้ให้เอสเอ็มอีและโอทอป 995 ล้านบาท

น.ส.เมทินี พิศุทธิ์สินธพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายจัดซื้อกลุ่มสินค้าอาหารสด และบริหารจัดซื้อบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล ผู้บริหารเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ Tops เปิดเผยว่า นโยบายของ Tops ต้องการจะส่งเสริมสินค้าจากผู้ประกอบการระดับชุมชนท้องถิ่น ซึ่งตรงกับนโยบายรัฐที่ต้องการให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างเศรษฐกิจรากฐาน ตามนโยบาย “ประชารัฐ” ดังนั้น บริษัทได้ส่งทีมงานเข้าไปเฟ้นหาสินค้าที่ดีที่สุดในแต่ละชุมชน หรือจังหวัด ทั้งสินค้าของสด หรือแปรรูป แล้วรับซื้อตรงจากผู้ผลิตเพื่อนำสินค้ามาขายในช่องทางของ Top ที่ปัจจุบันมีกว่า 200 สาขาทั่วประเทศ

โดยปัจจุบัน Tops เข้าไปรับซื้อสินค้าเด่นของชุมชนแล้วใน 28 จังหวัด ส่วนแผนในครึ่งปีหลังนั้นบริษัทฯ ตั้งเป้าจะจัดซื้อสินค้าชุมชนตรงจากเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนเพิ่มอีกใน 6 จังหวัด เช่น อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จ.มุกดาหาร จ.ตรัง เป็นต้น

น.ส.เมทินีกล่าวเสริมว่า สินค้าที่ทาง Tops จะเข้าคัดเลือกมาขายนั้นจะพิจารณาจากทั้งเป็นสินค้าเด่นที่สุดในแต่ชุมชนนั้นๆ และเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคมีความต้องการ รวมถึงทางกลุ่มผู้ผลิตต้องมีความพร้อมในการพัฒนาสินค้าร่วมกับ Tops เพื่อผลิตสินค้าได้ทั้งคุณภาพและปริมาณเพียงพอ

ทั้งนี้ ในการลงไปสนับสนับสินค้าชุมชนดังกล่าว ทาง Tops จะช่วยเหลือทั้งด้านการพัฒนาสินค้าร่วมกัน ตลอดจน ปรับวิธีชำระเงินให้กับผู้จัดส่งสินค้า (ซัปพลายเออร์) กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนต่างๆ เร็วขึ้น โดยจ่ายเงินในระยะเวลา 7-15 วัน จากปกติหากเป็นผู้ประกอบการขนาดใหญ่ๆ ใช้ระยะเวลาชำระเงินอย่างน้อย 30 วันขึ้นไป ซึ่งการจ่ายเงินเร็วขึ้นจะช่วยให้ผู้ผลิตระดับชุมชนมีเงินหมุนเวียนดีขึ้นสามารถจะประกอบอาชีพได้คล่องตัว

นอกจากนั้น ยังสนับสนุนการตลาดต่างๆ เช่น พาไปออกงานแสดงสินค้าของ Tops ทั่วประเทศ กำหนดไว้ 35 งานต่อปี อีกทั้งการเข้าไปสนับสนุนต่างๆ นั้น ไม่มีการเซ็นสัญญาผูกมัดใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถมีอิสระที่จะขายสินค้าให้แก่เอกชนรายใดก็ได้ที่ให้ราคาดีที่สุด สิ่งเหล่านี้เป็นนโยบายของบริษัท ที่จะส่งเสริมเศรษฐกิจระดับรากฐานภายใต้โครงการประชารัฐของรัฐบาลอย่างจริงจัง

รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฯ กล่าวต่อว่า เมื่อปลายปีที่แล้ว (2558) บริษัทได้จัดตั้งทีมงานจัดซื้อสินค้าท้องถิ่นขึ้น พร้อมตั้งสำนักงานดูแลประจำภูมิภาค ทั้งภาคเหนือ กลาง ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ในจังหวัดเชียงใหม่ อุบลราชธานี อุดรธานี นครศรีธรรมราช ชลบุรี และกรุงเทพมหานคร เพื่อประสานงานร่วมกับซัปพลายเออร์ท้องถิ่นกลุ่มสินค้าวิสาหกิจชุมชน โอทอป และเอสเอ็มอีที่ครอบคลุมทั้ง 4 ภาคดังกล่าว โดยใช้จุดแข็งของ Tops ด้านระบบการกระจายสินค้า (ลอจิสติกส์) วางแผนรถขนส่งสินค้าระหว่างสาขาท้องถิ่น

นอกจากนี้ จากการการร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง พร้อมร่วมจับคู่ธุรกิจกับเอสเอ็มอี เพื่อให้บริษัทคัดเลือกโอทอปและเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพ สามารถผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายในสาขา Tops ที่ส่งผลให้สินค้ากลุ่มดังกล่าวมีอัตราการเติบโตสูงถึง 70-80% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน โดยในปี 2558 มีเครือข่ายกว่า 102 ชุมชน 113 โอทอป 70 เอสเอ็มอี และในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เพิ่มเป็น 104 ชุมชน 167 โอทอป และ 97 เอสเอ็มอี โดยในปีที่ผ่านมา Tops นำรายได้กลับสู่ชุมชนโอทอป และเอสเอ็มอีรวมกว่า 795 ล้านบาท และในปี 2559 ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 995 ล้านบาท

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น