xs
xsm
sm
md
lg

“สมคิด” คิกออฟโครงการ “สินเชื่อ 1 ตำบล 1 SME เกษตร”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“สมคิด” เปิดโครงการ “สินเชื่อ 1 ตำบล 1 SME เกษตร” อย่างเป็นทางการ ระบุเทเงินกู้ 72,000 ล้านบาท ชี้ภัยแล้งกระทบภาคเกษตร แนะเพิ่มมูลค่าตั้งแต่แปรรูป และปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ ด้านผู้จัดการ ธ.ก.ส. เริ่มดำเนินการแล้วตั้งแต่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา เข้าร่วมแล้วจำนวน 4,814 ราย วงเงินสินเชื่อ 5,156 ล้านบาท ระบุเงื่อนไขวงเงินกู้รายละไม่เกิน 20 ล้านบาท ปีที่ 1-7 คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 4%
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในการเป็นประธานเปิดตัวโครงการสินเชื่อ 1 ตำบล 1 SME เกษตร
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในการเป็นประธานเปิดตัวโครงการสินเชื่อ 1 ตำบล 1 SME เกษตร เพื่อสร้างความยั่งยืนของภาคเกษตรไทย ภายใต้แนวคิด “ปฏิรูปภาคเกษตรไทย : 1 ตำบล 1 SME เกษตร” ว่ารัฐบาลสนับสนุนให้สถาบันการเงินของรัฐดำเนินโครงการสนับสนุนสินเชื่อ เพื่อสร้างความยั่งยืนภาคเกษตรไทยเน้นการผลิตทางการเกษตรรูปแบบใหม่และกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร โดยอนุมัติวงเงิน 72,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนโครงการสินเชื่อ 1 ตำบล 1 SME เกษตร ช่วยปรับโครงสร้างภาคเกษตรกรไทยและทำให้ชีวิตเกษตรกรดีขึ้นอย่างยั่งยืน

รองนายกฯ เผยต่อว่า เกษตรกรไทยต้องเผชิญกับวิกฤติภัยแล้งที่ทวีความรุนแรง ประกอบกับ ราคาน้ำมันถูกลง ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำกระทบเกษตรกรไทย 24 ล้านคน สิ่งที่ทุกคนต้องทำ คือ เพิ่มผลผลิตและมูลค่าทางการเกษตรมากขึ้น เช่น การแปรรูป ออกแบบบรรจุภัณฑ์ สร้างสมาร์ทฟาร์มเมอร์ หรือเกษตรกรต้นแบบ ให้เป็นผู้ริเริ่มสร้างและเปลี่ยนแปลงภาคการเกษตรให้ทันสมัย พร้อมเชื่อมโยงชุมชนนำไปสู่ภาคการเกษตรที่เติบโตอย่างยั่งยืน

ด้านนายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส.กล่าวว่า ธ.ก.ส.ได้ดำเนินโครงการสินเชื่อ 1 ตำบล 1 SME เกษตร มาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 จนถึงปัจจุบันได้ให้สินเชื่อแก่กลุ่มเป้าหมายผู้ประกอบการ SMEs เกษตร ประกอบไปด้วย เกษตรกร บุคคล ผู้ประกอบการ กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ภาคการเกษตร วิสาหกิจชุมชน และกองทุนหมู่บ้าน ไปแล้วทั่วประเทศ จำนวน 4,814 ราย วงเงินสินเชื่อ 5,156 ล้านบาท ซึ่ง ธ.ก.ส.มีเป้าหมายในการดำเนินโครงการนี้คือการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ SMEs เกษตร จำนวน 7,305 ราย วงเงิน 72,000 ล้านบาท หรือทุกตำบลต้องมีผู้ประกอบการ SMEs เกษตร อย่างน้อย 1 ราย เพื่อให้เป็นตัวอย่างหรือเป็นหัวขบวนในการขับเคลื่อนการปรับโครงสร้างภาคการเกษตรของไทย โดยผู้ที่เข้าร่วมโครงการต้องมีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการประกอบอาชีพของเกษตรกรหรือชุมชน และการพัฒนาผลผลิตหรือผลิตภัณฑ์ของเกษตรกรหรือชุมชนในกระบวนการผลิต การรวบรวม การแปรรูป การตลาด และการบริการ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจที่อยู่ระหว่างการพัฒนาตนเองเพื่อเป็นผู้ประกอบการ SMEs เกษตร

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว ธ.ก.ส.กำหนดวงเงินกู้รายละไม่เกิน 20 ล้านบาท ตั้งแต่ปีที่ 1-7 คิดอัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปี และตั้งแต่ปีที่ 8 เป็นต้นไป คิดอัตราดอกเบี้ยตามประเภทของลูกค้าผู้กู้ แต่ละรายในอัตรา MRR หรือ MLR แล้วแต่กรณี และกำหนดให้จัดทำหนังสือกู้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2560 สำหรับหลักประกันในการกู้ยืมให้ใช้หลักประกันหนี้เงินกู้เป็นไปตามข้อบังคับและวิธีปฏิบัติของธนาคาร กรณีที่ใช้หลักประกันไม่เพียงพอให้สามารถใช้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันสินเชื่อตามโครงการได้

“ธ.ก.ส.มีนโยบายส่งเสริมผู้ประกอบการภาคเกษตรให้มีความเข้มแข็งและเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก สนับสนุนให้เกษตรกรปรับตัวเป็นผู้ประกอบการภาคเกษตร การนำนวัตกรรมและการใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อก่อให้เกิดการจ้างแรงงานในภาคชนบทเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการเกษตรไทยเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคง มีความยั่งยืนและมีภูมิคุ้มกันที่สูงขึ้น ทำให้เศรษฐกิจฐานรากของประเทศมีความเข้มแข็งและเติบโตอย่างมีคุณภาพ ก่อให้เกิดการจ้างแรงงาน เป็นการกระจายรายได้และลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม” นายลักษณ์กล่าว

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น