xs
xsm
sm
md
lg

ก.อุตฯ เผยปี 58 SMEs 158 แห่งร่วมโครงการส่งเสริมเกษตรแปรรูป เกิดมูลค่า 492 ลบ.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และ นายอาทิตย์ วุฒิคะโร  ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
กระทรวงอุตสาหกรรมเผยความคืบหน้า “โครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตรในภูมิภาค” ตามนโยบาย One Province One Agro – Industrial Product หรือโครงการ OPOAI ประจำปี 2558 มีสถานประกอบการเข้าร่วม 158 แห่ง ก่อให้เกิดผลประโยชน์รวมที่ประเมินได้ถึง 492 ล้านบาท ช่วยรัฐประหยัดงบกว่า 37 ล้านบาท

นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินโครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตรในภูมิภาคตามนโยบาย One Province One Agro-Industrial Product หรือ OPOAI (โอปอย) มาตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน ได้พัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับสถานประกอบการเพื่อลดต้นทุน การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ /ระบบมาตรฐานสากล รวมถึงสามารถขับเคลื่อนการตลาดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ และยังเกิดการบูรณาการร่วมกันในลักษณะไตรภาคีของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา ในการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตรในภูมิภาค แข่งขันได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

โดยในปี 2558 โครงการ OPOAI มีสถานประกอบการเข้าร่วมโครงการฯ ทั้งหมด 158 แห่ง ใน 240 แผนงาน โดยสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ มากที่สุดมาจากกลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตรอื่นๆ (อาหารสัตว์ ก๊าซชีวภาพ นมพาสเจอไรซ์ เกลือ) คิดเป็น 34.81% อันดับสองได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปข้าว 27.22% และอันดับสาม ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปพืชไร่ 10.13%.ในขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเข้าร่วมโครงการฯ น้อยที่สุดคือ กลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปสมุนไพรและสปา (0.63%)
ถ่ายภาพร่วมกับผู้ได้รับรางวัลในโครงการ OPOAI
นายอาทิตย์ วุฒิคะโร ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า สำหรับแนวทางการดำเนินโครงการ OPOAI นั้น กระทรวงฯ ได้จัดทีมที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเข้าไปให้ความช่วยเหลือ ปรึกษาแนะนำสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ ผ่านแผนงานพัฒนาที่ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ใน 6 ด้าน และในปี 2558 จากการประเมินผลประโยชน์ที่เป็นตัวเงิน 158 รายมีมูลค่าประมาณ 135,736,196.66 บาท ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของรัฐในการส่งเสริม และพัฒนาสถานประกอบการรายอื่นๆ ที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการฯ

ส่วนมูลค่าผลประโยชน์ที่ไม่เป็นตัวเงิน (non-market value) ได้แก่ ทัศนคติของผู้ประกอบการ SMEs อุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตรที่มีต่อหน่วยงานภาครัฐเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี มีการให้ความร่วมมือมากขึ้น ซึ่งแผนงานต่างๆ ภายใต้โครงการฯ สามารถแก้ปัญหาของสถานประกอบการได้อย่างตรงประเด็น และเกิดเครือข่ายกลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร (cluster) ในพื้นที่

สำหรับมูลค่าผลประโยชน์รวมโครงการฯ ที่ประเมินได้สูงถึง 492,094,972.52 บาท นั้น เกิดจากการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต คิดเป็นมูลค่า 266,562,353.20 บาท (54.17%) การพัฒนากลยุทธ์การขับเคลื่อนการตลาด คิดเป็นมูลค่า 128,466,259.20 บาท (26.11%) การบริหารจัดการลอจิสติกส์ คิดเป็นมูลค่า 41,853,428.80 บาท (8.51%) การปรับปรุงคุณภาพและพัฒนางานให้ผลประโยชน์คิดเป็นมูลค่า 30,856,168.80 บาท (6.27%) และการลดต้นทุนพลังงาน คิดเป็นมูลค่า 24,356,762.52 บาท (4.95%) การยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์หรือระบบมาตรฐานสากล ไม่สามารถประเมินได้ เนื่องจากตัวชี้วัดเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการยื่นขอระบบมาตรฐานต่างๆ

ทั้งนี้ ภูมิภาคที่มีสถานประกอบการเข้าร่วมโครงการฯ มากที่สุดคือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก คิดเป็น 35.00% อันดับที่ 2 คือ ภาคเหนือ 26.25% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20.83% และภาคใต้ 17.92 % ตามลำดับ ทั้งนี้ แผนงานทั้งหมด 240 แผนงานที่สถานประกอบการเข้าร่วมมีการกระจายแผนงานดังนี้ แผนงานที่ 2 ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เป็นแผนงานที่ผู้ประกอบการสนใจเข้าร่วมดำเนินการมากที่สุด 33.33% แผนงานที่ 4 ด้านการลดต้นทุนพลังงาน เท่ากับ 20% แผนงานที่ 6 ด้านกลยุทธ์ขับเคลื่อนการตลาด เท่ากับ 16.67% แผนงานที่ 3 ด้านการปรับปรุงคุณภาพและปริมาณงาน เท่ากับ 13.33% แผนงานที่ 5 ด้านการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์/ระบบมาตรฐานสากล และแผนงานที่ 1 ด้านการบริหารจัดการลอจิสติกส์ เท่ากับ 8.33% ตามลำดับ

ในส่วนผลการคัดเลือกสถานประกอบการดีเด่น (Good Practice) ซึ่งได้ขึ้นรับมอบโล่รางวัลในครั้งนี้มีจำนวน 10 สถานประกอบการ ได้แก่ บริษัท มิตรนำชัย ไรซ์ จำกัด, บริษัท บลูสไปซ์ จำกัด, บริษัท เมธีภูเก็ต จำกัด, บริษัท เนเชอรัล ซัพพลาย 2000 จำกัด, บริษัท โชคชัยไพบูลย์ จำกัด, โรงงานอุดมขนมปัง, บริษัท เอเชีย พลัส ฟีด มิลล์ จำกัด, สหกรณ์โคนมไทย-เดนมาร์คพัฒนานิคม จำกัด, ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธัญชนกพืชผล และโรงงานลูกชิ้นพิษณุโลก ราม่า

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น