“กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม” เตรียมดันอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ไทยสู่ตลาดโลก หลังพบผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพ ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทชั้นนำว่าจ้างผลิต พร้อมเร่งนโยบายอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (S-Curve) กำหนดยุทธศาสตร์พัฒนาผู้ประกอบการ หวังวางรากฐานการผลิตอุตสาหกรรมแห่งอนาคต
ดร.สมชาย หาญหิรัญ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ทางกรมฯ ได้ตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (New S-Curve) เพื่อการพัฒนาภาคการผลิตด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเน้นพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคตใน 4 กลุ่ม ได้แก่ อุตสาหกรรมไบโอพลาสติก อุตสาหกรรมดิจิตอล อุตสาหกรรมเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอากาศยาน
ทั้งนี้ ในส่วนของอุตสาหกรรมอากาศยาน เป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่ทางกรมฯ ให้ความสำคัญ เนื่องจากมีอัตราการขยายตัวของธุรกิจการบินทั่วโลก โดยคาดว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า จำนวนเครื่องบินโดยสารทั่วโลกที่จากเดิมมีอยู่ประมาณ 20,000 ลำ จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าหรือกว่า 4 หมื่นลำ (ที่มา : กระทรวงคมนาคม) ซึ่งประเทศไทยมีมูลค่าการส่งออกในอุตสาหกรรมนี้ประมาณ 2.7 พันล้านบาท (ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย) โดยผู้ประกอบการที่จะเข้าสู่อุตสาหกรรมนี้ได้จะต้องได้รับมาตรฐานการผลิตขั้นสูงที่การบินสากลกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด รวมถึงการได้รับการสนับสนุนและพัฒนาผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้อย่างจริงจัง เพื่อช่วยต่อยอดให้ไทยกลายเป็นฐานการผลิตใหญ่ในอาเซียน ให้กับอุตสาหกรรมการบินในอนาคตต่อไปได้
“อุตสาหกรรมการบินถือเป็นสิ่งที่ กสอ.ให้ความสำคัญ เนื่องจากเป็นการใชัทักษะฝีมือที่ต่อยอดมาจากการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งไทยมีความชำนาญในด้านนี้ แต่ความยากของผู้ประกอบการที่จะเข้าสู่ธุรกิจนี้ได้ ต้องมีมาตรฐานสากลเป็นที่ยอมรับใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง และใช้เวลาในการพิสูจน์ฝีมือและศักยภาพของตนเองค่อนข้างสูง ขณะเดียวกันเมื่อการผลิตได้มาตรฐานสากลแล้ว ก็ต้องขึ้นอยู่กับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผลิตเครื่องบินว่าจะเชื่อมั่นให้ทำสัญญาว่าจ้างผลิตหรือไม่ ดังนั้นในส่วนนี้ทางรัฐบาลต้องเข้าไปช่วยเหลือในเรื่องการสร้างมาตรฐาน และซัพพลายเชนให้รอบด้าน ซึ่งขณะนี้ในไทยมีเพียงบริษัทเดียวที่ผลิตชิ้นส่วนอากาศยานสู่ต่างประเทศ” อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกล่าว
ด้านนายบุญเจริญ มโนบูรชัยเลิศ ประธานกรรมการบริษัท ซี.ซี.เอส. แอดวานซ์ เทค จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอากาศยานป้อนอุตสาหกรรมการบินระดับโลก เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สารกึ่งตัวนำ เข็ม แบริ่งขนาดเล็ก ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ไฟเบอร์ออปติก ชีวภาพทางการแพทย์ เป็นต้น โดยเป็นบริษัทสัญชาติไทยแท้เพียงรายเดียวในประเทศไทย ซึ่งการจะผลิตชิ้นส่วนให้แก่อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องบินระดับโลกเหล่านี้ได้นั้น จำเป็นต้องผ่านการตรวจสอบมาตรฐานที่ผู้ผลิตเครื่องบิน และสายการบินกำหนด เช่น มาตรฐาน AS9100 ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยาก และมีความเข้มงวดในการผลิตสูงมาก จึงเป็นสิ่งที่ค่อนข้างยากสำหรับผู้ประกอบการไทย
ปัจจุบันบริษัทฯ มีมูลค่าการส่งออกในส่วนของชิ้นส่วนอากาศยานต่อปีประมาณ 350 ล้านบาท หรือมียอดการสั่งผลิตประมาณ 20,000 ชิ้น/เดือน ซึ่งสูงที่สุดสำหรับบริษัทสัญชาติไทยที่มีเจ้าของเป็นคนไทย โดยมีแผนขยายเครือข่ายในระดับโลกต่อไปในอนาคต พร้อมทั้งจะมีการนำเอาระบบสากลในอุตสาหกรรมอากาศยานที่เรียกว่า “United Technology Aerospace System” มาใช้ในการดำเนินธุรกิจ จึงถือเป็นธุรกิจที่ก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคตอย่างเต็มตัว โดยพยายามสร้างความได้เปรียบจากคู่แข่งด้วยการนำเอานวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างโอกาสที่ดีทางธุรกิจ
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *
