เมื่อโรตีสายไหม ถูกนำมาแต่งตัวใหม่ ติดแบรนด์ใส่แพกเกจ จับขึ้นห้างก็สามารถเพิ่มมูลค่าได้ไม่น้อย แต่การจะทำให้ธุรกิจอยู่ได้นั้นคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ ซึ่งผู้ประกอบการรายนี้เลือกใช้วัตถุดิบเกรดพรีเมียม ทำให้รสชาติละมุนลิ้น ฉีกรูปแบบเดิมให้แฟนพันธุ์แท้โรตีสายไหมได้ลิ้มลอง กับ Candy Crepe Bangmad (แคนดี้ เครป บังหมัด) ที่อนาคตเตรียมโกอินเตอร์
ผู้หญิงกับของหวานถือเป็นของคู่กัน เช่นเดียวกัน “เจนนิศา คูวินิชกุล” หรือ คุณแจน ซีอีโอ บริษัท เมตตาเอสเซ็นเชียล จำกัด ที่ชื่นชอบการรับประทานโรตีสายไหมเป็นอย่างมาก ทำให้เขาผันตัวเองมาเป็นเจ้าของธุรกิจโรตีสายไหม แคนดี้ เครป บังหมัด โดยขอซื้อสูตรจากโรตีเจ้าดังใน จ.พระนครศรีอยุธยา มาสร้างแบรนด์ แต่ยังไม่ลืมพ่วงท้ายชื่อเจ้าของสูตร “บังหมัด” เอาไว้ด้วย เพื่อสื่อถึงรสชาติจากต้นตำรับที่แท้จริง
“ขนมของไทยที่เราเห็นมาตั้งแต่เด็กๆ อย่าง โรตีสายไหม ถือว่าเป็นขนมที่อร่อย แถมยังเพลิดเพลินไปกับการม้วนแผ่นแป้งทีละชิ้นก่อนรับประทาน กลายเป็นจุดขายที่สร้างความต่างให้แก่ขนมชนิดนี้ เราจึงคิดอยากจะพัฒนาและยกระดับโรตีสายไหม เทียบชั้นขนมฝรั่ง อย่าง มาการอง ที่รสชาติและสีสันแข่งขันกันได้แบบสูสีกันเลยทีเดียว ขอเพียงพัฒนาเรื่องความสะอาด คุณภาพ ยืดอายุให้ยาวนานขึ้น ก็สามารถนำมาทำตลาดแข่งกับขนมชนิดอื่นๆ ได้”
จากแนวคิดนี้ธุรกิจ “แคนดี้ เครป บังหมัด” จึงเกิดขึ้น ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าสินค้าไทย และยกระดับให้ก้าวไกลไปต่างประเทศ ซึ่งโรตีสายไหมมีองค์ประกอบที่ลงตัวทั้งสีสัน รสชาติละมุนลิ้น สื่อถึงความสุข รวมถึงยังมีลูกเล่นก่อนรับประทานอีกด้วย
แต่ด้วยความเป็นมือใหม่ไม่มีความรู้ทั้งสูตรและวิธีทำโรตีสายไหมมาก่อน ทางลัดที่ง่ายที่สุดคือการขอซื้อสูตรจากเจ้าที่ตนเองคิดว่าอร่อยที่สุด นั่นก็คือแบรนด์ “บังหมัด” เจ้าดังในอยุธยา หลังจากที่เธอเพียรไปชิมอยู่หลายครั้ง จนมั่นใจในรสชาติ ตัดสินใจขอซื้อสูตรเป็นแรมปี กว่าจะสร้างความเชื่อมั่นแก่ครอบครัวนี้ได้ว่าจะไม่มาเป็นคู่แข่งกัน
เมื่อได้สูตรมาก็พัฒนาปรับปรุงกระบวนการผลิตภายใต้มาตรฐานสากล เลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพเพื่อรองรับตลาดทั้งไทยและต่างประเทศ โดยเบื้องต้นเริ่มจำหน่ายในกรุงเทพฯ โดยมีคีออสก์อยู่ที่เซ็นทรัล เอมบาสซี่ ชั้น 3 และร้านเอ แลนด์ ของ เอ ศุภชัย ที่สยามสแควร์ ที่นอกจากจะเป็นหน้าร้านแล้ว ยังเป็นจุดกระจายสินค้าให้ลูกค้ามารับและจัดส่งได้สะดวกขึ้น โดยสำนักงานใหญ่อยู่ที่ย่านกิ่งแก้ว จ.สมุทรปราการ ทำให้ต้นทุนค่าขนส่งเข้ามาในเมืองค่อนข้างสูง รวมถึงไม่ตอบโจทย์ลูกค้าได้เท่าที่ควร
“สูตรโรตีที่เราได้มานั้นก็นำมาปรับปรุงเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับเทรนด์ในยุคนี้ที่คนห่วงใยสุขภาพมากขึ้น เราจึงลดความหวาน เน้นรสละมุนลิ้น เส้นสายไหมเนียนนุ่ม ละลายในปาก ขณะที่แผ่นแป้งได้เพิ่มวัตถุดิบเพื่อสุขภาพ อย่าง แผ่นแป้ง Charcoal (ผงถ่าน) ช่วยดูดซับสารพิษ, ชาเขียว เป็นต้น นอกจากนี้เรายังใส่ไอเดียให้โรตีสายไหมรูปแบบเดิมๆ ให้มีชีวิตชีวาขึ้น โดยทำออกมาเป็นซูชิหลากสีสัน โดยใช้แป้งและสายไหมทั้ง 7 สี มาจัดแต่งให้น่ารับประทานขึ้น”
โดยราคาเริ่มต้นที่ชุดละ 150 บาท (แบบถุง) และราคา 250 บาท (แบบกล่อง) สามารถซื้อผ่านทางเฟซบุ๊ก หรือหน้าร้านทั้ง 2 สาขา พร้อมบริการจัดส่งให้ทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีบริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็น งานแต่งงาน งานสัมมนา งานวันเกิด ที่ผู้คนนิยมนำแคนดี้ เครป ไปสร้างสีสัน รวมถึงมีการจัดกล่องอาหารว่าง (Snack Box) ให้ตามองค์กรต่างๆ ด้วย
เมื่อธุรกิจเริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากคนกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ในกลุ่มของชาวต่างชาติก็ชื่นชอบไม่แพ้กัน จากสีสันและความแปลกใหม่ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน ทำให้ผู้บริหารแคนดี้ เครป วางแผนบุกตลาดส่งออก แต่ต้องมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีอายุยาวนานขึ้น โดยปราศจากสารกันเสีย จากปัจจุบันแผ่นแป้งเก็บได้เพียง 3 วันเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ได้ร่วมกับ สวทช.พัฒนาเครื่องดึงเส้นสายไหม เครื่องทำแป้ง พร้อมหานวัตกรรมการเก็บถนอมแผ่นแป้งให้อยู่ได้นานถึง 3 สัปดาห์ คาดว่าภายในต้นปี 2559 จะได้เห็นการพัฒนาดังกล่าว
ส่วนแผนพัฒนาตลาดในไทย เธอวาดฝันไว้ว่าจะมีหน้าร้านเป็นคาเฟ่ โรตีสายไหม ที่ให้ผู้คนเข้ามาดื่มด่ำกับขนมหวาน เครื่องดื่ม ที่มีสายไหมเป็นองค์ประกอบหลัก ซึ่งจะเป็นคาเฟ่โรตีสายไหมแห่งแรกในไทย พร้อมมุ่งหวังให้ขนมไทยชนิดนี้เป็นที่รู้จักในสายตาชาวต่างชาติมากขึ้นไม่ต่างจากขนมฝรั่งที่ทั่วโลกรู้จักกันเป็นอย่างดี
***สนใจติดต่อ 08-8289-1397 หรือที่ http://candycrepe.com/ และ Facebook: Candy Crepe by Bangmad***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *