“ผมแค่อยากจะทำให้คนมาเที่ยวประทับใจ” นี่เป็นความคิดตั้งแต่แรกของ “ชำนาญ ศรีสวัสดิ์” หรือ “โกจง” เมื่อเข้ามาทำธุรกิจท่องเที่ยว จ.กระบี่ และยึดมั่นเสมอมาถึงปัจจุบัน กลายเป็นกุญแจไขสู่เบอร์หนึ่งในวงการท่องเที่ยวประจำท้องถิ่น และยังขยายครบวงจรที่สุดในภาคใต้ ซึ่งคนรักทะเลอันดามันรู้จักกันดีว่า “เกาะพีพีทัวร์”
เส้นทางอาชีพของเขา เป็นอีกตัวอย่างของคนสู้ชีวิตจากเด็กยากจน ดิ้นรนทำมาหากินสารพัด ทั้งกรรมกรเหมืองแร่ เด็กเสิร์ฟ เด็กล้างรถ รูมบอย บาร์เทนเดอร์ ผู้จัดการโรงแรมระดับ 2 ดาว ฯลฯ ก่อนจะเข้าสู่วงการธุรกิจท่องเที่ยวด้วยการเป็นตัวแทนขายตั๋วเดินทางเที่ยวเกาะพีพี เมื่อกว่า 25 ปีที่แล้ว
“ตอนเด็กๆ ผมยากจนมาก ทำหลายอาชีพ จนเริ่มมาขายตั๋วทัวร์บริเวณท่าเรือให้นักท่องเที่ยวที่จะไปเกาะพีพี ที่ทำอาชีพนี้เพราะไม่ต้องลงทุน แค่อาศัยการประสานงานกับเครือข่าย และจากอาชีพนี้ทำให้ผมมีโอกาสพบปะพูดคุยกับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก จนรู้ถึงความต้องการ รวมถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เราก็พยายามแก้ไขช่วยเหลือ ซึ่งตอนนั้นผมแค่อยากจะทำให้คนมาเที่ยวประทับใจ จนมาถึงวันนี้มันกลายเป็นวิธีคิดที่ถูกต้องของการทำธุรกิจท่องเที่ยว” ชำนาญ หรือที่คนท้องถิ่นเรียกเขาติดปากว่า “โกจง” กล่าวนำ
จากเป็นตัวแทนขายตั๋ว โกจงค่อยๆ ต่อยอดไปสู่ธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ตั้งแต่ทำเกสต์เฮาส์เล็กๆ บนเกาะพีพี ตามด้วยจัดทัวร์ ให้เช่ารถยนต์ รถตู้ รถบัส บริการเรือเร็ว (Speed Boat) และเปิดโรงแรม ตามลำดับ ภายใต้ หจก.ศรีสวัสดิ์ ทราเวล แอนด์ทัวร์ ทั้งหมดดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิดหลักเดียวกัน คือต้องทำให้ลูกค้าประทับใจมากที่สุด
“ธุรกิจต่างๆ ของผมมักเกิดจากผมไม่พอใจมาตรฐานที่มีอยู่ เมื่อก่อนเกาะพีพีมีทั้งไกด์ผี ห้องพักไม่สะอาด รถเถื่อน เรือสกปรก คนขับไม่สุภาพ ฯลฯ อย่างรถตู้เช่า ในอดีตทั้งสกปรกและไม่ตรงเวลา จ้างมาแล้วดูแลลูกทัวร์ผมไม่ดี ผมเลยทำเองเลย ซึ่งผมจะบอกกับคนขับ และลูกน้องทุกคนว่า แขกที่มาเที่ยวทุกคนคือคนรวย เขาเก็บเงินเป็นปีมาใช้เที่ยว 3 วัน เราต้องทำให้ดีที่สุด เงินที่เขาอุตส่าห์เก็บมาเพื่อจะมาเที่ยวหาความสุข และลูกค้าทุกคนมีภาระต้องกลับไปดูแลครอบครัวและงานของเขา ดังนั้น ในระยะที่เขามาอยู่กับเรา คุณต้องดูแลความปลอดภัยให้เขาดีที่สุด” ชำนาญยกตัวอย่างแนวคิด
หลักในการสร้างความประทับใจในธุรกิจบริการท่องเที่ยวนั้น เขาเผยว่า อย่าวัดแค่เรื่องกำไรขาดทุนตัวเงินในระยะสั้นเท่านั้น แต่ต้องซื้อใจลูกค้าเพื่อให้เกิดการบอกปากต่อปาก แม้บางครั้งอาจต้องยอมขาดทุน แต่ขอให้เชื่อว่าสุดท้ายแล้วความประทับใจจะสร้างผลตอบแทนคืนกลับมหาศาล
“วิธีคิดของผมคือ แค่ลูกค้าคิดจะซื้อทัวร์กับเรา มันก็คุ้มแล้ว บางครั้งคนที่ซื้อทัวร์ไปแล้วขอยกเลิก ผู้บริการรายอื่นอาจจะเรียกค่าปรับ แต่ของผมจ่ายเงินคืน 100% และหากลูกค้าต้องการอะไร เราพยายามช่วยเขามากที่สุด ราคาแพกเกจของผมคิดเหมือนกันทั้งปี ไม่มีหน้าเทศกาลคิดแพงกว่าปกติ เพราะผมไม่ต้องการให้คนมาเที่ยวแล้วรู้สึกโดนขูดเลือด แม้บางครั้งเราขาดทุนบ้างก็ต้องยอม อาศัยไปถัวเฉลี่ยกำไรในช่วงอื่นๆ แทน สิ่งเหล่านี้จะทำให้ลูกค้าประทับใจไม่รู้ลืม และช่วยไปบอกต่อ ซึ่งผมจะใช้วิธีคิดแบบนี้เสมอ การทำตลาดของเรา มีออกบูทบ้างแต่ไม่มาก ลูกค้าส่วนใหญ่จะมาจากการบอกต่อทั้งสิ้น” โกจงเสริมต่อว่า
งานบริการไม่มีคำว่าสมบูรณ์แบบ แต่ต้องอยู่ภายใต้ข้อตำหนิที่ยอมรับได้ และพร้อมจะนำไปปรับปรุงแก้ไข รวมถึงต้องชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจและยอมรับปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างท่องเที่ยวได้
ปัจจุบัน หจก.ศรีสวัสดิ์ฯ มีบริการท่องเที่ยวครบวงจร ตั้งแต่ให้เช่ารถเก๋ง รถตู้ และรถบัส รวมกว่า 70 คัน เรือเร็วอีก 30 ลำ ตลอดจนรับจัดแพกเกจท่องเที่ยว จัดทัวร์สัมมนา ฯลฯ และยังเป็นตัวแทนส่งต่อนักท่องเที่ยวไปยังที่พักกว่า 20,000 ห้องของโรงแรมต่างๆ ในแถบภาคใต้ นับเป็นผู้ให้บริการธุรกิจท่องเที่ยวทางทะเลรายใหญ่ที่สุดใน จ.กระบี่ และครบวงจรที่สุดในภาคใต้ ผลประกอบการเฉลี่ยราวร้อยล้านบาทต่อปี
ชำนาญระบุด้วยว่า อีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้มีวันนี้เกิดจากประสบการณ์ในช่วงวัยหนุ่มที่ทำงานสารพัด กลายเป็นโอกาสได้รู้จักบุคคลหลากหลายวงการ ช่วยสานสายสัมพันธ์ และสร้างเครือข่ายทางธุรกิจอย่างดี นอกจากนั้น ยังได้รับการสนับสนุนสินเชื่อจากสถาบันการเงินกว่า 140 ล้านบาท โดยมีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ช่วยค้ำประกัน ทำให้มีเงินทุนช่วยขยายธุรกิจเรื่อยมา
“คนเราโอกาสไม่เท่ากัน บางคนเก่งแต่ไม่มีโอกาส ดังนั้นผมต้องขอบคุณหน่วยงานภาครัฐ อย่าง บสย. ที่มาช่วยให้เข้าถึงแหล่งทุน เพราะธุรกิจบริการอย่างผมค่าใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะค่าซื้อรถ และเรือ มูลค่ามหาศาล เฉพาะค่าซ่อมบำรุงปีละหลักสิบล้านบาท ในขณะที่การเข้าถึงสินเชื่อยากเพราะเป็นธุรกิจที่ไม่มีที่ดินจะไปค้ำประกันสินเชื่อ ดังนั้น เมื่อมี บสย.มาช่วยค้ำแทนก็ทำให้มีเงินทุนเข้ามาหมุนเวียน ทำให้ธุรกิจผมโตขึ้นได้ ” โกจงระบุ
ทุกวันนี้เมื่อธุรกิจยืนหยัดได้แข็งแกร่ง “โกจง” มักแบ่งเวลานำประสบการณ์ที่ผ่านมา เข้าช่วยเหลือพัฒนาธุรกิจท้องถิ่นบ้านเกิดโดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว เช่น จัดแพกเกจพานักท่องเที่ยวไปซื้อหาสินค้าจากแหล่งชุมชนต่างๆ รวมถึงทำตลาดใหม่ให้แก่ชาวบ้าน อย่างการเปิดร้านค้าท้องถิ่นในสนามบินกระบี่ เป็นต้น
“ศักยภาพของกระบี่มีความหลากหลายมาก ตอนนี้ผมพยายามจุดแนวคิดใหม่ให้นักท่องเที่ยวว่า กระบี่มีดีมากกว่าทะเล เพื่อช่วยกระจายรายได้ไปสู่ชุมชน ผมอยากให้ชาวกระบี่ทุกคนร่วมแรงร่วมใจ ไม่ใช่ต่างคนต่างแข่งขัน และอยากให้ทุกคนคิดเสมอว่า ต้องบริการนักท่องเที่ยวเหมือนญาติ หรือพี่น้องด้วยความจริงใจ ซึ่งจะทำให้แขกที่มาเที่ยวประทับใจ และอยากกลับมาที่นี่อีกเสมอๆ” โกจงกล่าวทิ้งท้าย
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *