อาชีพเกษตรกรรมเป็นอาชีพที่มีเกียรติน่ายกย่อง และรายได้สูงมากในต่างประเทศ คือ คำกล่าวของสาวน้อยทายาทธุรกิจ ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ของเมืองไทย อย่าง “วิลาสินี กิตะพาณิชย์” หรือ “เชอรี่” ผู้หันมาเป็นแม่ค้าขายสินค้าการเกษตรอินทรีย์ จาก “ไร่รื่นรมย์” จังหวัดเชียงราย
“เชอรี่” บอกกับเราว่า ไร่รื่นรมย์เกิดจากความต้องการของน้องสาว “ศิริวิมล กิตะพาณิชย์” หรือ “แอปเปิ้ล” วัยเพียง 27 ดีกรีนักเรียนนอก “เมืองเมลเบิร์น” ประเทศออสเตรเลีย ที่ฝันอยากจะพลิกฟื้นผืนแผ่นดินที่เป็นสมบัติของตระกูล อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย กว่า 80 ไร่ ให้มีคุณค่า สามารถที่จะเป็นอาหารเลี้ยงคนไทยให้มีสุขภาพที่ดี
สุดท้าย พี่สาว “เชอรี่” รับบทเป็นแม่ค้าทำการตลาดให้น้องสาว “แอปเปิ้ล” สวมบทเกษตรกรเต็มตัว ลงพื้นที่รับผิดชอบเป็นฝ่ายผลิต ปลูกพืชไร่ ทำนา และเลี้ยงสัตว์ ในรูปแบบของเกษตรอินทรีย์ มาจนถึงขณะนี้เวลาผ่านไปกว่า 1 ปี มีผลผลิตที่นำออกจำหน่าย ได้แก่ ข้าวหอมอุบล (ข้าวกล้องอินทรีย์) แตงกวา (แตงล้านหอม) มะเขือเทศ สตรอเบอร์รี และจิงจูฉ่าย (เป็นพืชกินใบ) ได้รับความนิยมในกลุ่มของคนรักสุขภาพ เพราะมีสารต้านมะเร็งสูง และเลี้ยงสัตว์ มี แกะ แพะ และเป็ด ทุกอย่างจะทำแบบเกษตรอินทรีย์ แม้แต่เลี้ยงสัตว์ ก็จะใช้อาหารที่ผลิตขึ้นมาแบบปลอดสารอันตราย
เชอรี่เล่าว่า น้องสาว (แอปเปิ้ล) เป็นคนทำอะไรก็จะมีความมุ่งมั่น และทำมันอย่างจริงจัง ให้ประสบความสำเร็จให้ได้ โดยได้มีโอกาสไปศึกษาเรื่องการเกษตร จากการเข้าร่วมในโครงการ 1 ไร่ 1 แสนบาท ของหอการค้าไทย ซึ่งโครงการนี้เป็นจุดเริ่มต้นของ ไร่รื่นรมย์ เพราะหลังจากน้องสาวเข้าร่วมโครงการ เกิดการท้าทายจากคนรอบข้างว่า เด็กนอก ไม่เคยทำงานหนัก จะมาทำไร่ทำนาได้หรือ? ทว่า แอปเปิ้ลก็รับคำท้า และพิสูจน์ให้เห็นว่าเธอก็สามารถทำงานหนัก และเป็นเกษตรกรยุคใหม่ได้จริงๆ
แม้ว่าวันนี้การทำงานหนักของเธอจะยังไม่ได้เห็นผลกำไรมากมายอย่างที่หลายคนคิด แต่สิ่งที่ “แอปเปิ้ล” ได้รับคือ การได้แบ่งปันความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ ให้หันกลับมาทำการเกษตรแบบปลอดภัย เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของตัวผู้ผลิต เกษตรกร และผู้บริโภคที่ได้บริโภคอาหารที่ปลอดภัย ที่สำคัญคือ ความฝันที่จะทำให้อาชีพเกษตรกรรมเป็นอาชีพที่น่ายกย่อง และเป็นอาชีพที่ต้องสร้างรายได้มากกว่าอาชีพอื่นๆ แอปเปิ้ลมีความตั้งใจอย่างมากที่จะเปลี่ยนความคิดเกษตรกร จากที่เคยทำเกษตรแบบดั้งเดิม พึ่งพิงแต่สารเคมี ได้ผลผลิตต่ำ ทำเท่าไรก็ขาดทุน มาเป็นเกษตรวิถีใหม่ “เกษตรอินทรีย์ วิถีพอเพียง”
“เมื่อชาวบ้านไม่รู้ ก็ไปให้ความรู้เขา เมื่อยังไม่เชื่อ ก็ไปลองทำให้ดู โดยใช้พื้นที่ประมาณ 80 ไร่ของ “ไร่รื่นรมย์” ลงแปลงปลูกข้าว ปลูกผักอินทรีย์ และเลี้ยงสัตว์ คัดเลือกเมล็ดพันธุ์ที่ดี ไม่ใช่ GMO กำจัดศัตรูข้าวด้วยวิธีธรรมชาติ บำรุงพืชผลเกษตรด้วยสมุนไพร และปุ๋ยหมักที่ทำขึ้นเอง ไม่เบียดเบียนธรรมชาติ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่เป็นเกษตรอินทรีย์อย่างแท้จริง และเมื่อเขาเห็นเราทำได้ประสบความสำเร็จ และต้องการจะทำแบบเรา เราก็ยินดีที่จะสอนให้”
ในส่วนแผนการตลาดของ “เชอรี่” ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่า เธอทั้งคู่ได้แรงหนุนจากครอบครัวที่มีเงินทุน เพราะเป็นเกษตรกร และการทำตลาดไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากทุกอย่างเป็นต้นทุนการผลิตที่ค่อนข้างสูง ที่มาจากอุปสรรคในการทำการเกษตรที่ทั้งคู่ไม่เคยทำมาก่อน แต่ทุกอย่างเรียนรู้จาก ผู้รู้ ซึ่งน้องสาว (แอปเปิ้ล) ได้มาจากการเข้าร่วมโครงการ 1 ไร่ 1 แสน ส่วนพี่สาว (เชอรี่) ได้เรียนรู้จากการได้ลงมือเป็นแม่ค้า ขายสินค้าเอง ตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งปัญหาและอุปสรรคของทั้งสองคนเผชิญมีความยากที่แตกต่างกันออกไป
ทั้งนี้ การเป็นทายาทธุรกิจ ชีวิตมีทางเลือกที่ง่ายและดีกว่าในสายตาของหลายคน แต่ทั้งสองคนกลับเลือกที่จะเริ่มต้นธุรกิจใหม่ ที่ทั้งเหนื่อย และยาก เหตุผลเพียงเพราะพวกเขาเชื่อว่า สินค้าเกษตร คือ อนาคตของมนุษยชาติ เพราะในอนาคตความต้องการจะมากขึ้น ขณะผลผลิตจะน้อยลง เมื่อโลกต้องเผชิญเรื่องเลวร้าย มีภัยธรรมชาติ แต่เราจะยังอยู่รอดได้ถ้ามีอาหารให้บริโภค
“ในยามที่ลำบาก แม้เรามีเงิน แต่เงินไม่สามารถช่วยชีวิตเราได้ เพราะเรากินเงินไม่ได้ แต่การผลิตอาหารก็เหมือนมีเงินอยู่ในกระเป๋าอยู่แล้ว นี่คือเงินของเรา เป็น Currency หนึ่งที่ไม่ใช่เงินบาท หรือเงินดอลลาร์ แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่จะช่วยให้เรามีชีวิตอยู่ได้แม้ในวิกฤต” เชอรี่กล่าว
เชอรี่บอกด้วยว่า เธอและน้องสาวก็คงจะต้องสู้ต่อไป เพราะเชื่อว่าตรงนี้จะเป็นอาชีพที่ยั่งยืนได้ เนื่องจากมนุษย์ยังไงก็ต้องการอาหาร และการบริโภคอาหารที่ปลอดภัยย่อมเป็นสิ่งแรกที่ทุกคนเลือกถ้ามีโอกาส การทำอาหารที่ปลอดภัยเป็นส่วนหนึ่งในการมีส่วนร่วมในการดูแลโลกใบนี้ให้อยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ แผนในอนาคตที่วางไว้ กับไร่รื่นรมย์ คือ การแบ่งพื้นที่บางส่วนเปิดเป็นที่พักอาศัยแบบโฮมสเตย์ และคาเฟ่เล็กๆ รองรับกลุ่มที่ต้องการมาเยี่ยมชม และเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ และรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติที่ต้องการเที่ยวและพักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติ
วันนี้สินค้าที่โดดเด่นของไร่รื่นรมย์ ที่เชอรี่นำไปร่วมออกร้านตามสถานที่ต่างๆ คือ ข้าวหอมอุบล ข้าวกล้องใส่ในขวดพลาสติก พร้อมกับข้อความดีๆ ข้างขวด ที่ใครเห็นก็คงจะต้องเข้ามาดู เชอรี่บอกว่าที่เรานำมาใส่ในขวดเพื่อเพิ่มความสะดวก และดึงดูดสายตาให้คนหันมาให้ความสนใจ แต่ที่สำคัญเติมไฮโดรเจนเพื่อป้องกันมด มอด และปิดฝาด้วยตัวปิดผนึก ข้าวที่อยู่ในขวดนี้สามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี ปราศจากแมลงรบกวน
ความคิดของทายาทธุรกิจสาวดังกล่าว ช่างงดงามและน่าชื่นชมอย่างยิ่ง
โทร. 0-2511-1942, 08-1836-1387
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *