xs
xsm
sm
md
lg

‘TA.THA.TA’ นาฬิกาสายหนังย้อมสีธรรมชาติ ทุน 5 พัน ปั้นธุรกิจเงินล้าน(ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

“นาฬิกาข้อมือ” สายหนังย้อมสีธรรมชาติ แบรนด์ ‘TA.THA.TA’ (ตถตา)
เมื่อ 5 ปีก่อนหน้านี้ ด้วยเงินทุนแค่ 5 พันบาท ที่คู่ซี้ “วิภาวัส ดาราพงศ์สถาพร” และ “กวิตา ศรีสันต์” ลงขันกันซื้ออุปกรณ์มาทำกระเป๋าผ้าสายหนัง เพื่อขายหารายได้พิเศษ ทุกวันนี้ แตกยอดพัฒนาเป็นสินค้า “นาฬิกาข้อมือ” ดีไซน์เฉียบขาด และโดดเด่นด้วยสายหนังย้อมสีธรรมชาติ สร้างยอดขายหลักล้านบาทต่อปี ในแบรนด์ ‘TA.THA.TA’ (ตถตา)
กวิตา ศรีสันต์ (ซ้าย) และวิภาวัส ดาราพงศ์สถาพร
พื้นฐานแล้ว สองสาวเรียนมาด้านศิลปะ โดย “วิภาวัส”จากคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ส่วน “กวิตา” จบด้านออกแบบผลิตภัณฑ์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง บันไดก้าวแรก เกิดจากจุดเล็กๆ แค่อยากทำงานอดิเรกสร้างรายได้ เลยร่วมกันควักเงินลงขัน ประมาณ 5 พันบาท ซื้ออุปกรณ์มาประดิษฐ์กระเป๋าผ้าสายหนังแฮนด์เมดเพื่อออกขาย




“เราเริ่มจากทำแล้วไปขายตามตลาดนัดแฮนด์เมด และทางออนไลน์ โดยเป็นกระเป๋าผ้าแคนวาส (Canvas) ส่วนสายหิ้วหรือสะพายทำจากหนังแท้ “ฟอกฝาด” สไตล์ออกมาแนวธรรมชาติ เหมาะใช้ได้ทุกโอกาส แข็งแรงทนทาน ซึ่งลูกค้าให้การตอบรับดีมาก” วิภาวัส เป็นตัวแทนเล่า


หลังทำกระเป๋าผ้าสายหนังมาประมาณ 2 ปี ทั้งสองเห็นช่องทางที่สามารถแตกไลน์สินค้าออกไปได้ เพราะมีเศษวัสดุหนังแท้เหลือจากทำสายกระเป๋าจำนวนมาก เลยเกิดแนวคิดนำมาทำเป็นสายของนาฬิกาข้อมือ

และเนื่องจากวัสดุเป็นหนัง “ฟอกฝาด” มีข้อเสียจะติดคราบต่างๆ ได้ง่าย และเมื่อติดแล้วไม่สามารถล้างออกได้ สองสาวกลับพลิกให้จุดอ่อนกลายมาเป็นจุดเด่นได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการนำหนังฟอกฝาดไปย้อมสีจากวัสดุธรรมชาติต่างๆ เมื่อหนังที่มีคุณสมบัติติดสีได้ง่าย มาเจอกับสีสกัดจากวัสดุธรรมชาติ เกิดเป็นหนังย้อมสีสวยงามอ่อนโยน และแตกต่างไม่เหมือนใคร


“ตอนที่เรียน เคยมีวิชาสอนย้อมสีผ้าบาติก ทำให้คิดลองเทคนิคนี้นำมาย้อมสายหนังนาฬิกาบ้าง แต่ถ้าย้อมด้วยสีเคมี สีออกมาจะมีลักษณะแข็งกระด้าง พวกเราเลยลองนำวัสดุธรรมชาติ เช่น อัญชัน กุหลาบ ฯลฯ มาสกัดเป็นน้ำย้อม เมื่อย้อมมาแล้ว สีที่ได้ดูนวลสวยเป็นธรรมชาติ” วิภาวัส อธิบายเสริม

กว่าจะได้สีย้อมธรรมชาติแต่ละตัว เธอระบุว่า ลองผิดลองถูกอยู่นาน โดยการย้อมแต่ละครั้ง สีที่ออกมาจะไม่เหมือนเดิม 100% จึงเป็นการขายเสน่ห์ของงานแฮนด์เมด ทุกชิ้นเป็นงานชิ้นเดียวในโลก ซึ่งเทคนิคการย้อมมีทั้งใช้แบบมัดย้อม ชุบสี และพ่นสี เป็นต้น วัตถุดิบที่ใช้สกัด เช่น อัญชัน กุหลาบ ใบบัวบก กล้วยไม้ ดอกเข็ม กาแฟ ใบพุด เป็นต้น ส่วนวัสดุสายนาฬิกา ด้านหนังหน้าเป็น “หนังวัว” เพื่อความแข็งแรง ส่วนหนังด้านในทำจาก "หนังแกะ” คุณสมบัตินุ่มเหนียวเหมาะแก่การสัมผัสกับผิวข้อมือ ขณะที่ คุณสมบัติของการย้อนสีธรรมชาติลงบนหนังฟอกฝาด สีจะติดทนทานไม่มีลอก และยิ่งใช้งานนาน สีจะยิ่งเกิดความมันวาวสวยงาม
น้ำสกัดจากวัสดุธรรมชาติสำหรับใช้ย้อม

ทั้งนี้ ในส่วนตัวเรือนนาฬิกานั้น กวิตา เผยว่า ช่วยกันออกแบบเอง แล้วว่าจ้างโรงงานนาฬิกาแห่งหนึ่งในฮ่องกงผลิตให้ตามแบบ ซึ่งโรงงานแห่งนี้เป็นผู้ผลิตนาฬิกาคุณภาพมาตรฐานสากล


ด้วยความโดดเด่นของสายหนังย้อมสีจากธรรมชาติ ประกอบกับดีไซน์ตัวเรือนสวยงามโดดเด่น เปิดประตูให้ แบรนด์ ‘TA.THA.TA’ ได้รับคัดเลือกจากสถาบันส่งเสริมการออกแบบและนวัตกรรมเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เข้าโครงการ Talent Thai ซึ่งคัดเลือกผลงานนักออกแบบรุ่นใหม่ ออกงานแสดงสินค้าระดับประเทศ เช่น BIG+BIH ช่วยให้ได้รับออเดอร์จากต่างชาติ กลายเป็นสินค้าส่งออกไปหลายประเทศ เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง เป็นต้น


เธอ เผยต่อว่า นาฬิกา ‘TA.THA.TA’ ออกสู่ตลาดมาประมาณ 2-3 ปีแล้ว ขณะนี้มีด้วยกัน 4 รุ่น ราคาขายเรือนละ 4,800 บาท เฉพาะสายหนังสำหรับเปลี่ยน 1,800 บาท กลุ่มลูกค้ามีตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยทำงาน ทั้งบุรุษและสตรี ส่วนกระเป๋าผ้ายังทำควบคู่ไปด้วย ใบละประมาณ 2,000 บาท ด้านช่องทางตลาด มีขายตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ หน้าร้านที่ตลาดนัดจตุจักร และออนไลน์ เป็นต้น
กระเป๋าผ้า สายหนัง อีกสินค้าของแบรนด์นี้

ระยะเวลาแค่ 5 ปี ด้วยเงินทุน 5 พันบาท จากเริ่มทำหารายได้เสริม ทุกวันนี้ แบรนด์ ‘TA.THA.TA’ ทั้งนาฬิกา และกระเป๋า มียอดขายกว่า 7-8 แสนบาทต่อเดือน หรือประมาณเกือบ 10 ล้านบาทต่อปี ในวัยเพียงยี่สิบกลางๆ สองสาวยอมรับว่า มาไกลกว่าเกินคาดหวังมาก

อย่างไรก็ตาม พวกเธอบอกว่า นี่ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น บนถนนที่จะเดินต่อไป ยังต้องเรียนรู้และพัฒนาไม่สิ้นสุด

“เราไม่ได้มองว่า ประสบความสำเร็จแล้ว เพียงแค่อยากจะทำให้สินค้าดีขึ้นทุกๆ วัน ทั้งในแง่คุณภาพ และดีไซน์ เพราะรู้สึกว่า ถ้าเราทำในจุดๆ นี้ให้ดีแล้ว แบรนด์มันจะไปต่อเองได้” วิภาวัส กล่าว

“นอกจากนั้น ต้องวิเคราะห์ตัวเองเสมอ ไม่ใช่ทำไปแล้วคิดว่าดี ก็หยุดพัฒนา แต่เราต้องมองหาข้อเสียของตัวเอง และเปรียบเทียบกับคนอื่นๆ เพื่อที่เราจะพัฒนาสินค้าตัวเองให้ไปอยู่ในจุดที่ดีกว่า” กวิตา เสริมในตอนท้าย



ติดต่อโทร.0-2512-2459 หรือ www.tathatabrand.com , FB: tathatabrand ,IG: tathatabrand

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น