ผลการประชุม ครม. เผยรัฐบาลอนุมัติวงเงินเพิ่มอีก 5,000 ล้านบาท กระตุ้น SMEs เฟด 2 คาดช่วยผู้ประกอบการอีก 100,000 ราย เล็งสร้างความเข้มแข็ง พร้อมบรรเทาปัญหาธุรกิจภาคเอกชนขาดสภาพคล่อง ผลพวงสภาพเศรษฐกิจ
นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม เห็นชอบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม เสนอมาตรการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ SMEs ในการเพิ่มวงเงิน 5,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้ 100,000 ราย
ทั้งนี้ซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการระยะที่ 2 ต่อจากกระทรวงการคลัง เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ SMEs โดยมาตรการนี้จะแบ่งเป็น 1.การเสริมสร้างความเข้มแข็งของเอสเอ็มอี ซึ่งได้ประกอบธุรกิจอยู่แล้ว วงเงิน 2,947.07 ล้านบาท คาดว่าจะช่วยเหลือเอสเอ็มอีได้ 55,338 ราย 2.การสร้างผู้ประกอบการใหม่เชิงสร้างสรรค์และนวัตกรรม (New Start Up ) วงเงิน 408 ล้านบาท คาดช่วยเหลือเอสเอ็มอีได้ 22,715 ราย 3.การช่วยเหลือเอสเอ็มอีประสบปัญหาทางธุรกิจในการปรับแผนธุรกิจเป็นการเร่งด่วน วงเงิน 630 ล้านบาท คาดช่วยเหลือเอสเอ็มอี 17,000 ราย และ 4.การสร้างและพัฒนาปัจจัยสนับสนุน วงเงิน 1,112.31 ล้านบาท คาดช่วยเอสเอ็มอี 2,450 ราย
สำหรับมาตรการดังกล่าวเป็นการนำโครงการทั้งหมดที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณในปี 2559 แล้ว โดยการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเอสเอ็มอี และการสร้างผู้ประกอบการใหม่เชิงสร้างสรรค์และนวัตกรรม โดยจะใช้งบประมาณปี 2559 ของหน่วยงานทั้งที่อยู่ในแผนงานบูรณาการของเอสเอ็มอีและไม่อยู่ในแผนงานบูรณาการเอสเอ็มอี วงเงิน 2,630.68 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายช่วยเหลือเอสเอ็มอี 53,040 ราย และ การช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ประสบปัญหาทางธุรกิจ จะขอใช้งบของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. วงเงิน 630 ล้านบาทเพื่อยช่วยเหลือเอสเอ็มอี 17,000 ราย
ล่าสุดคณะกรรมการสสว.ได้อนุมัติในหลักการแล้ว และอีกส่วนเป็นการดำเนินงานที่จะขอรับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมในปีงบประมาณ 2559 จากคณะกรรมการสสว. ในแผนงานเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน วงเงิน 1,837.17 ล้านบาท คาดช่วยเหลือเอสเอ็มอีได้ 27,463 ราย โดยหลายหน่วยงานจะร่วมบูรณาการช่วยเหลือร่วมกัน โดยกระทรวงอุตสาหกรรม จะทำหน้าที่ปรับโครงสร้างการลงทุน ส่งเสริมแนะนำการลงทุน กระทรวงพาณิชย์ช่วยสนับสนุนการตลาด แฟรนไชส์ การขอใบอนุญาต กระทรวงวิทยาศาสตร์ ช่วยเหลือด้านการพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม การวิจัยและพัฒนาสินค้า เพื่อเร่งรัดให้เกิดการลงทุนภายในงบประมาณปี 2559
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังเห็นชอบมาตรการทางภาษีสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีประเภท Start Up สำหรับผู้จดทะเบียน 5 ล้านบาท ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2558-31 ธันวาคม 2559 ในกลุ่มเทคโนโลยีนวัตกรรม กลุ่มสินค้าเกษตรแปรรูป กลุ่มสินค้าวิจัยและพัฒนา จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 5 ปีอีกด้วย
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEsผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *