ชูยุทธศาสตร์ใช้ “ดีไซน์” หนุนธุรกิจบริการ สร้างแบรนด์ไทยบนเวทีโลก

สถาบันส่งเสริมการออกแบบและนวัตกรรมเพื่อการค้าชูโมเดลใหม่ นำ “ดีไซน์” หนุนธุรกิจส่งออกงานบริการ ชี้เป็นตลาดใหญ่มูลค่ามหาศาล ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้การส่งออก และสร้างแบรนด์ไทยบนเวทีโลก แจงงบปี 59 ได้รับ 100 ล้านบาท ผ่าน 21 โครงการ เน้นสร้างดีไซเนอร์รุ่นใหม่ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์

ม.ล.คฑาทอง ทองใหญ่ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการออกแบบและนวัตกรรมเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ของสถาบันฯ ในปีงบประมาณ 2559 จะเน้นนำ “ดีไซน์” ไปต่อยอดและสนับสนุนการส่งออกธุรกิจด้านบริการ เนื่องจากปัจจุบันการส่งออกของประเทศไทยกว่า 80% จะส่งออกในรูปแบบของ “ผลิตภัณฑ์” ส่วนอีก 20% ส่งออกด้านบริการ ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วตลาดบริการมีมูลค่าที่สูงกว่าและใหญ่กว่ามหาศาล ดูได้จากประเทศชั้นนำของโลก โดยเฉพาะยุโรปจะเน้นการส่งออกด้านบริการเป็นหลัก โดยวางเป้าระยะยาว ต้องการให้การส่งออกของไทยมีสัดส่วนระหว่างการส่งออกผลิตภัณฑ์กับบริการอย่างละ 50% ต่อ 50%

เขาอธิบายเสริมว่า การนำดีไซน์ไปส่งเสริมธุรกิจส่งออกด้านบริการนั้น เช่น การส่งเสริมนักออกแบบรุ่นใหม่ ไปออกแบบภาพลักษณ์ให้แก่ธุรกิจบริการต่างๆ เช่น ร้านอาหาร สปา การท่องเที่ยว สิ่งเหล่านี้งานดีไซน์สามารถเข้าไปช่วยสร้างจุดเด่นหรือเรื่องราวความเป็นมาของธุรกิจ รวมถึงสามารถขยายการออกแบบไปสู่อุตสาหกรรมหนักมากยิ่งขึ้น เช่น การออกแบบรถยนต์ อุปกรณ์ไอที เหล่านี้จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่การส่งออกของไทย รวมถึงสร้างภาพลักษณ์การจดจำแบรนด์สินค้าจากประเทศไทยด้วย

ทั้งนี้ ในปี 2559 ทางสถาบันฯ ได้รับงบประมาณจากรัฐบาลมาดำเนินงานประมาณ 100 ล้านบาท ผ่าน 21 โครงการ ส่วนใหญ่เป็นโครงการต่อเนื่อง เน้นการสร้างนักออกแบบรุ่นใหม่เพื่อให้กระจายออกไปสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งนักออกแบบแต่ละคนจะมีบทบาทสำคัญในการกระจายภาพลักษณ์อย่างกว้างขวาง เพราะนักออกแบบหนึ่งคนสามารถสร้างสรรค์งานให้ผู้ผลิตอีกจำนวนมาก และไม่ใช่เพียงแค่ไปช่วยออกแบบเท่านั้น ยังมีส่วนสร้างแบรนด์ให้แก่ประเทศไทยด้วย

“การดีไซน์มีพลังมากกว่าที่คิดมาก ดูได้จากดีไซเนอร์ของญี่ปุ่น ซึ่งมีจำนวนไม่มาก แต่สามารถไปสร้างสรรค์ผลงานจนสร้างภาพลักษณ์ให้คนทั่วโลก จดจำแบรนด์ญี่ปุ่นถึงเรื่องไอเดียและคุณภาพ หรือนักออกแบบฝรั่งเศสสร้างภาพลักษณ์ให้สินค้าฝรั่งเศสเป็นแบรนด์ระดับหรูของโลก เป็นต้น ดังนั้น การส่งเสริมให้นักออกแบบไทยมีส่วนผลักดันการส่งออกธุรกิจบริการ จึงเป็นยุทธศาสตร์ใหม่ของสถาบันฯ ที่เราจะเร่งผลักดัน”

ม.ล.คฑาทองเผยด้วยว่า จากที่สถาบันฯ ก่อตั้งมาประมาณ 12 ปี ได้สร้างนักออกแบบสู่ตลาดแล้วกว่า 650 ราย และในปีนี้ (2558) และต่อเนื่องปีหน้า (2559) จะมุ่งสนับสนุนการสร้างนักออกแบบรุ่นใหม่ต่อเนื่อง ทั้งความรู้ และช่องทางตลาด อย่างเช่น พาไปออกงานแสดงสินค้าต่างๆ เพื่อให้พบกับผู้ซื้อตัวจริง ล่าสุดไปประกอบการรุ่นใหม่ 38 แบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์ จาก “โครงการ Talent Thai 2015” ร่วมงานแสดงสินค้าของขวัญและของใช้ตกแต่งบ้าน BIG + BIH OCTOBER 2015 ตั้งแต่วันที่ 19-23 ตุลาคม 2558 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ในโซน H.O.T (Hospitality Objects Thailand) HALL 105

สำหรับนักออกแบบที่ได้มาออกงาน BIG + BIH OCTOBER 2015 ในครั้งนี้ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่

Talent Thai กลุ่ม Now (อายุธุรกิจ 1-3 ปี) จำนวน 23 แบรนด์
- แบรนด์เครื่องประดับ เช่น Angsa, BASIC TEEORY, Mirror Mirror, UNTRUST US
- แบรนด์กระเป๋าและเครื่องหนัง เช่น daddy’s girl By Danaiya, Love Supreme, PINSEL ON THE SHELF
- แบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์ และของตกแต่งบ้าน เช่น C E ' H A L O C E R A M I C, Cozy Cottage, Dhammada Garden, Earth Republic, Ease-Embroidery Design Studio, ELEMENTSEDEN, KLANK, zappeaze, Nava Bath & Body Workshop, plural designs, RUBBERLY, SUR, This Means That, Varni Southern Wicke
- แบรนด์สินค้าสัตว์เลี้ยง เช่น Daddy Pet, Purru Mobile Safe Spot For

Talent Thai กลุ่ม Next (อายุธุรกิจ 3-6 ปี) จำนวน 15 แบรนด์
- แบรนด์เครื่องประดับ เช่น Carletta Jewellery, Mafia, METEOR, NATTA STUDIO, PAHKIN Pym Jewellery
- แบรนด์กระเป๋าและเครื่องหนัง อาทิ THE SLEEVELESS GARDEN
- แบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์ และของตกแต่งบ้าน เช่น Bonny and lady petch, GREY RAY STATIONERY, May & Clay Ceramics Studio, Pin (The Art Of Metal's Life), Rubber Killer, salt and pepper, TA.THA.TA
- แบรนด์สินค้าสัตว์เลี้ยง อาทิ Mha Dog and living

“ทั้ง 38 แบรนด์ที่ได้รับเลือกในครั้งนี้ไม่เพียงแต่โดดเด่นด้วยการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร แต่ในขณะเดียวกันยังสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งทั้ง 38 แบรนด์นี้ได้ผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้นจากผู้ทรงคุณวุฒิในวงการนักออกแบบ แฟชั่น รวมถึงกลุ่มธุรกิจชั้นนำ จึงอยากเชิญชวนให้คนไทยและผู้สนใจได้เข้ามาชมผลงานของทั้ง 38 แบรนด์ที่จะมีขึ้นในงาน BIG+BIH 2015 ณ โซน Talent Thai ในพื้นที่แสดงสินค้า H.O.T (Hospitality Objects Thailand) ระหว่างวันที่ 19-29 ตุลาคมนี้” ม.ล.คฑาทองกล่าวเสริม

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *