“บางจาก” จับมือ บสย.เปิดตัวโครงการหนุนเอสเอ็มอีเข้าถึงสินเชื่อ 3 แบงก์ โดยเฉพาะกลุ่มขนส่ง ผ่านบัตร “บางจากฟลีทการ์ด” แจงทุ่ม 82 ล้านบาท ต่อยอดรับภาระค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อแทนผู้ประกอบการ ระยะเวลา 7 ปี คาดอุ้มได้กว่า 2,000 ราย วงเงินปล่อยสินเชื่อทะลุ 1,000 ล้านบาท
นายญาณศักดิ์ มโนมัยพิบูลย์ ประธานกรรมการ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวภายหลังการแถลงความร่วมมือระหว่าง บสย.กับบางจากฯ ในโครงการ “สินเชื่อ SMEs ผ่านบัตรบางจากฟลีทการ์ด” ว่า โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยผู้ประกอบการ SMEs ทั้งระบบโดยเฉพาะภาคการขนส่ง ให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อบัตรบางจากฟลีทการ์ด (Fleet Card) บัตรเครดิตสำหรับเติมน้ำมันได้ง่ายขึ้นเพื่อลดต้นทุนค่าเชื้อเพลิงสำหรับการขนส่งสินค้าและบริการให้มีประสิทธิภาพ โดยบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ถือเป็นภาคเอกชนไทยรายแรก ที่ได้ประกาศโครงการความร่วมมือร่วมกับ บสย.ด้วยการจัดสรรงบประมาณของบางจาก เพื่อรับภาระการจ่ายค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อร่วมกับรัฐบาลแทนผู้ประกอบการที่ขอสินเชื่อบัตรบางจากฟลีทการ์ดจากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)
นายญาณศักดิ์กล่าวต่อว่า จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับผู้ประกอบการ SMEs ของรัฐบาล โดยใช้ในโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS5 ปรับปรุงใหม่ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2558 วงเงิน 1 แสนล้านบาท ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการ SMEs และธนาคารพันธมิตร เป็นจำนวนมาก โดย บสย.ได้อนุมัติการค้ำประกันสินเชื่อไปแล้วกว่า 5,000 ล้านบาท นับตั้งแต่เริ่มโครงการ 8 กันยายนที่ผ่านมา
สำหรับโครงการนี้จะมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้ผู้ประกอบการ SMEs ที่ยังเข้าไม่ถึงสินเชื่อประเภทฟลีทการ์ดสามารถเข้าได้ง่ายขึ้น ทำให้มีวงเงินสินเชื่อที่มากพอในการรองรับการซื้อน้ำมันส่งผลให้ธุรกิจเติบโตยิ่งขึ้น จากที่โครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS5 ปรับปรุงใหม่ ทางภาครัฐจะช่วยแบกรับค่าธรรมเนียมฟรีในปีแรก หลังจากนั้นทางบางจากฯ จะรับภาระแทนผู้ประกอบการ SMEs แทนให้ทั้งหมด
ด้านนายพงษ์ชัย ชัยจิรวิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บางจากฯ เป็นบริษัทน้ำมันไทยรายแรกที่สนับสนุนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ด้วยการช่วยชำระค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อให้กับ บสย. แทนผู้ประกอบการ SMEs ที่เข้าร่วมโครงการสินเชื่อบัตรฟลีทการ์ด ตลอดระยะเวลาโครงการ 7 ปี คิดเป็น 8.25% ของวงเงินค้ำประกัน หรือเป็นวงเงินประมาณ 82 ล้านบาทื ซึ่งเป็นการต่อยอดความช่วยเหลือของรัฐบาลที่ช่วยรับภาระค่าธรรมเนียมค้ำประกันแทนผู้ประกอบการ SMEs 4 ปี รวม 4% คาดว่าโครงการนี้จะช่วยให้ SMEs สามารถดำเนินธุรกิจได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น เพราะไม่ต้องมีภาระค่าธรรมเนียมค้ำประกัน
โครงการนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs รายเล็กที่มียอดการใช้น้ำมันต่อเดือนไม่สูงมาก เข้าถึงสินเชื่อบัตรฟลีทการ์ดได้ง่ายขึ้น โดยได้รับความร่วมมือจาก 3 ธนาคารพันธมิตร คือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ใช้เวลาในการอนุมัติสินเชื่อสั้นลง และได้รับเครดิตเทอมในการชำระค่าน้ำมันสูงสุด 55 วัน ซึ่งจะช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินได้ดีขึ้น
นายพงษ์ชัยกล่าวต่อว่า คาดความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs ที่เป็นนิติบุคคลเข้าถึงสินเชื่อไม่น้อยกว่า 2,000 ราย และคาดว่าธนาคารจะปล่อยสินเชื่อได้กว่า 1,000 ล้านบาท เฉลี่ยวงเงินสินเชื่อรายละประมาณ 5 แสนบาท และพร้อมให้วงเงินสินเชื่อได้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2558 เป็นต้นไป
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *