ก่อนจะถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ในแต่ละปี จะมีผู้ผลิตหลายราย ทั้งในและต่างประเทศ ทำขนม“ขนมไหว้พระจันทร์” (Moon Cake) ออกมาขาย ซึ่งปัจจุบัน ขนมไหว้พระจันทร์ พัฒนาปรุงปรุง ทั้งเรื่องของรูปทรงและรสชาติหลากหลาย จนกลายเป็นหนึ่งในขนมขวัญใจของหลายคน
และหากจะกล่าวถึงขนมไหว้พระจันทร์ ชื่อดังของ “ฮ่องกง” นั้น ต้องยกให้แบรนด์ เหม่ยซิน(Mei-Xin) ที่อยู่ในวงการนี้มากว่า 90 ปี มียอดขาย อันดับ1 ในฮ่องกงติดต่อกันยาวนานถึง 17 ปี สำรวจโดย Nielsen ( Hong Kong Research Report) รวมถึง ส่งออกไปกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ในกลุ่มคนที่นิยมขนมไหว้พระจันทร์ จะรู้จักแบรนด์นี้เป็นอย่างดี
จากความนิยมดังกล่าว ประกอบกับเห็นโอกาสของตลาดขนมไหว้พระจันทร์ในเมืองไทยที่มูลค่ายอดขายต่อปี กว่า 800 ล้านบาท ทำให้คนรุ่นใหม่อย่าง ทนงสาร จิรวราพันธ์ และเรน่า โอโน่ จิรวราพันธ์ เห็นช่องทางสร้างรายได้ ด้วยการเข้าเป็นตัวแทนนำขนมไหว้พระจันทร์ Mei-Xin เข้ามาขายในเมืองไทย ถือเป็นรายแรกและรายเดียว
ทนงสาร หรือคุณบอล เล่าให้ฟังว่า สำหรับคนไทยที่ชอบไปเที่ยวฮ่องกง จะคุ้นเคยกับขนมไหว้พระจันทร์ แบรนด์ Mei-Xin เป็นอย่างดี มักซื้อหากลับมาเป็นของฝาก โดยที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการชาวไทยหลายราย พยายามติดต่อขอเป็นตัวแทนขายในเมืองไทย ทว่า ทาง Mei-Xin ล้วนปฏิเสธมาตลอด เนื่องจากยังไม่มีแผนมาทำตลาดในเมืองไทย
ขณะที่ส่วนตัวทำธุรกิจเปิดร้านอาหารฮ่องกงในเมืองไทย ประกอบกับภรรยา (เรน่า โอโน่ จิรวราพันธ์) เป็นลูกครึ่งฮ่องกง จึงมีเครือข่าย และสายสัมผัสที่ดีกับภาคธุรกิจของฮ่องกงมายาวนานและสม่ำเสมอ ประกอบกับได้สำรวจตลาดขนมไหว้พระจันทร์ในเมืองไทย มีมูลค่ายอดขายแต่ละปีกว่า 800 ล้านบาท ถือเป็นตลาดน่าสนใจมาก จึงเห็นโอกาสจะเสนอตัวขอเป็นตัวแทนนำขนมไหว้พระจันทร์ แบรนด์ Mei-Xin มาทำตลาดในเมืองไทย
“ก่อนหน้านี้ แบรนด์ Mei-Xin ไม่ยอมปล่อยสินค้ามาให้ตัวแทนในไทยเลย เพราะเขาให้ความสำคัญเรื่องการรักษาแบรนด์มาก ถ้าไม่มั่นใจจริงๆ ก็ไม่ยอมเปล่า แต่เหตุที่ยอมไว้วางใจให้พวกเราเป็นตัวแทน ทั้งที่เป็นผู้ประกอบการรายเล็กๆ ผมประเมินว่า เขาเห็นถึงความตั้งใจจริงของเรา ประกอบกับดูประวัตของพวกเรามีความใกล้ชิดกับธุรกิจฮ่องกงอยู่แล้ว เลยมอบสิทธิ์ให้เป็นตัวแทนขายรายแรกและรายเดียวในเมืองไทย ซึ่งกว่าจะได้รับสิทธิ์ ต้องติดต่อเจรจาอยู่เกือบปี” คุณบอล เผย
เขาระบุด้วยว่า ตลาดขนมไหว้พระจันทร์ในเมืองไทยนั้น จะมีผู้ผลิตหลักๆ ไม่เกิน 10 ราย ส่วนใหญ่เป็นร้านอาหาร และโรงแรมต่างๆ โดยระยะเวลาขายจะอยู่ที่ประมาณ 2 เดือนในแต่ละปีเท่านั้น คือ ระหว่างช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายน มูลค่ายอดขายต่อปี รวมกว่า 800 ล้านบาท
ทั้งนี้ เงื่อนไขในการตัวแทนนั้น ทางบริษัทแม่จะกำหนดสัดส่วนและปริมาณให้แต่ละประเทศนำไปขาย และจะต้องซื้อไปขายแบบ “ตัดเงินสด” เท่านั้น ไม่มีระบบฝากขายใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้น จึงเป็นความเสี่ยงของผู้นำเข้าเช่นกัน หากซื้อมาแล้ว ขายไม่หมดเท่ากับต้องยอมขาดทุนเอง นอกจากนั้น ราคาที่นำเข้ามาขาย จะถูกกำหนดว่า จะขายแตกต่างจากที่ซื้อในฮ่องกงได้ไม่เกิน 20% เท่านั้น จึงเป็นเรื่องยากอีกเช่นกันในการทำตลาด
“เนื่องจากแบรนด์นี้ เป็นที่ต้องการของตลาดมาก เงื่อนไขของเขาจึงค่อนข้างไม่ง้อตัวแทน ดังนั้น การนำเข้ามาขาย ซึ่งผมต้องเอาเงินสดไปซื้อ เลยต้องพยายามคัดสินค้าให้ถูกต้องที่สุด ซึ่งผมจะดูความนิยมของคนไทยที่มักซื้อขนมไหว้พระจันทร์ Mei-Xin กลับมาเมืองไทย รวมถึง เลือกสินค้าที่คนไทยชื่นชอบ ซึ่งจริงๆ แล้ว Mei-Xin มีขนมไหว้พระจันทร์กว่า 30-40 ชนิด แต่ผมเลือกนำเข้ามา ประมาณ 10 กว่าชนิด นอกจากนั้น ด้วยราคาขายปลีกที่ถูกกำหนดให้ใกล้เคียงกับซื้อที่ฮ่องกง ทำให้เราเหลือมีช่องว่างเรื่องราคาและผลกำไรที่จะมาทำตลาดน้อยมาก ” เขาเผย
สำหรับจุดเด่นของขนมไหว้พระจันทร์ Mei-Xin นั้น ทนงสารเผยว่า อยู่ที่กระบวนการผลิต ทุกชิ้นผลิตและบรรจุในฮ่องกง 100% และวัตถุดิบที่ใช้คัดสรรเกรดดีเยี่ยมจากทั่วโลก เช่น ขนมไหว้พระจันทร์ไส้เม็ดบัวขาว ไข่คู่ เม็ดบัวขาวมาจากเมืองเซียงถาน มณฑลูหนาน ประเทศจีน ไข่เค็มจากนิวซีแลนด์ ผลไม้บดจากประเทศฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์ หรือไส้ช็อกโกแลต นำเข้าจากสวิสเซอร์แลนด์ เป็นต้น
สำหรับแผนการทำตลาดในเมืองไทยนั้น มี 3 ช่องทางหลัก คือ1. ผ่านทางออนไลน์ www.facebook.com/meixinmooncakethailand 2.ออกบูทงานแสดงสินค้าขนมไหว้พระจันทร์ เช่น ศูนย์การค้าสยามพารากอน วันที่ 20 ส.ค - 27 ก.ย 58, ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ชิดลม วันที่ 14 ก.ย 58 - 27 ก.ย 58 และที่ศูนย์การค้าดิ เอ็มควอเทียร์ วันที่ 16 ก.ย 58 - 27 ก.ย 58 และ 3.เสนอขายบริษัทต่างๆ ที่ต้องการสั่งสินค้าไปมอบให้ลูกค้าในเทศกาลวันไหว้พระจันทร์
คุณบอล เผยด้วยว่า ใช้เงินลงทุน ซื้อสินค้ามาขายกว่า 7 หลัก จำนวน 2 ตู้คอนเทรนเนอร์ กำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายไว้ที่ตลาดบน โดยเฉพาะคนที่รู้จักและชื่นชอบขนมไหว้พระจันทร์แบรนด์นี้ดีอยู่แล้ว ทั้งชาวไทยและชาวชาติที่มาเที่ยวเมืองไทย ส่วนราคาสินค้า ใกล้เคียงกับขนมไหว้พระจันทร์เกรดดีที่สุดในเมืองไทย โดยมีอายุเก็บไว้รับประทาน ได้นานประมาณ 3 เดือน
ด้านผลตอบรับหลังจากเริ่มขายประมาณต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่า ระยะเวลาไม่ถึง 1 เดือน ขายไปแล้วเกินครึ่งจากที่นำเข้าทั้งหมด ทำให้เห็นว่า คนไทยนิยมขนมไหว้พระจันทร์มากกว่าที่คาดไว้
“ผลจากตอนที่เราไปเปิดบูทที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน วันที่ 20 ส.ค. ซึ่งอยู่ใกล้สถานที่เกิดเหตุการณ์ระเบิด (แยกราชประสงค์) ตอนแรกเรากังวลว่า ลูกค้าจะหนีหาย แต่ปรากฏว่า ลูกค้าตอบรับสินค้าดีมาก เพราะรู้จักแบรนด์นี้อยู่แล้วจากการไปเที่ยวฮ่องกง หลายรายบอกว่า ต้องการซื้อมานานแล้ว แต่ในเมืองไทยหาไม่ได้มาก่อน พอมาเจอ ก็เลยซื้อทันที” เขา ระบุ
สำหรับแผนการตลาดต่อไปนั้น เตรียมจะนำเข้าสินค้าชนิดอื่นๆในเครือ Mei-Xin ที่ยังมีสินค้าอีกมากมายหลายชนิด เพื่อเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยต่อเนื่อง
ติดต่อ www.facebook.com/meixinmooncakethailand IG: meixinmooncake Line ID: meixinthailand
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *