“เอิง เอเม่” ชุดจินเบอิสไตล์เจป็อป ผลงานคุณแม่...บรรจงตัดเย็บเพื่อลูกน้อย

ความรักของแม่ยิ่งใหญ่เสมอ สามารถผลักดันให้ทำอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด แม้แต่การเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ โดยมีลูกชายตัวน้อยเป็นแรงบันดาลใจกับชุด “จินเบอิ” เสื้อเด็กชาวญี่ปุ่นนิยมสวมใส่ในหน้าร้อน ที่ใครเห็นก็อดชื่นชมในความน่ารักของเด็กน้อยไม่ได้ กับแบรนด์ เอิง เอเม่ (Une Amee)

ธุรกิจนี้เกิดมาจากคุณแม่ “ศรุดา ณฐภณศรายุธ” หรือคุณแก้ว ที่มีลูกชาย และหลงใหลในเสน่ห์ของชุดจินเบอิ โดยเมื่อมีโอกาสเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นมักจะซื้อกลับมาหลายชุด กระทั่งไปเดินงานแฟร์จำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับแม่และเด็กกับเพื่อนสนิท “จันทร์เพ็ญ วรณิชชา” ก็สังเกตว่าเสื้อผ้าเด็กส่วนใหญ่จะเหมือนกันแทบทั้งหมด จึงคิดว่าหากลองทำชุดจินเบอิขายน่าจะมีความเป็นไปได้ทางการตลาด

ทั้งคู่ตัดสินใจเดินทางไปญี่ปุ่นอีกครั้งเพื่อซื้อชุดจินเบอิมาจำหน่ายต่อ แต่ด้วยเนื้อผ้าและรูปแบบยังไม่ตอบโจทย์ความชอบของทั้งคู่ บางชุดเนื้อผ้าหนาเกินไปไม่เหมาะกับอากาศเมืองไทย จึงคิดลองตัดเย็บเอง โดยเลือกใช้ผ้าคอตตอนญี่ปุ่นคุณภาพดีมาตัดเย็บ

“ผ้าลวดลายสวยๆ ของญี่ปุ่นมีเยอะมาก โดยเฉพาะผ้าคอตตอน ซึ่งเราก็เลือกลายที่เหมาะสม และตัดออกมาเป็นชุดจินเบอิแล้วน่ารัก ช่วงแรกเน้นลวดลายสำหรับเด็กผู้ชาย ขายผ่านโลกออนไลน์ ทั้งอินสตาแกรม และเฟซบุ๊ก ซึ่งกระแสตอบรับดีมากในกลุ่มคุณแม่ที่มีลูกชายและลูกสาวหลังจากเปิดเพจได้ไม่นานเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2557 ที่ผ่านมา”

โดยคุณสมบัติของผ้าคอตตอนญี่ปุ่นที่โดนใจบรรดาแม่ๆ ทั้งหลายคือ 'ยิ่งซักยิ่งนิ่ม' ลายพิมพ์ชัดเจนไม่หลุดลอกง่าย สีไม่ตก ซึ่ง เอิง เอเม่ เลือกผ้าคุณภาพเกรดเอทั้งหมด ตกเมตรละ 140 บาท นำมาตัดเย็บ โดยแพตเทิร์นทั้งคู่ช่วยกันออกแบบให้สวมใส่ง่าย เพื่อคุณแม่คนไทยที่ไม่ชินกับชุดประเภทนี้ ซึ่งชุดจินเบอิของ เอิง เอเม่ มีให้เลือก 2 แบบ คือ 1. บอดี้สูท แบ่งเป็น แบบขาเว้า ขาล้ำ และขายาว ขายในราคาชุดละ 690 บาท และ 2. ชุดจินเบอิ ประเภทแยกเสื้อกับกางเกง ราคา 890/ชุด จัดส่งฟรีแบบลงทะเบียนให้ทั่วประเทศ

“หลายคนจะเห็นว่าชุดของ เอิง เอเม่ มีลวดลายที่หลากหลายมาก ทำให้บางชุดหมดแล้วหมดเลย หากลูกค้าชอบต้องรีบซื้อ เพราะผ้าเราไม่ได้ผลิตเองต้องสั่งซื้อจากตัวแทนจำหน่ายเท่านั้น ผ้าจะเข้ามาเป็นล็อต โดยชุดของเราสามารถสวมใส่ได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิด ไปจนถึง 3 ขวบ เด็กๆ สวมใส่ได้ทุกโอกาส และล่าสุดเราได้ผลิตเสื้อคุณแม่สไตล์ญี่ปุ่นออกมาด้วย เป็นเสื้อสำหรับให้นมลูก หรือสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน บางตัวก็เป็นลายเดียวกับชุดของลูกน้อย”

ส่วนแผนธุรกิจในอนาคต ทั้งคู่เตรียมหาหน้าร้านเพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสสินค้าจริงก่อนตัดสินใจซื้อ พร้อมเพิ่มกำลังการผลิตควบคู่กันไปด้วย จากขณะนี้เริ่มเกิดปัญหากำลังการผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า และสต๊อกสินค้าสำหรับการไปออกบูทแต่ละครั้ง โดยปัจจุบันกำลังการผลิตอยู่ที่ 200-300 ชุด/เดือน รวมถึงเพื่อรองรับตลาดต่างประเทศด้วย หลังจากมีลูกค้าชาวไต้หวันติดต่อขอเป็นตัวแทนจำหน่าย ขณะที่แผนการพัฒนาสินค้า จะเริ่มออกแบบชุดกิโมโนของเด็กผู้หญิง และกระโปรงของคุณแม่เพิ่มขึ้น

ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ประสบความสำเร็จของอดีตมนุษย์เงินเดือน โดยมีลูกชายตัวน้อย และสามีเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ทำให้เกิดเป็น เอิง เอเม่ อย่างในทุกวันนี้...







***สนใจติดต่อ 08-9218-0333 หรือที่ Facebook : Une_amee1995, Line : Une_amee1995***

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *