xs
xsm
sm
md
lg

บีโอไอผ่อนเกณฑ์ SMEs เปิดทางลงทุนในเขต ศก.พิเศษ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)  ครั้งที่ 4/2558 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เลขาฯ บีโอไอเผยนายกฯ เร่งผ่อนปรนเงื่อนไข SMEs ลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ และพื้นที่ชายแดนใต้ ลดเงินลงทุนจาก 1 ล้านบาท เหลือ 5 แสนบาท พร้อมอนุญาตนำเครื่องจักรมูลค่าไม่เกิน 10 ล้านบาทมาใช้ในโครงการได้ เผยอนุมัติส่งเสริมการลงทุน 17 โครงการ มูลค่ารวม 43,000 ล้านบาท

นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบีโอไอ ครั้งที่ 4/2558 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พิจารณาแนวทางส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ และพื้นที่ชายแดนภาคใต้ด้วยการผ่อนปรนเงื่อนไขสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าไปลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ จากเดิมกำหนดเงื่อนไขว่าต้องมีเงินลงทุนขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท ลดเหลือ 500,000 บาท และอนุญาตให้นำเครื่องจักรใช้แล้วมูลค่าไม่เกิน 10 ล้านบาท มาใช้ในโครงการได้ จากเดิมกำหนดให้นำเฉพาะเครื่องจักรเข้ามาติดตั้งเพื่อลงทุน

“ท่านนายกรัฐมนตรีกำชับที่ประชุมต้องการนำ 13 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษได้ภายในปี 2558-2559 จึงต้องการสนับสนุนให้เอกชนเข้ามาร่วมสร้างเศรษฐกิจตามแนวชายแดน” นางหิรัญญากล่าว

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้โครงการที่ลงทุนใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ นราธิวาส ยะลา ปัตตานี สตูล และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา (อ.จะนะ อ.เทพา อ.นาทวี อ.สะบ้าย้อย) ได้รับสิทธิประโยชน์ภายใต้นโยบายส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้รับการผ่อนปรนเงื่อนไขของกิจการที่จะลงทุนให้เหมือนกับกิจการเป้าหมายในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ รวมทั้งอนุญาตให้ใช้แรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือทุกพื้นที่ จากเดิมอนุญาตเฉพาะโครงการที่ลงทุนในนิคมหรือเขตอุตสาหกรรม การยกเว้นภาษีนำเข้าเพื่อผลิตสำหรับการส่งออก จาก 1 ปี เพิ่มเป็น 5 ปี

เลขาธิการบีโอไอเผยด้วยว่า สำหรับการส่งเสริมการลงทุนในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวครึ่งปีแรกได้อนุมัติยอดส่งเสริมการลงทุนไปแล้ว 412,000 ล้านบาท ผู้ประกอบการ 1,254 ราย จากเป้าหมายทั้งหมดปีนี้ 1.4 ล้านล้านบาท ส่วนเอกชนที่ได้รับการอนุมัติจากบีโอไอแล้วติดตามให้เริ่มลงทุนตามที่อนุมัติไปแล้วร้อยละ 80 ส่วนรายละเอียดส่งเสริมการลงทุนเตรียมแถลงอีกครั้งในสัปดาห์หน้า

สำหรับวันนี้ (10 ก.ค.) บอร์ดบีโอไออนุมัติส่งเสริมการลงทุน 17 โครงการ เงินลงทุนรวม 43,917.7 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นกิจการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือก รวมทั้งกิจกรรมสวนน้ำแห่งใหม่ที่ภูเก็ต เป็นสวนน้ำผสมผสานระหว่างอุทยานสัตว์แห่งแรกในไทย คาดว่าเริ่มก่อสร้างปี 2559

สำหรับ 17 โครงการ เงินลงทุนทั้งสิ้นรวม 43,917.7 ล้านบาท ประกอบด้วย
1. บริษัท เอ็นเอส บลูสโคป (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับส่งเสริมการลงทุนกิจการผลิตเหล็กแผ่นเคลือบอะลูมิเนียม สังกะสี และเหล็กแผ่นเคลือบสี เงินลงทุน 3,279.2 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดระยอง ทั้งนี้ บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตรายเดียวในประเทศไทยที่สามารถใช้เทคโนโลยีการชุบเคลือบอะลูมิเนียม สังกะสี และเคลือบสีในสายการผลิตที่ต่อเนื่องกัน ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดการใช้พลังงาน ลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน อีกทั้งผลิตภัณฑ์ของโครงการจะช่วยลดการนำเข้าเหล็กแผ่นเคลือบจากต่างประเทศด้วย

2. บริษัท เอสอีไอ ไทย อิเล็คทริค คอนดักเตอร์ จำกัด ได้รับส่งเสริมการลงทุนกิจการผลิตเหล็กลวดอะลูมิเนียมสำหรับผลิตสายไฟฟ้าและสายส่งสัญญาณของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในรถยนต์ เงินลงทุน 1,324 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดระยอง โดยโครงการนี้ถือเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ของประเทศ และมีแผนส่งพนักงานไปฝึกอบรมที่ประเทศญี่ปุ่น

3. บริษัท อาโอยาม่าไทย จำกัด ได้รับส่งเสริมการลงทุนกิจการผลิตสลักภัณฑ์ เช่น สลักเกลียว แป้นเกลียว สำหรับใช้เป็นชิ้นส่วนยานพาหนะ มูลค่าเงินลงทุน 2,193 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดระยอง โดยโครงการนี้จะช่วยลดการนำเข้าสลักภัณฑ์สำหรับยานพาหนะจากต่างประเทศ และมีแผนการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตของญี่ปุ่นแก่พนักงานคนไทย รวมทั้งมีความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในประเทศไทยในการให้ทุนการศึกษาและรับนักศึกษามาฝึกงานเพื่อพัฒนาฝีมือและทักษะวิชาชีพ

4. บริษัท ไทย เบเวอร์เรจ แคน จำกัด ได้รับส่งเสริมการลงทุนกิจการผลิตตัวกระป๋องอะลูมิเนียม เงินลงทุน 1,410 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดสระบุรี โดยโครงการนี้ช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องดื่มและบรรจุภัณฑ์ของประเทศ

โครงการที่ 5-7 บริษัท ไดเซล เซฟตี้ ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับส่งเสริมการลงทุนกิจการผลิตชิ้นส่วนยานพาหนะ ได้แก่ อุปกรณ์กำเนิดก๊าซสำหรับถุงลมนิรภัย จำนวน 3 โครงการ เงินลงทุนรวม 2,944.2 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดปราจีนบุรีทั้ง 3 โครงการ โดยถือเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้แก่อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ไทย ทำให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออกชิ้นส่วนด้านความปลอดภัยในรถยนต์

8. บริษัท โอตานิ เรเดียล จำกัด ได้รับส่งเสริมการลงทุนกิจการผลิตยางยานพาหนะ เงินลงทุน 6,555.8 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดนครปฐม โดยโครงการนี้เป็นการสนับสนุนให้ใช้วัตถุดิบยางในประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาลเรื่องการใช้ประโยชน์จากยางพาราในประเทศ โดยมีมูลค่าการใช้วัตถุดิบในประเทศถึงปีละกว่า 2,300 ล้านบาท

9. บริษัท มิลลิเมด จำกัด ได้รับส่งเสริมการลงทุนกิจการผลิตยาแผนปัจจุบัน เงินลงทุน 1,436.4 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดเชียงราย โครงการนี้เป็นการยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตยาแผนปัจจุบันของไทยให้ได้มาตรฐานการผลิตยาสากลตามข้อกำหนด GMP และการตรวจประเมินยาแห่งสหภาพยุโรป PIC/S

10. บริษัท เอสอาร์เอฟ อินดัสตรี้ส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้รับส่งเสริมการลงทุนกิจการผลิตฟิล์มพลาสติก และฟิล์มพลาสติกเคลือบโลหะ เงินลงทุน 2,429 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดระยอง โครงการนี้มีการใช้วัตถุดิบในประเทศไทยมูลค่าปีละกว่า 1,400 ล้านบาท และเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมอาหารและการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค

11. นายสมศักดิ์ ดารารัตนโรจน์ ได้รับส่งเสริมการลงทุนกิจการผลิตเยื่อกระดาษสำหรับผลิตกระดาษหนังสือพิมพ์ เงินลงทุน 5,500 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดมหาสารคาม โครงการนี้เป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมการพิมพ์ให้ใช้วัตถุดิบในประเทศมากขึ้น และช่วยสนับสนุนให้เกษตรกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีรายได้จากการป้อนวัตถุดิบทางการเกษตรให้โครงการ

12. บริษัท สยามเซลลูโลส จำกัด ได้รับส่งเสริมการลงทุนกิจการผลิตเยื่อกระดาษสำหรับผลิตกล่องกระดาษลูกฟูก เงินลงทุน 1,408.2 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยโครงการนี้มีส่วนช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตบรรจุภัณฑ์

13. บริษัท น้ำตาลสิงห์บุรี จำกัด ได้รับส่งเสริมการลงทุนกิจการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล และไอน้ำ เงินลงทุน 910 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดสิงห์บุรี โครงการนี้เป็นการสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนจากเชื้อเพลิงชีวมวล สอดคล้องกับแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (พ.ศ. 2555-2564)

14. บริษัทอู่ทองกรีนพาวเวอร์ จำกัด ได้รับส่งเสริมการลงทุนกิจการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล เงินลงทุน 1,665.8 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดสุพรรณบุรี โครงการนี้เป็นการสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนจากเชื้อเพลิงชีวมวล สอดคล้องกับแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (พ.ศ. 2555-2564)

15. บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ได้รับส่งเสริมการลงทุนกิจการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เงินลงทุน 8,500 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดพิษณุโลก โครงการนี้เป็นการสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนจากพลังงานแสงอาทิตย์ สอดคล้องกับแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (พ.ศ. 2555-2564)

16. MR. ROGER RENSCH REYNOLDS ได้รับส่งเสริมการลงทุนกิจการสวนสนุก เงินลงทุน 1,440 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดภูเก็ต โดยจะเป็นสวนสนุกประเภทสวนน้ำผสมผสานกับอุทยานสัตว์น้ำ และจะเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้แก่จังหวัดภูเก็ต รวมทั้งช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวให้แก่ประเทศด้วย

17. บริษัท เหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด อินดัสเตรียลเอสเตท 4 จำกัด ได้รับส่งเสริมการลงทุนกิจการเขตอุตสาหกรรม เงินลงทุน 2,922.1 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดระยอง โครงการนี้เป็นการพัฒนาพื้นที่ที่มีศักยภาพเพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมเป้าหมาย และทำให้ภาคตะวันออกของไทยมีความสามารถในการแข่งขันดึงดูดการลงทุนกับประเทศอื่นๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น