“ชญากุล หาญานุวัฒน์” (แพรว) และ “กุลนันท์ พิชิตธนบดีกุล” (ตาล) สองคู่ซี้ที่สำเร็จการศึกษาจากคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ช่วยกันปลุกปั้นผลิตภัณฑ์นาฬิกาข้อมือแบรนด์ “pikul” มีเอกลักษณ์สำคัญ หน้าปัดทำมาจาก “ไม้บีช” ในทวีปยุโรปถือว่าเป็นไม้แห่งความโชคดี เมื่อพกติดตัวไปจะพบเจอแต่สิ่งดีๆ
ไอเดียดังกล่าวเกิดขึ้นจากสองสาวอยากจะทำธุรกิจร่วมกันหลังเรียนจบ โดยต้องการให้เป็นธุรกิจที่ตอบเทรนด์คนยุคใหม่ที่อยากใกล้ชิดธรรมชาติอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้น จุดตั้งต้นโดยค้นหาวัตถุดิบธรรมชาติที่น่าสนใจเพื่อจะสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์
จนไปปิ๊งกับวัตถุดิบ “ไม้บีช” ซึ่งเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศอังกฤษ พบมากในแถบทวีปยุโรป และอเมริกาเหนือ เนื้อไม้ละเอียดมีสีขาวอมชมพูอ่อน เสี้ยนไม้ตรง เปลือกไม้มีสีเทาเหมือนหนังช้าง เมื่อเข้าฤดูหนาวตาไม้จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อน ในแถบยุโรปจึงยกย่องให้เป็น “ราชินีแห่งป่า” โดยชาวยุโรปมีความเชื่อว่า หากสลักคำอธิษฐานลงบนไม้บีชจะทำให้ความปรารถนาเป็นจริง หรือเพียงเก็บเศษไม้บีชไว้กับตัว เมื่อพกพาไปไหนจะนำแต่เรื่องราวดีๆ มาสู่ชีวิต
“หลังจากเราได้พบวัตถุดิบไม้บีช เลยเกิดความสนใจจะนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะสามารถพกพาไปได้ในชีวิตประจำวัน เลยคิดต่อว่าควรจะทำเป็นนาฬิกาข้อมือ เพราะคนทั่วไปสวมใส่ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว” ชญากุลเล่า และเสริมว่า
แม้ว่าในความเป็นจริงจะมีไม้มงคลหลายชนิด แต่เหตุที่เลือกไม้บีชเพราะคุณสมบัติที่เหมาะสมที่จะทำหน้าปัดนาฬิกา เช่น เนื้อไม้ละเอียด ลายไม้งดงาม เสี้ยนไม้ไม่มาก และสีสวย นอกจากนั้นยังแปลกใหม่ ในตลาดยังไม่เคยมีใครนำไม้ชนิดนี้มาทำเป็นนาฬิกามาก่อน
ส่วนด้านการออกแบบ คู่ซี้ช่วยกันสร้างสรรค์ขึ้นเองทั้งหมด เน้นให้ออกมาเรียบเท่ บ่งบอกสื่อถึงธรรมชาติ ควบคู่กับใส่ลวดลายใบไม้ต่างๆ ลงบนหน้าปัดนาฬิกา ซึ่งแฝงความเชื่อเรื่องมงคลเช่นกัน ได้แก่ ลายพวงมะกอ ลายเส้นพวงมะกอ ลายดอกรัก ลายเส้นดอกรัก ลายดอกกระดังงา และลายเส้นดอกกระดังงา
ทั้งนี้ ก่อนจะทำผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ได้ไปศึกษาวิธีการทำนาฬิกาอย่างละเอียด ทั้งเรื่องของกลไก และเทคนิควิธีการประกอบ เป็นต้น หลังจากนั้นมาช่วยลงมือทำกันเอง โดยอุปกรณ์นาฬิกาต่างๆ เลือกเป็นของนำเข้าจาก “ญี่ปุ่น” ซึ่งมีคุณภาพดี ส่วนวิธีทำลายบนหน้าปัดนาฬิกาใช้วิธียิงด้วยเลเซอร์
กุลนันท์เล่าว่า เบื้องต้นลงขันกันคนละประมาณหลักแสนบาทกับธุรกิจนี้ การทำตลาดระยะแรกไปออกบูทขายตามตลาดนัดกลางคืนเพื่อดูผลตอบรับจากลูกค้าแล้วนำกลับมาปรับปรุงสินค้า จากนั้นเริ่มขายผ่านออนไลน์ ในอินสตาแกรม pikul_hoonkan ควบคู่กับออกงานแสดงสินค้าต่างๆ เน้นเป็นงานเกี่ยวกับการออกแบบและสินค้าไลฟ์สไตล์ ตามด้วยวางขายในห้างสรรพสินค้า เช่น ดิเอ็มโพเรี่ยม และสยาม พารากอน เป็นต้น
นอกจากนั้น เมื่อเร็วๆ นี้ได้รับคัดเลือกจากสภาพัฒนาการค้าฮ่องกงให้ไปร่วมงาน Hong Kong Gifts & Premium Fair ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าของขวัญของชำร่วยที่ใหญ่ที่สุดของโลก จัด ณ ฮ่องกง ทำให้มีโอกาสพบเจอคู่ค้าต่างชาติ เพื่อจะเกิดการเจรจาซื้อขายในอนาคตต่อไปด้วย
นับถึงปัจจุบันนาฬิกาแบรนด์ “pikul” มีทั้งหมด 3 ชุด มีทั้งแบบสายหนัง สายผ้า และสายเหล็ก ราคาขายเรือนละ 850 บาท 1,500 บาท 1,800 บาท และ 2,200 บาท (แล้วแต่รุ่น) การผลิตยังทำในรูปแบบแฮนด์เมด ส่วนกลุ่มผู้ซื้อมีตั้งแต่เด็กวัยรุ่น วัยทำงาน จนถึงผู้ใหญ่ที่ชื่นชอบเกี่ยวกับแฟชั่น และเมื่อรู้ถึงแนวคิดที่แฝงมากับนาฬิกาเกี่ยวกับไม้มงคล ยิ่งทำให้เกิดความสนใจสินค้ามากยิ่งขึ้น
เนื่องจากในท้องตลาดมีนาฬิกาแบรนด์ต่างๆ อยู่มากมาย ทั้งในและต่างประเทศ ตั้งแต่แบรนด์เล็ก และแบรนด์ยักษ์ใหญ่ โอกาสสำหรับรายจิ๋วอย่างแบรนด์ “pikul” จะแทรกตัวแจ้งเกิดในวงการไม่ใช่เรื่องง่าย โดยสองสาวยอมรับในจุดนี้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม พวกเธอระบุว่า ในการทำตลาดพยายามจะไม่ไปแข่งขันกับแบรนด์เนม หากจะพยายามนำเสนอเป็นสินค้าทางเลือกใหม่สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการสินค้าแฟชั่นที่แตกต่าง และหาซื้อได้ในราคาที่ไม่สูงเกินไป เป็นงานแฮนด์เมด แถมยังมีจุดขายด้านเสริมความโชคดีด้วย
นี่เป็นไอเดียคนรุ่นใหม่ที่สร้างสรรค์สินค้าแปลกใหม่ได้อย่างน่าสนใจ
ติดต่อสินค้าได้ที่ 08-3096-5514, 08-4539-3505 และ IG: pikul_hoonkan
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *