“ก๋วยเตี๋ยวเป็ดกะละมัง” ร้านอาหารที่เปิดให้บริการ โดยสวนสัตว์เพื่อนเดรัจฉาน สวนสัตว์เล็กบนพื้นที่ 200 ตารางวา บนถนนรามอินทรา ซอย 5 ของ “นายพิสิษฐ์ ณ พัทลุง” ประธานมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่า และพรรณพืชแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ โดยรายได้ที่เกิดจากร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดแห่งนี้ นำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลสวนสัตว์ เนื่องจากทางสวนสัตว์ได้เปิดให้เข้าชมฟรี
นายพิสิษฐ์ เล่าว่า "ได้เปิดสวนสัตว์เพื่อนเดรัจฉาน มาจนถึงปัจจุบันนี้ เกือบ 12 ปี ที่ผมตัดสินใจเปิดสวนสัตว์แห่งนี้ เพราะส่วนหนึ่งต้องการช่วยเหลือสัตว์ที่ป่วย หรือ สัตว์ที่ถูกทอดทิ้ง และนำมาอนุบาล และสร้างพื้นที่ โดยออกแบบกรง และสถานที่ให้สัตว์เหล่านี้ ได้อยู่อย่างสบาย เหมือนกับเขาได้อยู่ในป่า และด้วยพื้นที่ที่มีจำกัด เราจึงรับได้เฉพาะสัตว์ขนาดเล็ก ส่วนที่มาของชื่อเพื่อนเดรัจฉาน มาจาก คำว่า "เดรัจฉาน" ตามความหมายสื่อถึง สัตว์ทุกชนิดที่มีกระดูกสันหลังขนานกับพื้นโลก ซึ่งไม่ใช่คำหยาบอะไร แต่คนไทยเอาคำนี้ไปแปลว่า เป็นคำหยาบ
ส่วนที่มาตัดสินใจเปิดร้านอาหาร เพราะต้องการนำรายได้ส่วนหนึ่งมาเป็นค่าใช้จ่าย และการเปิดสวนสัตว์ สิ่งจำเป็นคือ ต้องมีเครื่องดื่ม และอาหารไว้บริการคนที่มาชมสวนสัตว์ ซึ่งในช่วงแรกเปิดเป็นร้านอาหาร ชื่อร้านเพื่อนเดรัจฉาน ได้รับความสนใจจากชื่อที่ใช้ แต่ที่ร้านอาหารอยู่ได้ ไม่ใช่การมีสวนสัตว์ให้ชมฟรี แต่สิ่งสำคัญคือรสชาติของอาหาร ต้องยอมรับว่าช่วงเปิดร้านอาหารก็ขายได้ดีมาก แต่หลังจากเจอน้ำท่วม ก็เลยปิดกิจการร้านอาหาร และเพิ่งจะมาเปิดใหม่ เมื่อเดือนมิถุนายน ปีที่ผ่านมา เป็น "ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ด"
นายพิสิษฐ์ บอกว่า การเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวในยุคนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีร้านก๋วยเตี๋ยวเปิดขายกันจำนวนมาก หลายพันหลายหมื่นร้าน การที่จะไปแข่งกับเขาได้จะต้องมีจุดขาย และโดยส่วนตัว ผมเป็นคนชอบของเก่า ก็เลยซื้อกะละมังเคลือบแบบโบราณ มาเป็นภาชนะใส่ก๋วยเตี๋ยว แทนชามกระเบื้องทั่วไป และถ้าใช้กะละมังเล็กๆ ธรรมดาก็ไม่แปลก จึงเลือกใช้กะละมังขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย และด้วยความใหญ่ของกะละมังทำให้ก๋วยเตี๋ยวที่ใส่ลงไปก็ต้องมากตามไปด้วย
ในส่วนของราคา ก็ไม่ได้ใหญ่ตามกะละมัง เพราะทางร้านเขาคิดเพียงแค่ชามละ 55 บาท ซึ่งเมื่อเทียบปริมาณ กับราคาแล้ว ก็คงเรียกได้ว่า เป็นอีกร้านหนึ่งที่น่าสนใจ สำหรับคนที่ต้องการก๋วยเตี๋ยวอร่อย และกินอิ่มแบบเต็มๆ ในชามเดียว เจ้าของบอกว่า อยากให้กินกันอิ่มๆ แบบท้องแตกกันไปเลย แต่พอถามถึงกำไร ทาง “คุณพิสิษฐ์” บอกว่า ตอนนี้ก็ยังไม่ได้กำไรอะไรมาก การจะได้กำไร ก็คงจะต้องขายจำนวนมาก
“จุดมุ่งหมายผมอยากให้คนไทยได้มาเรียนรู้เรื่องราวของสัตว์ มากกว่า เพราะในช่วงชีวิตหนึ่งคนเราจะมีโอกาสไปเที่ยวและชมสวนสัตว์ สักกี่ครั้งในชีวิต ส่วนรายได้จากการขายอาหารก็นำเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลสวนสัตว์เหล่านี้ ปัจจุบันก็ยังมีคนนำสัตว์มาทิ้งให้เราดูแลมากขึ้น ซึ่งมาจากการที่มีสัตว์แปลกออกมาจำหน่าย และมีคนซื้อไปเลี้ยงเพิ่มมากขึ้น และพอรู้สึกว่าไม่ต้องการ หรือมีปัญหาในการเลี้ยงก็นำมาทิ้ง แต่ด้วยพื้นที่จำกัดเราก็ไม่สามารถรับไว้ทั้งหมดได้ แต่อาศัยนำไปกระจายตามสวนสัตว์ต่างๆ ที่มีพื้นที่ และมีความพร้อมมากกว่า”
นายพิสิษฐ์ บอกว่า ที่ทางร้านเลือกใช้กะละมัง มาเป็นจุดขายส่วนหนึ่งมองว่า น่าจะเป็นทางหนึ่งในการช่วยประชาสัมพันธ์ร้านได้ เพราะหลังจากนำกะละมัง มาเป็นภาชนะ ลูกค้ามักจะถ่ายรูปและนำไปแชร์ในโซเชียลมีเดีย ทำให้คนได้รู้จักร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดกะละมังมากขึ้น และสิ่งที่ตามคือ การได้ประชาสัมพันธ์ร้าน เพราะมีรายการทีวีสนใจมาถ่ายทำ ทำให้มีคนรู้จักร้านก๋วยเตี๋ยวกะละมัง สวนสัตว์เพื่อนเดรัจฉานเพิ่มมากขึ้น เพราะยุคนี้ การแข่งขันร้านก๋วยเตี๋ยวมีสูง ถ้าไม่มีจุดขายโอกาสที่จะขายได้คงจะยาก
ส่วนลูกค้าที่มากินก๋วยเตี๋ยวกะละมังมีหลากหลาย มีทั้งที่มาชมสวนสัตว์ และแวะชิม หรือ คนทั่วไปที่ตั้งใจมากิน และยังมีลูกค้าประจำ เพราะเห็นว่า ชามใหญ่กินได้อิ่ม แต่ถึงจะชามใหญ่แต่ก็มีลูกค้ากินถึง 2 ชาม หรือ ถ้าเป็นเด็ก ทางร้านจะมีชามกะละมังเล็กไว้บริการเด็ก และนอกจากก๋วยเตี๋ยวทางร้านก็ยังมีข้าวหน้าเป็ด ซึ่งทางร้านก็จะใส่เป็นจานสังกะสีเช่นกัน ส่วนการหาซื้อกาละมังมาใช้ ปัจจุบันแม้ว่าจะมีผู้ผลิตออกมาน้อย และส่วนใหญ่สินค้าที่ผลิตออกมาใหม่ คุณภาพไม่ดี ดังนั้น เลือกซื้อแต่กาละมังคุณภาพดี ซึ่งเลิกผลิตไปแล้วแต่ก็ยังพอหาซื้อได้บ้าง จากผู้ผลิตที่เหลือค้างสต็อกอยู่
ใครชื่นชอบสัตว์ และต้องการกินก๋วยเตี๋ยวเป็ดกะละมัง ก็แวะเวียนไปกันได้ ที่สวนสัตว์เพื่อนเดรัจฉาน ก๋วยเตี๋ยวเป็ดกะละมัง ในซอยรามอินทรา 5 ซึ่งเปิดให้เข้าชมฟรี สอบถาม รายละเอียดได้ที่ โทร. 0-2552-2111
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *