ธุรกิจความงามติดหนึ่งใน 3 ธุรกิจดาวรุ่งของปี 2558 และคาดว่าจะยังคงติดอันดับดาวรุ่งอย่างนี้ไปอีกหลายปี เพราะปัจจุบันไลฟ์สไตล์ของคนไทยเปลี่ยนไป รูปร่างหน้าตากลายเป็นส่วนหนึ่งของความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน นอกเหนือจากความสามารถ วันนี้เรามาอัปเดตเทรนด์การทำสวย จากหมอเบอร์หนึ่งด้านความงามของเมืองไทย อย่าง “นายแพทย์ พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ” หรือ “หมอบอย” เจ้าของศูนย์นวัตกรรมความงามกรุงเทพ AIC
ปัจจุบันศูนย์ความงามที่ให้บริการในประเทศไทยมีการพัฒนาไปมาก และสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ การทำศัลยกรรมที่ต้องพึ่งมือหมอผ่าตัด จนทำให้คนที่เข้ารับการรักษาต้องเจ็บปวด ทรมาน เหมือนในอดีตนั้นเริ่มลดน้อยลงมาก เพราะมีบริการทางเลือก ที่เรียกว่า “กึ่งศัลยกรรม” เข้ามาแทนการผ่าตัด ซึ่งทำให้ผู้ที่ต้องการสวย หล่อ ด้วยมือหมอผ่านการทำศัลยกรรม เลือกที่จะเข้ามารับบริการได้บ่อยเท่าที่ต้องการ
ทั้งนี้ นายแพทย์ พุฒิพงศ์บอกกับเราว่า การทำกึ่งศัลยกรรมได้รับความนิยมอย่างมากในวงการความงาม โดยเฉพาะเกาหลี รวมถึงประเทศไทยก็ถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการขยายตัวด้านความงามสูงมาก และกึ่งศัลยกรรม ก็ได้รับความสนใจอย่างมากในกลุ่มคนที่จะเข้ามาในธุรกิจนี้ และคนที่จะเข้ามารับบริการ เนื่องจากการทำศัลยกรรมแบบกึ่งศัลยกรรม แตกต่างจากการทำศัลยกรรมผ่าตัด เพราะทุกอย่างไม่ได้อยู่กับเราอย่างถาวา การทำกึ่งศัลยกรรมมีระยะเวลา และจะค่อยสลายไปตามเวลา ไม่เกิน 6 เดือน ถึง 1 ปี ก็ต้องมาเริ่มทำกันใหม่
นายแพทย์ พุฒิพงศ์กล่าวว่า เดิมหมอก็เป็นแพทย์ด้านศัลยกรรม และทำการผ่าตัดเสริมสวยให้คนไข้มาเป็นจำนวนมาก แต่สิ่งที่เราเห็นคือ คนไข้ต้องอยู่กับใบหน้าที่เราผ่าตัดไปอย่างที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ไม่ว่าจะถูกใจหรือไม่ และเมื่อมีเทคโนโลยีการทำศัลยกรรมในแบบกึ่งศัลยกรรมเข้ามา หมอเองก็เลยได้ไปศึกษาอย่างจริงจัง และได้นำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้กับทางศูนย์นวัตกรรมความงาม AIC และที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคือ การร้อยไหม และตามมาด้วยเทคโนโลยีอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ การอัปผิวหน้าให้เด้ง ฉ่ำน้ำ เนียนใส แบบเกาหลี ฯลฯ และที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา คือ การทำเลเซอร์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะไม่ได้อยู่ถาวร อายุประมาณไม่เกิน 6 เดือน ในขณะที่ค่าบริการรักษาไม่ได้ถูกกว่าการผ่าตัด แต่ความพึงพอใจของลูกค้ามีมากกว่า
ด้วยเหตุนี้เอง การทำกึ่งศัลยกรรมจึงถูกใจทั้งคนเข้ารับการรักษา และศูนย์ความงามเพราะนอกจากไม่ต้องใช้หมอที่เชี่ยวชาญมากนัก และลูกค้าก็จะแวะเวียนกลับมาใช้บริการอีก ปัจจุบันศูนย์ความงามในเมืองไทยส่วนใหญ่จึงหันมาใช้การใช้บริการแบบกึ่งศัลยกรรม การเติบโตของตลาดกึ่งศัลยกรรมมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัด
สำหรับเทรนด์ความงามในปี 2558 ถึง 2559 หมอพุฒิพงศ์มองว่า การพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีจะเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้ตลาดศูนย์ความงามมีการขยายตัวมากขึ้น เพราะเทคโนโลยี เครื่องมือ จะเข้ามาเป็นตัวช่วยที่ทำให้คุณหมอที่ยังไม่มีประสบการณ์ สามารถดำเนินการให้บริการได้เช่นเดียวกับหมอมืออาชีพ และต่อไป การเดินทางไปทำศัลยกรรมที่เกาหลี ของคนทั่วไปในหลายประเทศก็อาจจะเปลี่ยนเป็นประเทศไทยแทน ซึ่งขณะนี้ก็มีหลายประเทศ โดยเฉพาะรอบบ้านเราก็เลือกที่จะเข้ามาทำสวยในประเทศไทยแทนการไปเกาหลี
ทั้งนี้ ในส่วนของเทรนด์ทำหน้าตัวใหม่ที่น่าจะมาแรงในมุมมองของหมอพุฒิพงศ์ คือ นวัตกรรมอัปผิวหน้าให้เด้งฉ่ำน้ำ และเนียนใสแบบสาวเกาหลี ในช่วงปลายปี 2557 ที่ผ่านมามีนวัตกรรมมาจากเกาหลีที่เรียกว่า Skin Booster หรือการอัปหน้าให้เด้งฉ่ำน้ำและเนียนใส แบบที่สาวเกาหลีกำลังนิยม และน่าจะเป็นเทรนด์การรักษาผิวหน้าของคนไทยในช่วงปี 2558 ซึ่งศึกษารายละเอียดของการอัปหน้าฉ่ำน้ำก่อนตัดสินใจไปทำได้จากหนังสือ ตั้งหลักก่อนทำสวย ของหมอ
อย่างไรก็ตาม นายแพทย์ พุฒิพงศ์ได้ฝากไปยังคนไทยและทุกคนที่ต้องการจะทำสวย ว่าควรที่จะต้องตั้งหลักให้ดี เพราะปัจจุบันปัญหาของการทำศัลยกรรมมีมาก ส่วนใหญ่มาจากศูนย์ความงามที่ไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้น ถ้าเรามีความรู้อยู่บ้าง ก่อนการเข้ารับการบริการดูแลด้านความงาม ก็จะมีส่วนอย่างมากในการช่วยให้เราเสียเงินไปอย่างคุ้มค่า และสวย หล่อได้อย่างต้องการ และเพื่อเป็นวิทยาทานให้เหล่าคนที่ต้องการสวย หล่อ ผ่านมือหมอ นายแพทย์ พุฒิพงศ์อาศัยประสบการณ์การเป็นหมอความงามมากว่า 20 ปีเขียนหนังสือที่มีชื่อว่า “ตั้งหลักก่อนทำสวย” ออกมาเพื่อให้ความรู้แก่ทุกคนก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรมด้วย
โทร. 0-2287-1200
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *