xs
xsm
sm
md
lg

ห่วงรื้อองค์กร สสว.ยกเข่ง กระทบโครงการหนุน SMEs ไม่คืบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายชาวันย์ สวัสดิ์-ชูโต
อดีตรอง ผอ.สสว.ห่วงการปรับโครงสร้างองค์กรใหญ่แบบฟ้าแลบ สะเทือนงานส่งเสริมเอสเอ็มอีต้องหยุดชะงัก เพราะเหมาเปลี่ยนยกเข่งจนพนักงานหัวหมุน คนเก่าถูกโละ คนใหม่ขาดพื้นฐาน ชี้ยกเครื่องแล้วไม่ดีขึ้น ผู้สั่งต้องรับผิดชอบ

นายชาวันย์ สวัสดิ์-ชูโต อดีตรองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า จากกรณีที่มีคำสั่งปรับโครงสร้างองค์กรของ สสว. ใหม่ทั้งหมด ไล่ตั้งแต่ย้ายระดับผู้บริหารระดับรองผู้อำนวยการทั้ง 3 คน นอกจากตนแล้ว ยังประกอบด้วย นางสาวปณิตา ชินวัตร และนายชัยพร ชยานุรักษ์ ไปสู่ตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักงาน และปล่อยตำแหน่งว่างไว้ จนไม่เหลือตำแหน่งรอง ผอ.เลย รวมถึงปรับย้ายและหมุนตำแหน่งพนักงานในส่วนปฏิบัติงานแทบจะใหม่ทั้งหมด

กรณีดังกล่าว ส่วนตัวเป็นห่วงต่อการขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต่างๆ ของ สสว. ที่มีกว่า 41 โครงการ มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันล้านบาท อาจจะต้องล่าช้าออกไป เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่จะสานงานต้องเสียเวลาศึกษารายละเอียดใหม่ทั้งหมด ในขณะที่ปีงบประมาณสั้นลงเรื่อยๆ สิ้นสุดต้องเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2558 เกรงว่าในที่สุดโครงการต่างๆ จะไม่สำเร็จ และไม่สามารถส่งเสริมเอสเอ็มอีได้บรรลุเป้าหมาย

“ผมคิดว่าเป็นเจตนาดีของท่านรักษาการ ผอ.สสว. (นางสาววิมลกานต์ โกสุมาส) ที่อยากจะปรับโครงสร้างองค์กร แต่ “การเปลี่ยนม้ากลางศึก” ผมค่อนข้างจะเหนื่อยแทนคนที่จะต้องมารับผิดชอบงานต่อ เพราะต้องมาคลำใหม่ทั้งหมด และงานบางอย่างปรับจนไม่เห็นโครงเดิม หลายสำนักถูกยุบไปเลย เช่น ด้านดูแลกองทุนร่วมลงทุน ที่ร่วมทุนกับเอกชนอยู่กว่า 40-50 ราย ถูกยุบเหลือเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่แค่คนเดียว แทบจะไม่มีทางดำเนินงานต่อได้” นายชาวันย์เสริม

นายชาวันย์เผยด้วยว่า ในส่วนงานประจำ สสว.คงจะพอเดินต่อไปได้ แต่สิ่งที่น่าห่วงที่สุดคือการทำโครงการให้ความช่วยเหลือเอสเอ็มอีต้องกระทบแน่ๆ ในขณะที่ทางรัฐบาลประกาศให้การส่งเสริมเอสเอ็มอีเป็นวาระแห่งชาติ แต่ 7-8 เดือนที่ผ่านมากลับยังไม่มีผลงานอย่างเป็นรูปธรรม แม้แต่ที่ท่านนายกรัฐมนตรีแถลงผลงานรัฐบาลยังไม่มีการกล่าวถึงผลงานในส่วนส่งเสริมเอสเอ็มอีเลย ดังนั้น เมื่อเกิดการปรับองค์กรใหญ่เช่นนี้อีก หากผลงานยังไม่เป็นที่ประจักษ์ ผู้ที่ดำเนินการปรับครั้งนี้จะต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบ

เขาให้ข้อมูลด้วยว่า เท่าที่ผ่านมา สสว.เคยปรับโครงสร้างองค์กรมาแล้วถึง 4 ครั้ง ในระยะเวลาประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบัน สสว.มีพนักงานอยู่ประมาณ 180 คน แต่ส่วนใหญ่เกินครึ่งจะถูกหมุนไปสู่ตำแหน่งใหม่ รวมถึงมีการเสนอขอเพิ่มอัตรา 60 คน รวมเป็น 240 คน

ทั้งนี้ จากสถานการณ์ดังกล่าวกระทบต่อขวัญและกำลังใจของพนักงาน สสว.อย่างยิ่ง เพราะการปรับดังกล่าวเดิมได้มีการพูดคุยว่าจะให้สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) มาพิจารณาดูความสามารถและความเหมาะสมของพนักงานแต่ละคนเสียก่อนที่จะย้ายสู่ตำแหน่งใหม่ แต่ในความเป็นจริงกลับไม่ได้ทำตามนั้น

รวมถึงพนักงานยังค่อนข้างคลางแคลงใจในประเด็นที่รักษาการ ผอ.สสว.แจ้งว่า การปรับโครงสร้างดังกล่าวเป็นไปตามคำสั่งของคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เฉพาะกิจ) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งในความเป็นจริง ทางบอร์ดไม่น่าจะรู้ถึงรายละเอียดการสั่งย้ายพนักงาน สสว.แต่ละคนได้ หากไม่ได้รับการเสนอจากทาง สสว.ขึ้นไป

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น