สบร.เร่งปั้นโอทอปคนรุ่นใหม่ ใช้ความคิดสร้างสรรค์พัฒนาและสร้างธุรกิจ ดึงสุดยอดเอสเอ็มอีต้นแบบถ่ายทอดประสบการณ์ พร้อมจุดประกายให้เดินตาม
ดร.อภิชาติ ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักโครงการและจัดการความรู้ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ สบร. กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนา “จุดประกายคนรุ่นใหม่ ก้าวสู่ธุรกิจ OTOP สร้างสรรค์” ว่า จากแนวโน้มความต้องการสินค้าและผลิตภัณฑ์ในปัจจุบัน ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญต่อสินค้าและผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องพัฒนาปรับปรุงสินค้าอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้สอดรับกับความต้องการของตลาดเป้าหมาย
ดังนั้น สบร.ในฐานะที่เป็นหน่วยงานด้านการส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันจึงจัดสัมมนาดังกล่าวขึ้น เพื่อเป็นเวทีพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ตลอดจนถ่ายทอดความรู้และสร้างแรงบันดาลใจจากต้นแบบเอสเอ็มอีที่ประสบความสำเร็จสูง จากการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาสินค้าสู่เอสเอ็มอีรายอื่นๆ
ดร.อภิชาติกล่าวด้วยว่า งานสัมมนาในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยศึกษาแนวโน้มความต้องการผลิตภัณฑ์ OTOP ของตลาดในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ เพื่อเจาะตลาดเป้าหมายได้อย่างตรงจุด
สำหรับวิทยากรในงานนี้ ได้แก่ นางสาวศิริวรรณ สุขขี เจ้าของแบรนด์สุขขี แฮนดิคราฟท์ นักออกแบบ นักการตลาด และนักบริหาร ที่ผลักดันให้สินค้าของใช้ของตกแต่งบ้านจากเถาวัลย์จนได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ขณะเดียวกันยังได้รับการคัดสรรเป็นสุดยอด OTOP ระดับ 5 ดาวของภาคกลาง มีกลุ่มลูกค้าหลักในประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา และประเทศแถบยุโรป มียอดจำหน่ายปีละกว่า 10 ล้านบาท
นายศิรัส ตันติยาพงศ์ ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ Yodyoko (ยอดโยโกะ) แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นชื่อดังทั้งในและต่างประเทศ เจ้าของรางวัลต่างๆ มากมาย เช่น แชมป์ “คอตตอน ยูเอสเอ ดีไซน์ ชาลเลนจ์ 2008” และรางวัลชนะเลิศจากการออกแบบและตัดเย็บชุดราตรี “สุพีม่า ดีไซน์ คอนเทสต์” เวทีประกวดชุดผ้าฝ้ายคุณภาพดีที่สุดในโลกที่เมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งปัจจุบันมีผลงานสร้างสรรค์เสื้อผ้าที่มีความเป็นเอกลักษณ์จากการเขียนลายด้วยมือ และการนำผ้าไทยมาประยุกต์เข้ากับดีไซน์ที่สวยงามเหมาะกับวิถีชีวิตยุคใหม่ และ 3. นายพิสิษฐ์ วีระไวทยะ เจ้าของกิจการบริษัท อะกรีไลฟ์ จำกัด และบริษัท เอิร์ธบอร์น จำกัด ผู้บุกเบิกผลิตภัณฑ์น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์รายแรกๆ ของไทย และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากมะพร้าว จนประสบความสำเร็จอย่างสูง สามารถส่งออกกว่า 10 ประเทศทั่วโลก ทั้งทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย โดยมียอดขายสูงถึงปีละ 100 ล้านบาท
ด้านนางสาวศิริวรรณกล่าวว่า กลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีมุมมองที่แตกต่าง สามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์ควบคู่ไปกับการนำเอาเทคโนโลยีด้านต่างๆ ทั้งการติดต่อสื่อสารและการผลิตเข้ามาสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าได้ตรงตามทิศทางความต้องการของผู้บริโภค สร้างผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นและแปลกใหม่ รองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งถือเป็นโอกาสทองในการเพิ่มยอดขายและสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศ
ส่วนนายศิรัสกล่าวว่า ความคิดสร้างสรรค์ของผู้ประกอบการรุ่นใหม่จะช่วยให้ตลาดOTOP ไทยสดใสมากขึ้น เนื่องจากคนกลุ่มนี้มีศักยภาพในการผนวกเอาไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ไปผลิตเป็นสินค้าที่มีรูปลักษณ์แปลกใหม่โดนใจผู้บริโภค การสร้างคนรุ่นใหม่เข้าสู่การเป็นผู้ประกอบการ OTOP ไม่เพียงช่วยกระตุ้นตลาดให้เติบโตมากขึ้นจากการแข่งขันพัฒนาสินค้าให้มีความโดดเด่นสวยงามและมีคุณภาพ แต่ขณะเดียวกันในแง่ของผู้บริโภคเองก็ได้มีตัวเลือกมากขึ้นในการซื้อสินค้าที่สวยงามและมีคุณภาพ
ขณะที่นายพิสิษฐ์กล่าวว่า การพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ในยุคดิจิตอลจำเป็นต้องพึ่งพากำลังจากคนรุ่นใหม่ที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูลทิศทางและแนวโน้มความต้องการของตลาด เพื่อนำมาพัฒนามุมมองต่อยอดผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของผู้บริโภค และการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความทันสมัย สามารถขายได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยไม่ต้องเสียเงินลงทุนพัฒนารูปแบบหลายครั้ง ในภาพรวมจึงช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อย่างมาก นอกจากนี้การใช้อินเทอร์เน็ตยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างสะดวกรวดเร็วสามารถช่วยเพิ่มยอดการจำหน่ายและสร้างผลกำไรได้มากขึ้น
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *