อีกหนึ่งตัวอย่างของผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จจากการใช้สื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ก ด้วยการเจาะจงหาลูกค้าเป้าหมายขายอาหารเสริม แบรนด์ “FitWhey” แก่สุภาพบุรษรักกีฬาเพาะกาย พร้อมยังต่อยอดด้วยการใช้โลกออนไลน์เร่งยอดขายและขยายฐานลูกค้าได้อย่างแม่นยำ
คุณดนุพล ชิลลี่ หรือ “แดนนี่” ผู้ก่อตั้ง FitWhey อาหารเสริมเพื่อสุภาพบุรุษ เริ่มให้ความสนใจกีฬาเพาะกายเป็นครั้งแรกในวัยเพียง 18 ปี โดยในขณะนั้นเขาเพิ่งเริ่มไปใช้บริการศูนย์ฟิตเนสเพื่อออกกำลังกาย
“ในช่วงปี 2549 มีข้อมูลภาษาไทยเกี่ยวกับการเล่นเวตอยู่น้อยมาก ส่วนผลิตภัณฑ์อาหารเสริมก็มีราคาแพงและหาซื้อได้ยาก ผมมองเห็นโอกาสที่จะเข้ามาเติมเต็มความต้องการในจุดนี้ จึงตัดสินใจตั้ง FitWhey ขึ้น” คุณแดนนี่กล่าว
ในช่วงแรกคุณแดนนี่เลือกที่จะใช้เว็บบอร์ดต่างๆ เป็นช่องทางในการโฆษณาและเสนอขายสินค้า ก่อนที่จะพบว่าคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีความมั่นใจในการซื้อสินค้าออนไลน์เท่าใดนัก นอกจากนี้ คุณแดนนี่ยังต้องเจอกับปัญหาการชำระเงินช้า โดยเฉพาะกับคำสั่งซื้อจากลูกค้าประเภทขายส่ง
“ปี 2551 เป็นช่วงที่โลกอินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งผมมองว่าเป็นจังหวะเหมาะที่จะเปิดเว็บไซต์ fitwhey.com ขึ้นมาเอง” คุณแดนนี่เล่า “เป้าหมายหลักของผมในตอนนั้นคือการพัฒนารูปแบบธุรกิจที่ยั่งยืน มีเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้บริโภคมากกว่ากลุ่มผู้ค้าส่ง และการสื่อสารในวงกว้างเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการซื้อสินค้าออนไลน์แบบใหม่ที่สะดวกกว่าที่เคย”
เว็บไซต์ใหม่นี้ช่วยให้ FitWhey มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทั้งในช่องทางออนไลน์และหน้าร้าน แต่ขณะเดียวกันกลับพบว่าเว็บไซต์ยังขาดเครื่องมือในการเข้าหาและโต้ตอบกับผู้บริโภคโดยตรง ด้วยเหตุนี้เอง คุณแดนนี่จึงตัดสินใจหันมาใช้ Facebook เพื่อแก้ปัญหาตรงนี้
FitWhey เปิดเพจ Facebook ขึ้นในปี 2554 โดยนับจากนั้นเป็นต้นมาคุณแดนนี่และทีมงานรวม 5 คนได้ทำการสื่อสารผ่านทางเพจอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เครื่องมือของ Facebook เพื่อช่วยในการจับกลุ่มเป้าหมายหลัก ซึ่งได้แก่กลุ่มคนไทยวัยรุ่นและวัยกลางคนที่มีความสนใจในกิจกรรมกีฬาและการออกกำลังกาย นอกจากนี้ ทีมงาน FitWhey ยังได้สร้างสรรค์คอนเทนต์ใหม่ที่น่าสนใจมากมาย ทั้งคำแนะนำในการออกกำลังกาย เกร็ดความรู้ หรือแม้แต่คลิปวิดีโอสั้นๆ ซึ่งช่วยพัฒนาฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง และยกระดับให้แบรนด์ FitWhey กลายเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดอาหารเสริมเพื่อการออกกำลังกายของไทย
“การจะสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับธุรกิจของเรานั้น เราต้องสร้างจุดนัดพบสำหรับคนที่มีความสนใจหรือแนวคิดเหมือนๆ กัน ไม่ใช่เพียงแค่สร้างยอดไลก์หรือสนใจแค่จำนวนแฟนเท่านั้น” คุณแดนนี่อธิบาย “การสื่อสารโต้ตอบกันและจัดกิจกรรมที่สร้างการมีส่วนร่วมจึงมีบทบาทที่สำคัญมาก โดยนอกจากการโพสต์ข้อความและภาพแล้ว เรายังใช้สื่อวิดีโอเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบหลักในกลยุทธ์ของเราอีกด้วย เนื่องจากคลิปวิดีโอเหล่านี้สามารถจุดประกายให้ลูกค้าเข้ามาโต้ตอบกับเรา และเป็นตัวเปิดประเด็นสนทนาที่มีประสิทธิภาพมาก”
“เราคอยตรวจสอบให้มั่นใจอยู่เสมอว่าทุกคำถามและข้อสงสัยของลูกค้าได้รับคำตอบอย่างทันท่วงที เพราะเราถือว่าลูกค้าทุกคนเป็นสมาชิกคนสำคัญในชุมชนของเรา ผมมองว่านี่เป็นเหตุผลที่ลูกค้าของเรามั่นใจใน FitWhey ซึ่งความมั่นใจนี้ส่งผลกระทบออกไปในรูปของแรงสนับสนุนที่เกิดจากการบอกต่อแบบปากต่อปากของลูกค้า”
“การเปิดเพจบน Facebook ถือเป็นหนึ่งในการตัดสินใจทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเรา” คุณแดนนี่กล่าวเสริม “ภายในเวลาเพียงปีเดียว ยอดขายของ FitWhey เพิ่มสูงขึ้นอย่างน้อยสิบเท่าตัว จากเจ็ดหลักขึ้นมาเป็นแปดหลัก”
หลังจากที่ได้ทดสอบกลยุทธ์หลายรูปแบบในการโฆษณาผ่าน Facebook คุณแดนนี่บอกว่าการที่แคมเปญโฆษณาบน Facebook จะประสบความสำเร็จได้นั้น เนื้อหาของโฆษณาแต่ละชิ้นควรตรงกับจุดมุ่งหมายของแคมเปญนั้นๆ
“คอนเทนต์ในโฆษณาของเราจะต้องน่าสนใจและไม่ซ้ำไปซ้ำมา” คุณแดนนี่อธิบาย “ที่สำคัญไม่แพ้กันคือการปรับเปลี่ยนคอนเทนต์และความถี่ของโฆษณาตามจุดประสงค์ของแคมเปญ ซึ่งจุดนี้ถือเป็นข้อได้เปรียบของการโฆษณาออนไลน์ผ่าน Facebook เนื่องจากการโฆษณาผ่านสื่อในรูปแบบอื่นอาจมีราคาสูงและไม่สามารถปรับเปลี่ยนอะไรได้เลย เรามองว่าแคมเปญโฆษณาเป็นกระบวนการอย่างหนึ่งที่ต้องพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ในระยะแรกเราสื่อสารในมุมกว้างเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ เมื่อใกล้วันจัดงานยิ่งขึ้น เราจะปรับเนื้อหาให้มี ‘call-to-action’ หรือคำเชิญชวน เพื่อสร้างความสนใจและกระตุ้นยอดขายในกลุ่มลูกค้าของเรา”
ทีมงาน FitWhey ประสบความสำเร็จในการจัดงาน FitWhey Classic 3.0 การแข่งขันเพาะกายระดับชาติซึ่งจัดขึ้นในกรุงเทพฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2557 โดยได้สร้างกิจกรรม (Create Event) ควบคู่ไปกับการโฆษณาบน Facebook มีผู้เข้าร่วมงานรวมทั้งสิ้นกว่า 2,500 คน โดยใช้งบประมาณโฆษณาเพียง 8,000 บาท
สำหรับอนาคตนั้น FitWhey ตั้งเป้าจะเติบโตขึ้นเป็นแบรนด์อาหารเสริมเพื่อการออกกำลังกายอันดับหนึ่งในตลาดอาเซียนภายในไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ด้วยการขยายตลาดไปยังประเทศลาว กัมพูชา พม่า และอินโดนีเซีย โดยมี Facebook เป็นช่องทางหลักในการทำตลาด
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *