กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จับมือกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บุกเจเจมอลล์ซ้ำ จับจริงผู้ค้างาช้าง พบผู้ค้าเลิกค้างาช้างเพิ่มขึ้น พร้อมสนับสนุน! ลด ละ เลิก ตัดตอนต้นทางปัญหา เตรียมลงดาบผู้ค้างาช้างที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หวังผลระยะยาวช่วยแก้ปัญหาค้างาช้างผิดกฎหมายในไทย
นายชัยณรงค์ โชไชย รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์ตามแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทย คนที่ 1 เปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ) ได้มอบหมายให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผอ.ศปทส.ตร.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลุยลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณแหล่งค้างาช้างที่สำคัญในเขตกรุงเทพมหานคร และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญทั่วประเทศ เพื่อเร่งจัดระเบียบผู้ค้างาช้างและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันลงพื้นที่บริเวณสวนจตุจักร ศูนย์การค้าเจเจมอลล์ ศูนย์การค้ารอยัลริเวอร์ ท่าพระจันทร์ ดิโอลด์สยามพลาซ่า ฯลฯ รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญทั่วประเทศ เพื่อแจ้งเตือนให้ผู้ค้างาช้างทำการขึ้นทะเบียนผู้ค้างาช้างและปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายไปแล้ว 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 20-23 กันยายน 2557 และวันที่ 5-9 พฤศจิกายน 2557
ล่าสุดได้ร่วมกันลงพื้นที่บริเวณศูนย์การค้าเจเจมอลล์ซ้ำเพื่อแจ้งเตือนผู้ค้างาช้างที่ยังไม่ได้จดทะเบียนพาณิชย์ให้ดำเนินการจดทะเบียนให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ.ทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. 2499 และจัดทำบัญชีตาม พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ. 2543 พร้อมสำรวจร้านค้างาช้างที่เคยแจ้งเตือนให้จดทะเบียนพาณิชย์ไปแล้ว รวมทั้งประชาสัมพันธ์และให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายการค้างาช้างฉบับใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ในปี พ.ศ. 2558
ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่า มีผู้ประกอบการค้างาช้างทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 339 ราย หลังลงพื้นที่แจ้งเตือนและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง มีผู้ค้างาช้างเลิกประกอบการค้างาช้างจำนวน 86 ราย คิดเป็นร้อยละ 25.4 และไม่พบร้านค้างาช้าง/ปิดร้าน จำนวน 50 ราย คิดเป็นร้อยละ 14.7 สะท้อนถึงมาตรการจัดระเบียบผู้ค้างาช้างที่เข้มงวดของหน่วยงานภาครัฐประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ
สำหรับผู้ค้างาช้างที่ยังคงเพิกเฉยไม่ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังในอัตราโทษสูงสุด นอกจากนี้ พร้อมสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปลด ละ เลิก การบริโภคงาช้างอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะเป็นการตัดตอนต้นทางของปัญหาเกี่ยวกับการค้างาช้างที่ผิดกฎหมายของไทยที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน
มาตรการที่เข้มงวดดังกล่าวจะเป็นส่วนสำคัญในการควบคุมปริมาณผู้ค้างาช้าง และแก้ปัญหาการค้างาช้างที่ผิดกฎหมายของประเทศไทยในระยะยาว โดยเฉพาะการค้างาช้างแอฟริกา และงาช้างป่า ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความสำคัญในระดับสูงสุดต่อการควบคุมการค้างาช้างในประเทศให้เป็นระบบ และหามาตรการสกัดกั้น การลักลอบค้างาช้างที่ผิดกฎหมายมาโดยตลอด พร้อมทั้งเข้มงวดต่อการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยหวังว่า “ไซเตส” จะเข้าใจถึงความพยายามในการแก้ไขปัญหาการลักลอบค้างาช้างผิดกฎหมายของประเทศไทย และไม่ใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการค้าสินค้าเชิงพาณิชย์ทุกประเภทที่อยู่ภายใต้ความควบคุมของไซเตส อันจะส่งผลกระทบในภาพรวมต่อภาคการส่งออกสินค้าของไทยในอนาคต และทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยเสียหายนับพันล้านบาท
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *