“ราสินี กลแถม” คือ มนุษย์เงินเดือนที่ทำงานประจำมานานกว่า 18 ปี ในตำแหน่งวิศวกรแหล่งน้ำ ด้วยงานประจำที่ค่อนข้างเครียด เพราะต้องอยู่กับการวิเคราะห์ และออกแบบระบบชลประทาน เมื่อมีเวลาว่าง สิ่งที่ราสินีชอบทำ คือ การอบขนมเค้ก
แรกๆก็เริ่มต้นจากการอบกินเองเป็นงานอดิเรก ต่อมาก็เริ่มนำเค้กที่ทำเองไปเป็นของฝากให้ญาติ และเพื่อนๆ ซึ่งทุกคนต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ขนมเค้กฝีมือของเธอนั้นไม่ธรรมดา ทว่า อร่อยในระดับที่ทำขายได้เลยทีเดียว
“ทีแรกเราไม่ได้มองไปที่การทำขายเลย มันเริ่มต้นจากการที่เราเป็นคนชอบกินขนมเค้ก ก็ศึกษาขั้นตอน วิธีการทำด้วยตัวเอง เค้กที่ออกมาก็จะได้รสชาติอย่างที่เราชอบ พอทำจนชำนาญ เวลาเอาไปให้เพื่อนๆหรือญาติพี่น้องลองชิม เขาก็จะบอกว่ามันรสชาติดี แต่งหน้าเค้กก็สวย ทำไมไม่ลองทำขายดู เพื่อเป็นรายได้พิเศษ”
จากแรงเชียร์ดังกล่าว ในช่วงปี 2553 เริ่มต้นจากการนำเค้กที่ทำไปวางขายใน Multiply ที่ในตอนนี้ปิดตัวไปแล้ว รวมถึงใน Facebook ซึ่งกลายมาเป็นช่องทางการขายหลักในปัจจุบัน
“ผลตอบรับมันดีมากๆ มีออเดอร์เข้ามาตลอด เดือนหนึ่งหลายชิ้น ที่พีคที่สุดคือ 7 ชิ้นต่อวัน เรียกว่าแทบไม่ได้นอนเลย พอเช้ามาก็ต้องรีบตื่นไปทำงานอีก ทำให้เราคิดว่าคงทำเค้กควบคู่ไปกับงานประจำไม่ไหวแล้ว จึงตัดสินใจลาออก เพื่อมาทำธุรกิจเต็มตัวในช่วงปี 2555 โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่า ต้องทำเค้กให้ได้ 3 ชิ้นต่อวัน”
ช่องทางการขายหลักของเธอ คือ การสร้างหน้าร้านบน Facebook ภายใต้ชื่อ Rasinee Bakery ซึ่งปัจจุบันนี้มียอดคนกดไลค์หลักหมื่นคนแล้ว โดยมากจะเป็นลูกค้าประจำ ที่สั่งเค้กให้กับเพื่อนฝูง และคนในครอบครัวช่วงวันเกิด รวมถึงเทศกาลสำคัญ และโอกาสพิเศษต่างๆ
“ในระยะแรกที่ยังทำเป็นงานอดิเรก ก็ยังเป็นแค่การแต่งหน้าเค้กธรรมดา ซึ่งไม่ต้องใช้เวลาในการทำมากนัก แต่สัก 3 ปีที่แล้ว เทรนด์ของเค้ก 3 มิติ จากต่างประเทศก็เริ่มเข้ามาในบ้านเรา คนที่อยู่ในธุรกิจนี้ก็ต้องมีการปรับตัว เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้
ตอนนี้เค้กของที่ร้านจะแบ่งเป็น 3 ประเภทหลักๆ อย่างแรก คือ เค้กทั่วไป ที่ใช้การแต่งหน้าเค้กด้วยครีมหรือแยม รวมไปถึงคัพเค้ก ราคาขายจะเริ่มต้นที่ 2 ปอนด์ 800 บาท
แบบที่ 2 เป็นงานปั้นตุ๊กตา ซึ่งก็ถือว่าเป็น 3 มิติเหมือนกัน คือ ตัวเค้กจะเป็นเค้กกลม หรือสี่เหลี่ยมทั่วไป แต่จะใช้น้ำตาลปั้นเพื่อตกแต่งบนตัวเค้ก โดยมากรูปแบบที่ได้รับความนิยม คือ การให้ปั้นตุ๊กตาเป็นตัวเจ้าของวันเกิด ถ้าเป็นอาชีพที่มีเครื่องแบบก็จะใส่ชุดนั้น เช่น เชฟ, คุณหมอ หรือไม่ก็เป็นคู่รัก และครอบครัว
“บางคนทำงานอยู่มูลนิธิร่วมกตัญญู เขาก็จะให้ปั้นเป็นรถร่วมกตัญญูวางคู่กับตัวคนด้วย หรือบางคนทำธุรกิจขายประตู ก็ให้ทำเป็นรูปประตู แล้วมีเจ้าของวันเกิดนั่งอยู่ข้างหน้า โดยที่ลูกค้าจะต้องเอารูปเจ้าของวันเกิดมาให้เรา เพื่อใช้เป็นแบบในการปั้นน้ำตาล ที่จะเหมือนทั้งใบหน้า ทรงผม และการแต่งกาย”
ส่วนองค์ประกอบ รายอะเอียดอื่นๆบนเค้กนั้น ลูกค้าบางคนก็ออกแบบมาให้เรา ว่าอยากให้วางแบงก์, วางเหรียญทอง, กล่องของขวัญ, กระเป๋าแบรนด์เนม, หีบสมบัติ หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยง บางคนเขานึกไม่ออก ก็จะบอกว่าให้เราเป็นคนออกแบบให้น้ำตาลปั้นพวกนี้กินได้หมด แต่เราก็จะบอกลูกค้าให้ระวังหน่อย เพราะอาจจะมีการเสียบลวด เสียบไม้ลงไปบ้างในบางจุด แต่บางคนเขาก็เก็บตุ๊กตาปั้นไว้ ไม่ยอมกินเพราะเสียดาย ซึ่งถ้าจะเก็บไว้ให้ได้นาน ก็ต้องเอาไปส่องไฟให้แห้งดีก่อน แล้วก็เก็บไว้ในกล่องสุญญากาศ มีซองกันชื้น เพราะถ้าเอาเข้าตู้เย็น มันจะกลายเป็นไอน้ำเกาะน้ำตาล”
ส่วนแบบที่ 3 นั้น จะเป็นเค้ก 3 มิติ ที่มีการตัดรูปทรงของขนมเค้ก ให้เป็นรูปร่างตามแบบที่ลูกค้าต้องการ
“คนที่จะทำเค้ก 3 มิติออกมาได้สวย จะต้องมีความเข้าใจในเรื่องของสัดส่วน ต้องมองมันออก ว่าซ้ายยังไง ขวายังไง ถึงจะได้สมดุล แล้วตัดเค้กให้มันได้รูปทรงตามที่ต้องการ ต้องดูสเกลให้ออก ถ้ามองไม่ออกก็ทำได้นะ แต่ทำออกมาแล้วมันจะไม่สวย ไม่เหมือนของจริง เพราะว่ามันไม่ได้สัดส่วน”
“ด้วยพื้นฐานของเราที่เป็นวิศวกร ที่อยู่กับการออกแบบอยู่แล้ว มองหน้า มองหลัง มันมองภาพรวมออก ตรงนี้อาจจะเป็นความได้เปรียบที่เราเรียน Drawing มาด้วย ทำให้มองภาพออก ไม่ว่าจะออกแบบเป็นรูปอะไร และทำชิ้นงานออกมาได้สัดส่วนเหมือนของจริง”
รูปแบบที่ได้รับความนิยมมากสุด ถ้าผู้หญิงสั่งเค้กให้ผู้ชาย มักจะเลือกแบบเป็นรถยนต์ รุ่นที่ผู้ชายขับอยู่ หรืออาจจะเป็นรถในฝันที่อยากได้ อย่างเช่น รถปอร์เช่ ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 3,200 บาท ขณะเดียวกัน ถ้าเป็นผู้ชายสั่งเค้กให้ผู้หญิง มักจะเลือกแบบเป็นกระเป๋าแบรนด์เนม ยี่ห้อดังๆที่ผู้หญิงใช้อยู่ หรือกระเป๋าในรุ่นที่ผู้หญิงอยากได้ ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 2,900 บาท
“รูปแบบแปลกๆก็จะมีขวดยา มีฝาปิด ลูกค้าสั่งไปให้เจ้าของวันเกิดที่เป็นบริษัทขายยา หรืออย่างคอนโดมิเนียม เพราะเค้กเหล่านี้เป็นเค้กทรงสูง เวลาทำก็จะยากขึ้น ที่เคยทำมาแล้วยากที่สุด น่าจะเป็นเค้กรถโฟร์วิลที่ใช้เวลาทำนานกว่า 6 ชั่วโมง ไม่รวมเวลาอบเค้กนะ เพราะต้นแบบเป็นรถแต่งที่โหลดต่ำ และมีสติ๊กเกอร์ติดมากมาย ก่อนหน้านี่เราก็ต้องใช้เวลาไปศึกษาก่อนว่ารถยนต์ตัวนี้มันเป็นยังไง แล้วก็ต้องทำสติ๊กเกอร์มาแปะรถ ต้องดึงขนาดให้เท่ากับรถที่เราจะทำ เลยใช้เวลานาน
นอกนั้นก็จะเป็นเค้กตลกๆ อย่างเค้กหน้าอก หรือเค้กอวัยวะเพศของผู้ชาย ที่คู่สามีภรรยาทำให้แก่กัน โดยมากลูกค้าจะส่งภาพมาให้ดูก่อนจะได้เข้าใจตรงกัน แต่ถ้าไม่มีภาพ ก็ต้องมาอธิบาย หรือไม่เราก็ต้องหาภาพตัวอย่างจากเค้กฝรั่งส่งให้ดูก่อน แล้วก็คำนวณราคาให้
อีกทั้ง ต้องสั่งเค้กล่วงหน้าประมาณ 5 วัน ส่วนมากลูกค้าจะให้แท็กซี่ไปส่ง ซึ่งคิดค่าบริการตามระยะทางเป็นแบบเหมาจ่าย แท็กซี่เขาอาจจะชาร์ทเพิ่มไปนิดหนึ่ง ตอนนี้มีแท็กซี่อยู่ 3 คันที่ส่งเค้กให้เราประจำ เพราะส่วนใหญ่เค้กจะออกทุกวันอยู่แล้ว โดยเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 3 ชิ้น
สำหรับเค้ก 3 มิติ ทั้ง 2 แบบ ราคาจะเริ่มต้นที่ 2,700 ไปจนถึง 10,000 บาท ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของเค้ก ความยาก ความง่ายของรูปแบบ โดยเริ่มต้นที่ขนาด 2 ปอนด์ขึ้นไป เราจะไม่ทำขนาด 1 ปอนด์ เพราะใช้เวลาในการทำนานพอๆกับเค้กชิ้นใหญ่ แต่ราคาถูกกว่า
แต่เค้ก 3 มิติบางตัวเราก็ไม่ได้ขายเป็นปอนด์ แต่ขายตามขนาดความยาว อย่างรถยนต์ ก็จะบอกลูกค้าว่าขายที่ความยาว 9 นิ้ว ถ้าจะเอาใหญ่กว่านี้ ก็ต้องเพิ่มเงิน ราคานิ้วละเท่าไรก็ว่าไป เพราะด้วยรูปทรงแล้วมันเทียบเป็นปอนด์ได้ยาก ถ้าเป็น 3 มิติ มันจะต้องคำนวณหาปริมาตร แล้วเทียบกับพิมพ์กลม ซึ่งมันก็จะยากและวุ่นวาย เพราะรูปทรงของเค้กมันก็ไม่ได้เป็นเรขาคณิต ก็เลยขายเป็นนิ้ว แต่ถ้าเป็นกระเป๋าส่วนใหญ่จะขนาดเดียว คือ 2 ปอนด์กว่า เราทำแต่ขนาดนี้ เพราะว่ากล่องใส่เค้กมีอยู่ขนาดเดียว”
สำหรับในเรื่องของคู่แข่งนั้น ราสินีมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาในการทำธุรกิจ และแต่ละร้านก็มีจุดเด่น หรือเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป เป็นการเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายให้แก่ลูกค้า อย่างจุดเด่นของ Rasinee Bakery ก็จะอยู่ที่คุณภาพของเนื้อเค้กที่มีความนุ่ม และรสชาติกลางๆไม่หวานมาก ซึ่งถูกใจคนรุ่นใหม่ ที่หันมาดูแลในเรื่องของสุขภาพมากขึ้น
รวมถึงความสวย และสมจริงของตัวขนมเค้ก 3 มิติ ทั้งเรื่องของรูปทรง และตุ๊กตาปั้น ที่เน้นความสมจริงของใบหน้าคน แตกต่างจากร้านใหญ่ๆ หรือร้านดังๆ ที่เน้นความน่ารัก ในลุคการ์ตูน มากกว่าความสมจริง
“ผลตอบรับในปัจจุบัน ก็ต้องบอกว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ คือ ขายเค้กได้เฉลี่ยวันละ 3 ชิ้น เป็นอย่างต่ำ นอกจากช่วงเทศกาลหยุดยาว ลูกค้าก็อาจจะหายไปบ้าง แต่พอหลังช่วงเทศกาลก็มีออเดอร์กลับมาเหมือนเดิม”
เธอระบุด้วยว่า ลูกค้าไม่ได้มองว่าเค้ก 3 มิติ ที่มีราคาแพงกว่าเค้กทั่วไปนั้นมันเป็นความฟุ่มเฟือย เพราะเป็นการสั่งทำให้คนพิเศษ ในวันพิเศษ หรือวันสำคัญเท่านั้น อย่างพ่อแม่สั่งให้ลูก ภรรยาสั่งให้สามี และที่สำคัญเขาได้มีส่วนร่วมในการออกไอเดียเค้ก ว่าต้องการแบบไหน เป็นเค้กที่มีชิ้นเดียวในโลก และยังควมคุมค่าใช้จ่ายได้เองด้วย
เป้าหมายในการทำอาชีพต่อจากนี้ไป ก็คงรับออเดอร์จากทาง Facebook ไปเรื่อยๆ เรามองว่าการมีหน้าร้านมันไม่จำเป็น เพราะเป็นเค้กที่ผลิตขึ้นตามออเดอร์ของลูกค้าอยู่แล้ว ทำให้เรามีต้นทุนในการทำธุรกิจต่ำ
แต่ในอนาคตถ้าธุรกิจขยายตัวไปมากกว่านี้ ก็อาจจะต้องหาเช่าพื้นที่ในเมืองเป็นจุดบริการรับส่งเค้กสำหรับลูกค้า เพราะบ้านเราอยู่ไกล (หนองจอก-มีนบุรี) ลูกค้าไม่สะดวกที่จะมารับเค้กเอง การใช้บริการแท็กซี่ก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายที่สูง ในกรณที่ลูกค้าอยู่ไกลจากเรามาก”
ใครสนใจอยากแลกเปลี่ยนประสบการณ์หรือจับคู่ธุรกิจกับราสินี ติดต่อได้ที่ 081 315 1655 หรือwww.facebook.com/rasineebakery
@@@@ ข้อมูลโดยนิตยสาร SMEs PLUS @@@@
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *