โซเชียลมีเดีย ช่องทางแจ้งเกิดให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่หลายต่อหลายธุรกิจมาแล้ว และวันนี้ก็ยังทรงพลังอยู่ ทำให้หน่วยงานรัฐฯ เห็นความสำคัญ รุกเติมเต็มความรู้ผู้ประกอบการ ซึ่งกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นหนึ่งในนั้น มีการเปิดอบรมไปแล้วกว่า 115 ราย ส่งผลธุรกิจมียอดกดไลก์เพิ่ม 100% ยอดขายรวมกว่า 90 ล้านบาท
วันนี้ 'ทีมงานผู้จัดการออนไลน์' จึงนำตัวอย่างความสำเร็จผู้ประกอบการ 3 รายมาให้เรียนรู้กลยุทธ์ธุรกิจ เพื่อเพิ่มยอดขายจากเครื่องมือทางการตลาดที่มีศักยภาพที่สุด ณ เวลานี้
**Japan Outlet shop ผู้นำเข้าเสื้อผ้าแฟชั่นจากญี่ปุ่น**
ช่องทางขายเสื้อผ้าแฟชั่น เห็นได้ทั่วไปในเว็บไซต์ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าที่ผู้ประกอบการออกแบบ และตัดเย็บเอง หรือรับมาจำหน่ายต่อ เรียกได้ว่าจำนวนคู่แข่งในสินค้าประเภทนี้มีค่อนข้างเยอะ ทำให้เจ้าของธุรกิจต้องเลี่ยงรูปแบบสินค้าเดิม สร้างความต่าง อย่างเพจในเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า “Japan Outlet shop” พร้อมคำอธิบายรายละเอียดธุรกิจอย่างสั้นๆ ได้ใจความว่า ผู้นำเข้าเสื้อผ้าแฟชั่นจากประเทศญี่ปุ่น ในรูปแบบขายปลีกและขายส่ง และแบบชั่งน้ำหนัก
ว่าแต่ที่บอกว่าเสื้อผ้าชั่งน้ำหนักนั้นเป็นอย่างไร คุณจารุกิตติ์ พัฒนชนนันทร์ เจ้าของธุรกิจอธิบายว่า เป็นการชั่งเสื้อผ้าขายเป็นขีด ตกขีดละ 40 บาท ซึ่งเป็นเสื้อผ้ามือสอง เสื้อผ้ามือสองเกรดเอ เสื้อผ้าใหม่จากต่างประเทศ และเสื้อผ้าแบรนด์แนม
เสื้อผ้าชั่งน้ำหนัก ที่เห็นก็ว่าแปลกแล้ว น่าจะสร้างยอดขายได้ไม่น้อย แต่ในช่วงเริ่มต้นธุรกิจกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะคุณจารุกิตติ์บอกว่า ก่อนที่เขาจะเข้าร่วมโครงการ ECIT Social Media For SMEs ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเพื่อเข้ารับการอบรมเทคนิคการขายสินค้าผ่านโซเชียลมีเดียนั้น มียอดคนกดไลก์ประมาณ 395 คนในระยะเวลาปีกว่าๆ ถือว่าน้อยมาก จึงต้องการทำให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักมากกว่านี้ ทั้งในแง่การเพิ่มยอดขาย และเป็นที่รู้จักในกลุ่มคนจำนวนมาก จึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการดังกล่าว
สิ่งที่ได้จากการอบรมนอกจากจำนวนไลก์ที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังได้ปรับเปลี่ยนวิธีคิดในการดำเนินธุรกิจด้วย เพราะเดิมทีคิดว่าหากขายของที่ดี ราคาที่ลูกค้าจับต้องได้ก็น่าจะโอเคแล้ว แต่ความจริงแล้วเป็นแค่ส่วนหนึ่ง เพราะยังมีอีกหลายปัจจัยช่วยเพิ่มยอดขายได้ เช่น
ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อยอดขายที่เพิ่มขึ้น - ปรับเปลี่ยนหน้าร้านเพื่อให้ดึงดูดลูกค้า และจดจำได้ง่ายขึ้น - เพิ่มช่องทางการขายจากค้าปลีกอย่างเดียวเป็นค้าส่งด้วย โดยใช้แฟนเพจ (Fanpage) เป็นตัวช่วยโปรโมต - จัดชุด startup ช่วยผู้ค้ารายย่อย ที่อยากเริ่มขายสินค้าของเรา โดยมีสินค้าพร้อมราวและไม้แขวน ในราคาไม่เกิน 5,000 บาท - จัดทำเว็บไซต์ของร้าน เพื่อเป็นฐานข้อมูลหลักในการสื่อสารกับลูกค้า - ภายในปี 2558 จะต้องขยายสาขาเพื่อครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล อีก 8 สาขา |
**Bangkok Wedding Planner & Studio**
แม้ธุรกิจด้านเวดดิ้ง (Wedding) จะเป็นเพียงงานที่จับกลุ่มคนเฉพาะ หรือเป็นช่วงเวลา ไม่ใช่ธุรกิจแมส แต่การแข่งขันก็สูงพอสมควร ทำให้ผู้ประกอบการบริษัท Bangkok Wedding Planner & Studio จำกัด “นายธิติพงษ์ โง้วประสิทธิ์” ไม่มองข้ามช่องทางโปรโมตธุรกิจผ่านโซเชียลมีเดีย โดยก่อนเข้าร่วมโครงการ ECIT ได้ทำการประชาสัมพันธ์ผ่าน Google Adword และทำ SEO มาโดยตลอด แต่ในปีนี้เขาพบว่าการตลาดบนสื่อออนไลน์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว คนหันไปให้เวลากับเฟซบุ๊ก และโซเชียลมีเดียอื่นๆ มากขึ้น คนเลือกที่จะกดฟอลโล (Follow) แล้วรับข่าวสารทางโซเชียลมีเดีย มากกว่าที่จะวิ่งไปที่แต่ละเว็บไซต์แล้วเข้าไปดูข่าวสารนั้นๆ
ทำให้เขาคิดว่าวิธีเดิมๆ ที่เคยทำกับธุรกิจในช่วงที่ผ่านมาอาจไม่เหมาะสม หรือดีที่สุดกับยุคสมัยปัจจุบัน จึงต้องมองหาเครื่องมือและคอร์สอบรมที่จะช่วยพัฒนาให้ธุรกิจมีศักยภาพและตอบสนองต่อตลาดในปัจจุบันได้
“ก่อนหน้านี้เราทำตลาดในหลายโซเชียลมีเดีย แต่ไม่มีตัวไหนจริงจังสักตัว แต่หลังจากเข้าอบรม จึงเริ่มวางตำแหน่งและเนื้อหาของโซเชียลแต่ละตัวให้ชัดเจนขึ้น รวมถึงเนื้อหาต้องเหมาะสม ปรับลดให้เหลือเพียงสื่อที่เราจะทำการตลาดและโฟกัสเท่านั้น ได้แก่ เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ไลน์ และยูทิวบ์ เป็นต้น”
โดยการปรับเปลี่ยนข้อมูลในโซเชียลมีเดียที่ได้ผลชัดเจนหลังจากการเข้าฝึกอบรม มีดังนี้
ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อยอดขายที่เพิ่มขึ้น 1. เว็บไซต์ (Website) - เปลี่ยนหน้าตาเว็บไซต์ใหม่ให้เข้ากับนิสัยของคนที่เปลี่ยนไป คือให้เป็น Respondsive Design เข้าได้กับทุกอุปกรณ์ (มือถือ แท็บเล็ต) ไม่ใช่เพียงเปิดสวย สะดวกบนเครื่องพีซี (PC) เท่านั้น 2. เฟซบุ๊ก (Facebook) - มีการวางตารางกำหนดระยะเวลาการโพสต์ข้อความ และกำหนดคาแรกเตอร์ของแบรนด์ให้ชัดเจนว่าจะสื่อให้คนทั่วไปรับรู้แบรนด์ว่าเป็นอย่างไร เนื้อหาแบบไหนที่เหมาะจะอยู่บนหน้าเพจ 3. อินสตาแกรม (Instagram) - ก่อนหน้านี้ได้มีการโพสต์มั่ว รูปภาพไม่เต็มสี่เหลี่ยมจัตุรัส ก๊อบปี้ภาพมาจากแหล่งอื่นมาบ้าง ทำเองบ้าง พื้นหลังขาวบ้าง ดำบ้าง แต่หลังจากอบรมได้เปลี่ยนวิธีการโพสต์ใหม่ทั้งหมด ด้วยการออกแบบ Content เพื่อลง IG โดยเฉพาะเป็นการสร้างแบรนด์ให้ธุรกิจ |
ล่าสุด ' Bangkok Wedding Planner & Studio' มียอดไลค์บน Facebook Fan Page จาก 20,000 และมีอัตราเติบโตต่ำมานานในช่วงที่รับการอบรมจนถึงปัจจุบัน มียอดไลค์บนหน้าเพจเพิ่มขึ้นเป็น 30,000 ไลค์ หรือกว่า 50% ในขณะเดียวกันรายได้หน้าร้านเติบโตขึ้นเสมือนเป็น Hi Season ตลอดทั้งปี
**The Lobby bakery อาหาร ของหวาน โฮมเมด**
ปัจจุบันคู่แข่งด้านขนมหวานและเบเกอรีมีไม่น้อย ทั้งที่พยายามสร้างความต่าง และครบวงจรเพื่อให้อยู่เหนือคู่แข่ง แต่ยอดขายก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทำให้เจ้าของธุรกิจ The Lobby bakery “ปิยะนุช ธูปถมพงศ์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท Modern BIZ NETWORK จำกัด เลือกใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางเพิ่มยอดขาย
“The Lobby” ร้านขนมที่มีเมนูให้เลือกหลากหลาย ทั้งของหวาน เครื่องดื่ม หรือแม้แต่อาหารอิตาเลียนและอาหารจานเดียว ซึ่งอาหารและขนมทำเองทุกอย่างทุกขั้นตอน รับประกันความสด สะอาด ปลอดภัยแก่ผู้บริโภค เลือกใช้วัตถุดิบเกรดเอเพื่อให้อาหารทุกอย่างมีรสชาติที่ดีที่สุด และเมนูของร้านจะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล ทำให้อาหารในแต่ละเดือนแตกต่างกัน นอกจากนี้ยังโดดเด่นในเรื่องบรรยากาศน่านั่งเหมาะสำหรับการทำงานแบบสงบ ภายในร้านตกแต่งแบบเรียบง่ายโล่ง โปร่งสบาย ตั้งอยู่ในโซนจุฬาฯ-สามย่าน กลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่กำลังหามุมอ่านหนังสือ
สำหรับการใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียให้เกิดประโยชน์แก่ธุรกิจนั้น เธอยอมรับว่าก่อนหน้านี้ได้ใช้เฟซบุ๊กเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้า แต่ไม่มีรูปแบบการทำที่ชัดเจน ไม่มีเว็บไซต์ เนื่องจากเป็น SMEs จึงไม่มีงบประมาณจำนวนมากเพื่อใช้สำหรับการประชาสัมพันธ์ร้านค้าและสินค้า ซึ่งการใช้โซเชียลมีเดียน่าจะเป็นทางเลือกเดียวที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยใช้งบประมาณต่ำ
โดยกลยุทธ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรมโครงการ ECIT Social Media For SMEs ทำให้ธุรกิจเติบโตขึ้นจากโซเชียลมีเดีย คือ
ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อยอดขายที่เพิ่มขึ้น 1. ต้องจัดเตรียมรูปภาพตามรูปแบบของเครื่องมือโซเชียลมีเดียแต่ละชนิด 2. รู้จักการใช้สัญลักษณ์ # 3. รูปแบบการตอบคำถามในเฟซบุ๊ก 4. เรียนรู้การทำเว็บเพจของร้านโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 5. รู้จักการใช้ Pinterest ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Timline ใน Facebook 6. มีเพื่อนในเครือข่ายที่เข้าร่วมอบรมด้วยกัน ทำให้ช่วยแชร์ประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจได้ |
เห็นได้ชัดถึงพลังโซเชียลมีเดียมีประสิทธิภาพต่อธุรกิจ หากใช้ให้เป็นและถูกวิธี ช่วยเพิ่มยอดขายเกินคาด ช้าไม่ได้แล้ว สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการลดต้นทุนด้วยเครื่องมือทันสมัยแต่ราคาเบาๆ
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *