ใครได้มีโอกาสเยือนภาคเหนือ ของติดไม้ติดมือที่ขาดไม่ได้ เห็นจะเป็นแคบหมูกับน้ำพริกหนุ่ม เมนูยอดฮิตของใครหลายคน แต่ด้วยอายุของน้ำพริกค่อนข้างสั้น แถมยังต้องเก็บในตู้เย็นตลอดเวลา ทำให้ไม่สะดวก ส่งผลผู้ผลิตน้ำพริกหนุ่มมากว่า 20 ปี คิดพัฒนาน้ำพริกหนุ่มอบแห้ง เพื่อง่ายต่อการขนส่ง และพร้อมรับประทานเพียงเติมน้ำต้มสุกลงไป กับแบรนด์ “อุ้ยคำ”
ในฐานะที่เป็นทายาทธุรกิจ “นายสถิตคุณ สิงหลักษณ์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เนื้อทิพย์ จำกัด อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ต้องเข้าสานต่ออาชีพของพ่อแม่ ที่ทำแหนมหมูยอเนื้อทิพย์ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2506 ต้องมาเข้ามาสานต่อการผลิตหมูยอ ในปี 2512 กระทั่งในปี 2526 เปิดร้านขายของฝากสำหรับนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งส่งสินค้าไปร้านขายของฝากในหลายจังหวัดด้วย เช่น เชียงใหม่ เชียงราย และอีกหลายจังหวัดในภาคเหนือ รวมถึงจังหวัดในภาคใต้ด้วย และผลิตอาหารที่เป็นของฝากเลื่องชื่ออีกหลายเมนู หนึ่งในนั้นคือ น้ำพริกหนุ่มบรรจุถุงพลาสติกใส แช่เย็นอย่างดี จนกลายเป็นสินค้าขายดีของร้าน
แต่ด้วยข้อจำกัดของผลิตภัณฑ์ที่มีอายุสั้น และมีน้ำหนักค่อนข้างมาก ส่งผลให้มีต้นทุนในการขนส่ง จึงคิดพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อแก้ไขข้อจำกัดเหล่านี้ จากแนวคิดที่เขาวางแผนธุรกิจไว้ถึงขั้นส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่ลำพังการคิดคนเดียวคงจะเป็นไปได้ช้า เขาตัดสินใจเข้าร่วมโครงการอบรมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 เป็นกิจกรรมการเชื่อมโยงงานวิจัยสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ (พื้นที่ภาคเหนือตอนบน 1) ภายใต้โครงการอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป เมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา
โดยได้รับคำแนะนำให้ลองทำน้ำพริกหนุ่มอบแห้ง อาศัยกระบวนการผลิตที่เรียกว่า Freeze dry หรือการเอาความชื้นออกจากวัสดุที่แช่แข็งแล้ว ในขณะที่มันยังคงอยู่ในสภาพเดิม ทำให้ยังรักษารูปร่าง และโครงสร้างไว้เหมือนเดิม ภายใต้แบรนด์ “อุ้ยคำ” ซึ่งการทำทดลองทำโดยการดูดดน้ำออกและอบแห้ง ทำให้น้ำพริกหนุ่มมีน้ำหนักเบา และช่วยลดต้นทุนค่าขนส่ง พร้อมเพิ่มปริมาณการส่งออกได้เป็นเท่าตัว โดยระยะแรกของการทดลองสามารถเก็บรักษาได้นานถึง 5 เดือน แต่กลับพบว่ามีกลิ่นเหม็นอับ และสีเปลี่ยนแปลง จึงได้ทำการทดลองและพัฒนาใหม่ ผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ ไม่มีกลิ่นเหม็น และสามารถเก็บรักษาได้นานมากขึ้น
ทำให้ปัจจุบันน้ำพริกหนุ่มอบแห้ง “อุ้ยคำ” เก็บได้นาน 8 เดือน คาดว่าจะเก็บได้นานถึง 1 ปี และอนาคตจะพัฒนาต่อให้เก็บได้นานถึง 2 ปี จากแผนการตลาดที่เน้นการส่งออกเป็นหลัก โดยฉพาะผู้บริโภคชาวไทยในต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น จีน และสหรัฐอเมริกา ซึ่งความพิเศษของน้ำพริกหนุ่มอบแห้งอุ้ยคำ อยู่ที่ความสะดวกในการรับประทานเพียงเปิดซองเติมน้ำในอุณหภูมิห้องลงไป คนให้เข้ากัน ก็กลายเป็นน้ำพริกหนุ่มสดเหมือนเพิ่งทำใหม่ๆ แถมสะอาดปลอดภัยไร้เชื้อโรค
“การที่เราอยากพัฒนาน้ำพริกหนุ่มที่เป็นธุรกิจของครอบครัวที่ทำมานาน เพราะต้องการขยายตลาดให้กว้างมากขึ้น จากน้ำพริกหนุ่มที่หลายคนมองว่านำมารับประทานคู่กับแคบหมูได้เพียงอย่างเดียว แต่แท้จริงแล้วสามารถนำไปทำแกงหน่อไม้ใส่ชะอม หรือนำไปแทนเครื่องแกงได้ โดยตั้งราคาขายไว้เบื้องต้นที่ 35 บาท/ถ้วย คาดว่าจะขายจริงจังได้ในปีหน้า เพราะช่วงนี้อยู่ระหว่างการทำแพคเกจ และขอมาตรฐาน อย.และมาตรฐานอื่นๆ รองรับการส่งออกไปต่างประเทศด้วย”
ขณะที่กำลังการผลิตในปัจจุบันอยู่ที่ 300-400 ชิ้น/3 วัน ซึ่งสามารถเพิ่มการผลิตได้อีกมาก เน้นรสชาติกลางๆ ไม่เผ็ด ไม่ใส่ปลาร้า ซึ่งเป็นสูตรดั้งเดิมที่ทางร้านทำขายมาหลายปี นอกจากนี้ยังผลิตแหนมหมู และไก่ยอ ส่งขายตามร้านขายของฝากโดยไม่มีหน้าร้านเป็นของตัวเองแล้ว รวมถึงยังผลิตส่งให้ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นใน 17 จังหวัดภาคเหนือด้วย ส่งผลให้ยอดขายอยู่ที่ 5-6 ล้านบาท/ปี
ใครที่สนใจน้ำพริกหนุ่มอบแห้ง “อุ้ยคำ” ตอนนี้คงอดใจรอไปก่อน มีเพียงน้ำพริกหนุ่มแบบธรรมดาให้ลิ้มลองรสชาติแต่หากแพจเกจและมาตรฐานเรียบร้อย คงได้เห็นน้ำพริกหนุ่มของไทยไปโลดแล่นในตลาดโลกอย่างแน่นอน
***สนใจติดต่อ 05-8387-8294-5***