ม.หอการค้าไทยรับห่วงยอดส่งออกไทยต่ำสุดในเออีซี

ม.หอการค้าไทยประเมินการค้า การลงทุน ในไทย 4 ปีข้างหน้า ยังน่าห่วง หลังพบส่งออกสินค้าหลายประเภทไปตลาดอาเซียนยังน้อยกว่าประเทศอื่น ขณะที่มูลค่าส่งออกลดลงกว่า 8 พันล้านบาท แนะเอสเอ็มอีเร่งปรับตัว สร้างแบรนด์ไทยให้เข้มแข็ง พร้อมหาตลาดใหม่ควบคู่

นายอัทธ์ พิศาลวานิช คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยบทวิเคราะห์ประเมิน 4 ปี การค้า การลงทุน ภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี ) ว่า ภาพรวมการส่งออกไทยในภูมิภาคอยู่ในภาวะถดถอยอาการน่าเป็นห่วงเข้าข่ายเป็นประเทศที่เสียประโยชน์ ร่วมกับประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์

โดยอัตราการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าส่งออกระหว่างปี 2555-2556 ลดลง 8,428 ล้านบาท ขณะที่มาเลเซีย การเปลี่ยนแปลงมูลค่าส่งออก 2 ปีเพิ่มขึ้นอันดับ 1 ถึง 107,569 ล้านบาท รองลงมาคือ เวียดนาม เพิ่มขึ้น 55,958 ล้านบาท ซึ่งบทวิเคราะห์ยังระบุด้วยว่าสินค้าส่งออกของไทยใน 4 ปีที่ผ่านมามูลค่าส่งออกไปตลาดอาเซียนน้อย มูลค่าดุลการค้าน้อยหรือขาดดุลการค้า อัตราการขยายตัวของมูลค่าส่งออกไปอาเซียนมีแนวโน้มลดลง อัตราการขยายตัวมูลค่าการนำเข้าจากอาเซียนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ สินค้าส่งออกของไทยที่ส่งออกไปยังตลาดอาเซียนจำนวนมาก ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งทอ เนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง เครื่องดื่มและยาสูบ ส่วนสินค้าที่ตลาดซบเซา คือ ข้าว อาหารแปรรูป ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม กระดาษสิ่งพิมพ์ เครื่องนุ่งห่ม มันสำปะหลัง กาแฟ ยางพารา และพลาสติก

ส่วนสิ่งที่ทำให้ไทยสูญเสียส่วนแบ่งตลาดและต้องปรับตัว คือต้องทำการตลาดใหม่ สินค้าไทยเคยเป็นที่นิยมในตลาดอาเซียน แต่ไม่ทำการตลาดอย่างจริงจัง ไม่สร้างแบรนด์ในตลาดอาเซียนใช้แบรนด์ในไทย ไม่ปรับเป็นแบรนด์ที่เหมาะสม เจาะเข้าสู่อาเซียน ที่สำคัญผู้ส่งออกไทยไม่มีการร่วมมือกับบริษัทผู้จำหน่ายในพื้นที่ตลาดอาเซียน (เทรดดิ้ง คอมปานี) ทำให้การเข้าสู่ตลาดยังไม่มีประสิทธิผลสำหรับการลงทุน ไทยต้องมีวิธีการปรับส่งเสริมการลงทุน ให้เอสเอ็มอีไทยสามารถเข้าไปลงทุนได้เพิ่มขึ้น โดยต้องรวมตัวเป็นคลัสเตอร์จึงจะมีประสิทธิภาพ

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *