ขอเกาะกระแสบอลโลกสักนิด ก่อนกระแสนี้จะสิ้นสุดลงในวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ ด้วยไอเดียการทำช็อกโกแลตเอาใจคอบอล พร้อมการตกแต่งร้านที่ผู้ประกอบการสามารถนำไปปรับใช้ได้ ไม่เพียงแต่ช่วงนี้เท่านั้น แต่ยังนำไอเดียไปใช้กับเทศกาลอื่นได้
เมื่อทีมงาน SMEsผู้จัดการออนไลน์ ได้มีโอกาสไปเยือนประเทศมาเลเซีย ก็ไม่ลืมเก็บเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในการทำธุรกิจในต่างแดนมาฝากกัน เผื่อใครจะนำไปปรับใช้กับธุรกิจของตนเอง
ร้าน Chocolate Gallery ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ขึ้นชื่อเรื่องของฝากประเภทช็อกโกแลต จากการมีไร่ปลูกต้นโกโก้เป็นของตนเอง เพื่อนำผลโกโก้มาทำแปรรูปเป็นช็อกโกแลต และนำผลไม้ท้องถิ่นมาทำเป็นไส้ เช่น ทุเรียน มะละกอ กล้วย เป็นการเพิ่มความหลากหลายและทางเลือกแก่ลูกค้า โดยรสชาติที่ขายดีที่สุดคือ ทีรามิสุ ความพิเศษอยู่ที่ความขมในการรับประทานครั้งแรก แต่ต่อมาความหวานจะแผ่ซ่านไปทั่วทั้งปาก ทำให้ได้รับความนิยมในกลุ่มลูกค้าต่างชาติ อย่าง จีน ไต้หวัน เวียดนาม ออสเตรเลีย รวมถึงคนไทยด้วย
ล่าสุดทางร้านใช้กลยุทธ์ทางการตลาดด้วยการเกาะกระแสบอลโลก ออกคอลเลคชั่นช็อกโกแลตทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าลายธงชาติที่เข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้ มีให้เลือกทั้งแบบชิ้นเดี่ยวราคาประมาณ 45 บาท หรือจัดเซตเป็นกล่องให้เป็นของฝาก โดยแบบเซตราคาประมาณ 290 บาท (4 ชิ้น)
นอกจากช็อกโกแลตเกาะกระแสบอลโลกแล้ว ทางร้านยังออกแบบเซตช็อกโกแลตตามเทศกาลต่างๆ ให้ลูกค้าได้เลือกสรรด้วย เช่น วันเกิด วาเลนไลน์ ให้กำลังใจ แสดงความรัก และการต้อนรับ ทำให้สินค้าสามารถขายได้ทั้งปี
ขณะที่การจัดร้านตามเทศกาลก็เป็นจุดขายหนึ่งที่ดึงดูดลูกค้า และช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างในช่วงนี้ที่มีบอลโลก ทาง Chocolate Gallery ก็นำเอากล่องช็อกโกแลตมาต่อกันเป็นรูปตึกแฝดสัญลักษณ์ของประเทศมาเลเซีย พร้อมนำตุ๊กตาน่ารักจับใส่เสื้อของแต่ละประเทศที่เข้าแข่งขัน เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกอยากซื้อช็อกโกแลตไปฝากบรรดาแฟนบอลที่บ้าน
กลยุทธ์ง่ายๆ เช่นนี้ทำไม่ยากเลย แต่ผู้ประกอบการไทยบางรายกลับมองข้าม ทั้งที่สามารถโกยเงินเข้ากระเป๋าในแบบที่ลูกค้าเต็มใจจ่ายได้อย่างสบาย
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
