สสว.เผยผลการสำรวจเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบจากการเมืองรุนแรงถึงร้อยละ 56 แจงยอดขายลด รายได้ลด ขาดสภาพคล่อง แถมภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นถดถอย ขอเวลาดูสถานการณ์หลังผ่าน Q1 ก่อนพิจารณาปรับเป้า GDP SMEs
นายปฏิมา จีระแพทย์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ผลกระทบจากปัญหาการเมือง สสว.ได้ติดตาม โดยส่งเจ้าหน้าที่สำรวจผลกระทบผู้ประกอบการทั่วประเทศ 500 ราย จากเอสเอ็มอี 3 กลุ่ม ได้แก่ ภาคการค้า 60% บริการ 26% และการผลิต 24% พบว่าเดือนมกราคมมีผู้ประกอบการได้รับผลกระทบรุนแรง 38% ปานกลาง 28% กระทบน้อย 12% และไม่ได้รับผลกระทบ 22% ขณะที่เดือนกุมภาพันธ์ผลกระทบรุนแรงมากขึ้น โดยผู้ประกอบการได้รับผลกระทบรุนแรงเพิ่มขึ้นเป็น 56% ปานกลาง 25% กระทบน้อย 4% และไม่ได้รับผลกระทบ 15%
ทั้งนี้ ผลกระทบต่อเอสเอ็มอีในเดือนมกราคมส่วนใหญ่เจอปัญหายอดขายสินค้าลดลง กระทบแผนการผลิต การขนส่งวัตถุดิบ กระทบคำสั่งซื้อล่วงหน้า ขณะที่เดือนกุมภาพันธ์ พบปัญหาเพิ่มขึ้นอีก ในด้านสภาพคล่องทางการเงินทางธุรกิจมากขึ้น ปัญหาด้านภาพลักษณ์และความเชื่อมั่น การนำเข้าส่งออกสินค้า
ผอ.สสว.กล่าวด้วยว่า จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการขนาดกลางรายหนึ่ง พบว่ายอดขายลดลงไปถึง 30% ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองยอดขายลดลงจากปลายปี 2556 กว่า 40% ขณะที่ข้อมูลของสมาคมผู้ค้าตลาดนัดสวนจตุจักรในเดือน ม.ค. 2557 ที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติหายไปถึง 98% นักท่องเที่ยวชาวไทยหายไป 63% และมีร้านค้าปิดตัวลง 32% ทั้งนี้สาเหตุที่สำคัญมาจากการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้ผู้ซื้อจากต่างชาติหายไปมาก และอยู่ใกล้เวทีการชุมนุมที่ห้าแยกลาดพร้าว
นายปฏิมากล่าวต่อว่า แม้ขณะนี้เอสเอ็มอีจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง แต่ สสว.ก็ยังไม่ปรับเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของเอสเอ็มอี (GDP SMEs) ที่ตั้งเป้าว่าจะมีสัดส่วนประมาณ 40% ของจีดีพีรวมประเทศ โดยขอให้ผ่านช่วงไตรมาสที่ 1 เสียก่อนจึงจะมาประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *
