หอการค้าไทยชี้เหตุผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ และการเมืองทำให้เอสเอ็มอีต้องปรับตัวใหม่ ดังนั้น ทางหอการค้าไทยเล็งเห็นว่า ควรที่จะปรับยุทธศาสตร์การพัฒนาและส่งเสริมเอสเอ็มอีใหม่ มุ่งเน้นปรับแผนดำเนินการ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน
นายสมเกียรติ อนุราษฎร์ รองประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยมีแผนในการปรับยุทธศาสตร์การพัฒนาและส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอีไทยใหม่ให้สอดคล้องกับภาวะปัจจุบันมากขึ้น หลังจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยที่มีประมาณ 2.8 ล้านรายเริ่มประสบปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวและสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง
ทั้งนี้ หากไม่มีการปรับแผนดำเนินการจะส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถทางด้านการแข่งขันของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้ โดยเฉพาะในปี 2558 ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) อย่างเต็มตัว และในขณะเดียวกันผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเองก็ควรที่จะมีแนวทางที่จะปรับแผนในการช่วยเหลือตนเองให้มากขึ้นด้วย โดยเฉพาะการสร้างภูมิคุ้มกัน และสร้างศักยภาพให้แข็งแกร่งได้ด้วยตนเอง
นอกจากนี้ แหล่งข่าวจากหอการค้าไทยกล่าวต่อว่า ปัญหาหลักของเอสเอ็มอีไทยในภาพรวมส่วนใหญ่พบว่ามาจากการผลิตสินค้าหรือบริการที่มีลักษณะไม่แตกต่างกันมากนัก ทำให้ต้องแข่งขันด้านกลไกราคากันเอง ทำให้ไม่สามารถแข่งขันในด้านราคาได้ ขณะเดียวกันยังพบว่าเอสเอ็มอียังมีปัญหาต้นทุนต่อหน่วยเพิ่มสูงขึ้น แต่ยอดขายและกำไรลดลง ทำให้เอสเอ็มอีมีปัญหาสต๊อกสินค้าเพิ่มขึ้นจนทำให้ขาดสภาพคล่อง ดังนั้น หอการค้าไทยจึงเห็นควรที่จะต้องมีการแก้ไขด้วยการรวมตัวกันสร้างความร่วมมือในด้านต่างๆ พร้อมนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยลดต้นทุน พร้อมกับเดินหน้าเปลี่ยนแปลงกระบวนการปฏิบัติงาน และเดินหน้าสร้างความแตกต่างให้แก่สินค้าและบริการด้วย
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *