ASTVผู้จัดการออนไลน์-“ปิยวดี โพนงาม” หรือ “เอ๋” คือ อีกหนึ่งอดีตมนุษย์เงินเดือนที่ฝันอยากจะมีกิจการเป็นตัวเอง ไม่ต้องการจำเจเป็นลูกจ้างใครอีกต่อไป ตัดสินใจเลือกเส้นทางชีวิตใหม่ ลาออกจากงานประจำมาเช่าพื้นที่เปิดร้าน อยู่ใน “เจเจ มอลล์” ตลาดนัดติดแอร์ ชื่อร้านว่า “Artery Shoppe”
โดยความพิเศษของร้านนี้ อยู่ที่การรวบรวมสินค้าแฮนด์เมดต่างๆ ทั้งกระเป๋าผ้า ตุ๊กตาเปเปอร์มาเช่ เสื้อปัก เสื้อสกรีน โปสการ์ด สมุดโน้ต เป็นต้น ไว้ครบถ้วนในจุดเดียวกัน เพื่อให้เป็นศูนย์รวมของคนรักงานทำมือมาเลือกซื้อหาสินค้าตามต้องการ
เธอ บอกว่า ความฝันอยากมีกิจการของตัวเองอยู่ในใจมานานแล้ว ก่อนหน้านี้ ตอนยังทำงานประจำ ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ จะไปเช่าพื้นที่ในตลาดนัดจตุจักรขายสินค้าหารายได้เสริมเรื่อยมา ส่วนใหญ่จะขายเกี่ยวกับสินค้าทำมือ หรืองานแฮนด์เมด เพราะเป็นความชอบส่วนตัว โดยมักประดิษฐ์สินค้าต่างๆ ด้วยตัวเอง จนเมื่อปลายปีที่แล้ว (2555) ตัดสินใจจะลาออกมาเปิดร้านของตัวเอง เลือกที่จะทำร้านที่ขายสินค้าทำมือต่างๆ อาศัยเช่าพื้นที่ใน “เจเจ มอลล์” เพราะเห็นว่า เป็นแหล่งซื้อชอปปิ้งที่ค่อนข้างติดตลาดอยู่แล้ว เดินทางสะดวก และขายได้ทุกวัน อีกทั้ง เหมาะจะใช้เป็นพื้นที่ทำงานแฮนด์เมดต่างๆ ภายในร้านได้อย่างเย็นสบาย
“เมื่อคิดว่า ร้านนี้จะขายสินค้าเกี่ยวกับแฮนด์เมด เอ๋ก็มาคิดว่า เราควรขายสินค้าแฮนด์เมดอะไรดี ก็เลยเริ่มจากดูความต้องการของตลาด ซึ่งปัจจุบัน กระแสสีเขียวกำลังเป็นที่ตื่นตัวของคนรุ่นใหม่ กระเป๋าผ้ากำลังเป็นที่นิยม ซึ่งส่วนตัว ก็เคยทำกระเป๋าผ้าขายอยู่แล้วด้วย ร้านนี้เลยตั้งต้นจากการเน้นขายกระเป๋าผ้าเป็นหลัก” ปิยวดี เผย
นอกจากนั้น ในร้านยังเปิดโอกาสให้เพื่อนๆ ในกลุ่มคนทำงานแฮนด์เมดด้วยกันนำสินค้ามาวางขายด้วย โดยเฉพาะสินค้าของเพื่อนสนิทอย่าง “นันธิดา รอดสถิตย์” (ย้ง) และ “วชิรภรณ์ รอดสถิตย์” (หยก) ที่เน้นงานประเภทเปเปอร์มาเช่ และงานปักผ้าต่างๆ รวมถึง ยังประดิดประดอยสินค้าแฮนด์เมดอื่นๆ เข้ามาเสริมในร้าน เช่น โปสการ์ด พวงกุญแจ เสื้อแฮนด์เมด สมุดโน้ต และอุปกรณ์เครื่องใช้จักสาน ฯลฯ เพื่อจะตอบความต้องการของลูกค้าได้กว้างที่สุด
“สิ่งที่ร้านเราเน้นเป็นพิเศษ คือ งานแฮนด์เมดที่จะเข้ามาในร้าน ต้องมีความโดดเด่น มีเอกลักษณ์ของตัวเอง ขณะเดียวกันก็ต้องมีคุณภาพดีด้วย อย่างงานกระเป๋าผ้า เอ๋เลือกใช้วัสดุผ้าเกรดเอ ตัดเย็บอย่างประณีต และออกแบบให้เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ส่วนงานเปเปอร์มาเช่ของย้งกับงานปักของหยก ก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ใครเห็นก็ต้องสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น เมื่อนำมารวมอยู่ในร้านเดียวกัน ก็จะทำให้เกิดความน่าสนใจ” เจ้าของชื่อเล่นเอ๋ อธิบาย และเล่าต่อว่า
ร้านนี้ใช้เงินเก็บส่วนตัวหลักแสน ลงทุนเปิดมาได้ประมาณเกือบหนึ่งปีแล้ว ที่ผ่านมาทำเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่ไปเลือกหาซื้อวัสดุต่างๆ มาทำสินค้า ออกแบบ และผลิต รวมถึงขายเอง ซึ่งที่ผ่านมาในการเปิดร้านนี้ ยอมรับว่า ต่างจากภาพที่วาดฝันไว้มาก
“ก่อนจะเปิดร้านจริง เราก็มีภาพในหัวว่า จะได้ทำงานแฮนด์เมดที่ตัวเองรัก และมีสินค้าแฮนด์เมดเด่นๆ ของกลุ่มเพื่อนมาวางขายที่ร้าน โดยขายปลีกให้แก่ลูกค้าที่รักแฮนด์เมดเหมือนๆ กัน แต่พอมาเปิดร้านจริงๆ แล้ว ทำให้เอ๋เรียนรู้ว่า กลุ่มงานแฮนด์เมด หากเราจะยึดแต่ขายปลีกหน้าร้านอย่างเดียว รายได้ที่เข้ามา ยากจะเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่า หรือค่าวัสดุ ยิ่งพอมีลูกค้ามาไถ่ถามว่า คุณสามารถจะผลิตสินค้าตามออเดอร์ในปริมาณมากๆ ได้หรือไม่ ซึ่งเราไม่เคยคิดในจุดนี้มาก่อน ก็ทำให้ต้องปฏิเสธและเสียโอกาสไป ดังนั้น หลังจากเปิดร้านมาได้สักระยะ เอ๋กับเพื่อนๆ เราเลยเริ่มปรับตัว เริ่มทำสินค้าแฮนด์เมดแบบตามออเดอร์ขายส่งด้วย” เจ้าของร้าน เล่า
ทั้งนี้ การปรับวิธีการทำสินค้าแฮนด์เมดในรูปแบบตามออเดอร์เพื่อลูกค้าขายส่งนั้น ปิยวดี แจกแจงว่า ในส่วนการผลิต ต้องปรับรูปแบบสินค้าให้สามารถจะทำในปริมาณมากขึ้น และในเวลาที่รวดเร็วขึ้น อย่างเช่นงานกระเป๋าผ้า ต้องลดรายละเอียดต่างๆ ลง ขณะเดียวกัน ต้องยอมที่ขายในราคาที่ถูกลง เพื่อแลกกับการได้งานรับจ้างผลิตในปริมาณที่มากยิ่งขึ้น
อีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ ด้านงานบริการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด พยายามตอบความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด เช่น การส่งสินค้าได้ตรงตามเวลา ออกแบบและผลิตให้ลูกค้าพอใจ รับออเดอร์ในปริมาณที่ไม่ต้องมาก อย่างกระเป๋าผ้า แค่ 20 ใบก็สามารถจะทำให้ได้
“เอ๋พยายามจะทำให้เราเป็นทางเลือกตรงกลางระหว่างการผลิตแบบแฮนด์เมด 100% กับการผลิตแบบโรงงาน นั่นคือ อยากให้เราสามารถจะยังคงเสน่ห์แบบแฮนด์เมดที่สวยงามคุณภาพดี มีดีไซน์โดดเด่น แต่ในขณะเดียวกัน ก็สามารถผลิตในปริมาณมากๆได้ ตั้งแต่หลักสิบถึงหลักร้อยชิ้นต่อหนึ่งออเดอร์ เพื่อจะเป็นทางเลือกของลูกค้าต้องการสั่งงานแฮนด์เมด เพื่อไปใช้ในโอกาสต่างๆ” สาวคนขยัน ระบุ
เมื่อถามถึงรายได้หลักในปัจจุบัน เธอเผยว่า มาจากการรับจ้างผลิตตามออเดอร์ อย่างประเภทกระเป๋าผ้าจะเป็นกลุ่มองค์กรต่างๆ สั่งไปใช้ในโอกาสต่างๆ เช่น แจกลูกค้าตามเทศกาลปีใหม่ หรือเกษียณอายุ เป็นต้น หรือตุ๊กตาเปเปอร์มาเช่ ถูกสั่งไปขายต่อ หรือใช้แจกเป็นของชำร่วยวันเกิด และวันแต่งงาน ส่วนซื้อปลีกหน้าร้าน ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่น ที่นิยมสินค้าน่ารัก และสดใส
ในร้าน ‘Artery Shoppe’ ขณะนี้ มีสินค้าแฮนด์เมดกว่า 50 รายการ เช่น กระเป๋าผ้า ตุ๊กตาเปเปอร์มาเช่ เสื้อปัก เสื้อสกรีน โปสการ์ด สมุดโน้ต พวงกุญแจ ฯลฯ ราคาเริ่มต้นที่ประมาณชิ้นละไม่กี่สิบบาทจนถึงสูงสุดหลักร้อยปลายๆ เท่านั้น อย่างเช่นกระเป๋าผ้าอยู่ใบละ 50-100 บาท (แล้วแต่แบบและขนาด) ส่วนตุ๊กตาเปเปอร์มาเช่น อยู่ที่ 70-590 บาท (แล้วแต่แบบ)
ปิยวดี เผยด้วยว่า ในอนาคตพยายามจะสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะได้ทำสินค้าแฮนด์เมดที่เป็นเอกลักษณ์และขายในแบบที่ตั้งใจไว้เริ่มแรก
และแม้ทุกวันนี้ ยังต้องเหนื่อยยากในการพาร้านขายสินค้าแห่งนี้ยืนหยัดอยู่ให้ได้ แต่อย่างน้อยที่สุด การได้ก้าวออกมาจากชีวิตมนุษย์เพื่อมีกิจการเป็นของตัวเอง ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตทำงานแต่ละวันมีความสุขอย่างมากแล้ว
โทร.086-789-7874 หรือเฟซบุ๊ก : Artery Shoppe
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
